สินค้าดีอย่างเดียวยุคนี้ไม่พอต้องมีเทคนิค“การตลาด” ร่วมด้วยยิ่งเราอยู่ในยุคออนไลน์ “วิธีการขาย” จึงต้องมีความหลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงใจ ชัดเจน ที่ผ่านมาเราอาจเห็นวิธีการขายสารพัดรูปแบบ ในที่นี้เราได้ลองรวบรวมทุกแคมเปญที่น่าสนใจเอาไว้เป็นข้อมูลให้ลองไปศึกษา ซึ่งขอบอกก่อนว่าทุกวิธีสามารถใช้ได้จริง แต่จะขายแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับไอเดียของพ่อค้าแม่ค้าด้วย

 

1.สะสมแต้มส่วนลด 
 

ภาพจาก www.facebook.com/7ElevenThailand/

การขายสินค้าไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ถ้าทำให้คนซื้อกลายเป็นลูกค้าประจำได้โอกาสขายก็มากขึ้น วิธีการหนึ่งที่น่าสนใจคือ “สะสมแต้มส่วนลด” ถ้านึกภาพไม่ออกก็ลองนึกถึงบัตรสะสมแต้มเช่นซื้อขานม 10 แก้วฟรี 1 เป็นต้น ในยุคออนไลน์วิธีนี้ก็นำมาใช้ได้โดยเรียกว่าเป็น Loyalty Program ซึ่งหลายแพลตฟอร์มมีการคิดค้นและพัฒนาระบบบัตรสมาชิกและสะสมแต้มด้วยเบอร์โทร ที่ไม่ต้องพกบัตรให้ยุ่งยาก เพียงแค่แจ้งเบอร์โทรก็สะสมแต้มได้ มีให้เห็นเช่น ALL member ของ 7-Eleven หรือการสะสมแต้มของโลตัส , บิ๊กซี เป็นต้น

 

2. Birthday Gift ส่วนลดสำหรับวันเกิด
 

ภาพจาก www.bcpgreenmiles.com

อะไรจะดีไปกว่าการที่รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษในวันพิเศษ นี่คือแคมเปญการตลาดที่ได้ใจลูกค้ามาก แต่จะเกิดวิธีนี้ได้เราต้องมีข้อมูลลูกค้าชัดเจน ว่าลูกค้าเกิดวันไหน เดือนไหน ซึ่งการมอบของขวัญพิเศษ Birthday Gift มีหลายอย่างเช่นมอบส่วนลด , จัดโปรโมชันพิเศษ , มอบคูปองโปรโมชัน , สิทธิ์การแลกซื้อ , แจกของแถม เป็นต้น และอย่าลืมว่าสิ่งที่ได้ไม่ใช่โอกาสเพิ่มยอดขายแต่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและเอาไปบอกต่อ ซึ่งเป็นเคล็ดลับสำคัญในการขยายฐานลูกค้าได้

 

3.“ซื้อทันที” “ฟรี”
 

“ซื้อทันที” “ฟรี” เป็นคำที่ทรงพลังมากที่สุดที่จะกระตุ้นลูกค้าได้ ยิ่งตลาดออนไลน์คู่แข่งเยอะมาก วิธีไหนก็ตามที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันทีมีผลต่อการสร้างยอดขายมาก และการจะให้ได้ผลมากขึ้นคำเหล่านี้เหมาะกับสินค้าที่มีความคุ้มค่าหรือสินค้านั้นมีความต้องการเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าสินค้าที่เราวางจำหน่ายมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นวิธีนี้ก็จะยิ่งได้ผลมากขึ้น คำว่า “ซื้อทันที” เป็นผลทางจิตวิทยาประเภทหนึ่งที่ทำให้คนรู้สึกว่าเป็นสินค้าที่ดี ที่สำคัญและควรรีบซื้อไว้ก่อนที่สินค้าเหล่านั้นจะหมด

 

