“บิ๊กซี” ซุ่มเสริมแกร่งค้าส่ง ผุดใหม่ “จัมโบ้” แทนรีโนเวต

“บิ๊กซี” ซุ่มเงียบเสริมแกร่งโมเดลค้าส่งบิ๊กซีจัมโบ้ ศึกษาสร้างสาขาใหม่ที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนจากสาขาเดิม หลังทำตลาดค้าส่งมาได้ 2 ปีคุยมาถูกทาง
      
แหล่งข่าวจากบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือข่ายค้าปลีก บิ๊กซี เปิดแผยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวแบรนด์ค้าส่ง บิ๊กซีจัมโบ้ เพื่อรุกตลาดค้าส่งเป็นครั้งแรกในไทย โดยได้ทำการทดลองดำเนินการสาขาแรกที่สำโรงด้วยการปรับจากห้