4.กล่องสุ่ม
 

กล่องสุ่ม หรือ Mystery box เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วงหนึ่งฟีเวอร์มาก เสน่ห์ของกลุ่องสุ่มคือช่วยดึงดูดลูกค้า ทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก และช่วยกระตุ้นยอดขายได้ โดยพ่อค้าแม่ค้าจะนำเอาสินค้าในร้านนำมาจัดเป็นเซ็ทแล้วบรรจุลงในกล่อง แล้วนำกล่องนั้นออกวางขาย ซึ่งลูกค้าจะไม่รู้ว่าภายในกล่องที่ซื้อไปนั้นมีสินค้าอะไรอยู่บ้าง กล่องสุ่มนั้น คล้ายกับการได้เสี่ยงโชค ลูกค้าอาจจะได้ของดีเกินราคาที่ซื้อหรือถ้าไม่ใช่ก็ไม่รู้สึกว่าไม่เสียใจ แต่ส่วนใหญ่ของที่ใส่ในกล่องสุ่มมักไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวังมากนัก เพราะคนขายล้วนต้องการสร้างความประทับใจเพื่อโอกาสในการสร้างยอดขายในอนาคตด้วย

 

 

คำว่า Sale ยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ หากไม่เชื่อลองจัดกิจกรรมนี้ ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าร้านเราพร้อมจะ Sale ตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน แน่นอนว่าเราไม่ได้ลดราคาสินค้าทุกชนิด มันจะมีสินค้าบางชนิดเท่านั้นที่เราลดราคา สิ่งสำคัญคือเราต้องแจ้งลูกค้าว่าสินค้าที่เราลดราคามีอะไรบ้าง เทคนิคการลดราคาก็ต้องดูว่าสินค้าไหนที่เราต้องการเคลียร์สต็อคหรือเป็นสินค้าที่เก็บไว้ก็ไม่ทำให้เกิดรายได้ ซึ่งการนำมาSale ก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีการบริหารจัดการสต็อคสินค้าที่สำคัญมาก รวมถึงยังสร้างสีสันให้คนรู้จักได้อย่างดี แต่วิธีนี้ก็ควรใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป และที่เห็นมากที่สุดฮิตที่สุดคือการจัดโปรโมชั่น Sale ในวันและเดือนที่ตรงกันเช่น 9 เดือน 9 , 10 เดือน 10 เป็นต้น

 

 

กลยุทธ์ฟรีค่าจัดส่ง หรือ Free Delivery คือเทคนิคทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่า” ในเมื่อตัวเองต้องจ่ายค่าสินค้าไปแล้วทำไมต้องจ่ายค่าจัดส่ง ซึ่การจัดส่งฟรีมีผลต่อการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น สังเกตว่าทุกครั้งที่เราซื้อของออนไลน์เราจะดูก่อนเลยว่า “ค่าจัดส่ง” เท่าไหร่ บางทีสินค้าเหมือนกัน แต่อีกร้านฟรีจัดส่ง อีกร้านไม่ฟรี แน่นอนว่าเราต้องเลือกร้านที่ฟรีค่าจัดส่ง ซึ่งแคมเปญการตลาดแบบนี้อาจไม่ส่งผลดีในแง่รายได้ของพ่อค้าแม่ค้า แต่ในอีกมุมหนึ่งการยอมลดกำไรตัวเองลงมาสิ่งที่จะได้มากขึ้นคือจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

 

 

ภาพจาก https://pediasure.co.th/free-sample

เทคนิคการแจกของแถมหรือสินค้าตัวอย่าง (Tester) เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ และสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือการแจกสินค้าทดลองมีผลต่อการบอกต่อของลูกค้าได้ เพราะลูกค้าเมื่อได้ลองใช้สินค้าที่เราให้ลอง เมื่อมองเห็นประสิทธิภาพ ย่อมทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจ และถ้าสินค้าของเรานั้นดีจริง หรือถูกใจลูกค้ามากก็จะกลายเป็นกระแสของการบอกต่อได้อีกด้วย ปัจจุบันก็มีสินค้าหลายแบรนด์ที่นอกจากทำสินค้าไซด์ปกติยังทำไซด์ขนาดพกพาเพื่อให้คนได้ลองใช้ก่อนด้วย

 

8.ซื้อครบ….รับฟรี ของแถม!
 

โฆษณาออนไลน์เราจะเห็นวิธีหนึ่งที่ใช้มาก คู่การลดราคาคู่กับการแถม เช่น “599 เราไม่ขาย แต่เราขายเพียง 499 แต่เดี๋ยวก่อนแถมฟรีทันที….” สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้คนอยากซื้อได้มาก เรียกว่าทั้งลดทั้งแถม แม้แต่การไปซื้อของตามร้านหรือห้างสรรพสินค้าก็มีแคมเปญแบบนี้เยอะมากเช่น ถ้าซื้อของครบ 700 บาท รับฟรีถุงผ้าลายพิเศษ มูลค่า 300 บาท เป็นต้น ถ้าเราเป็นลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าใกล้ถึงราคากำหนดจะรู้สึกว่าเพิ่มเงินอีกนิดเดียวก็จะได้ของแถมมาด้วย และสินค้าที่ซื้อก็เป็นสิ่งที่เราต้องใช้ ก็ทำให้ตัดสินใจเพิ่มเงินซื้อมากขึ้นเรียกว่าเป็นการตลาดแบบ Basket Size ที่เพิ่มการซื้อมากขึ้น

 

9.ตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข “9”
 

เทคนิคพื้นฐานสุดๆ ที่น่าจะได้ผลมากคือ “การตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9” ไม่ว่าจะแบรนด์หรือแม่ค้าทั่วไปทั้งออนไลน์และออฟไลน์ต่างก็ใช้และเพิ่มยอดขายกันนับไม่ถ้วน เนื่องจาก การลงท้ายด้วย 9 ผู้บริโภคมักจะมองว่าราคาดีน่าสนใจ เพราะในทางจิตวิทยาสมองของมนุษย์เรียงลำดับการรับรู้จากซ้ายไปขวา การตั้งราคาสินค้าลงท้ายด้วยเลข ‘9’ จึงเป็นเทคนิคทำให้สินค้าดูมีราคาถูก โดยทำให้ตัวเลขที่อยู่ด้านหน้ามีค่าน้อยลง เช่น 499 เทียบกับ 500 แม้ราคาที่ต่างกันเพียง 1 บาท แต่สมองจะจำว่า เลข 4 นั้น มีค่าน้อยกว่า เลข 5 การตั้งราคาแบบนี้จึงสามารถทำให้สินค้าชิ้นละ 500 กลายเป็นเพียงสินค้าชิ้นละสี่ร้อยกว่าบาทเท่านั้น

 

10.ซื้อสินค้าเพื่อชิงโชค
 

ภาพจาก www.facebook.com/maliclubfriend/

คนเรามักชอบอะไรก็ตามที่ได้มาฟรียิ่งคนไทยนิยมมากกับการเสี่ยงโชค แคมเปญนี้เราเห็นบ่อยมากทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การซื้อสินค้าเพื่อชิงโชคมีอยู่หลายรูปแบบเช่น การกรอกรหัสใต้ฝาเพื่อชิงรางวัล , การส่งชิ้นส่วนฉลากมาลุ้นรางวัล เป็นต้น ยิ่งรางวัลใหญ่ความน่าสนใจก็ยิ่งมากเช่น ลุ้นรางวัลที่ 1 ไปเที่ยวญี่ปุ่น , ลุ้นรับรางวัลรถยนต์ , หรือสร้อยคอทองคำต่างๆ เป็นต้น ที่ผ่านมาก็เกิดกระแสฟีเว่อร์ในการชิงโชคของสินค้าบางชนิดมาบ้างแล้ว แม้วิธีนี้จะค่อนข้างเก่าแก่แต่ก็ได้ผลมาก ก่อให้เกิดการซื้อสินค้าที่มากขึ้นด้วย

 

แต่ทุกกลยุทธ์การตลาดย่อมมีผล 2 ด้าน หากใช้ไม่ถูกวิธีผลที่ตามมาอาจไม่สร้างยอดขายแต่จะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อแบรนด์ยิ่งเราอยู่ในยุคออนไลน์ที่การสื่อสารแพร่ถึงกันรวดเร็วมาก วิธีการร่วมสนุก กฎกติการการเข้าร่วมแคมเปญ ตองมีความชัดเจนแคมเปญที่ดีคือทำให้คนรู้สึกว้าว และสามารถเพิ่มยอดขายให้เราได้ในช่วงเวลาหนึ่งและอาจมีผลต่อการเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้นในอนาคตได้ด้วย

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)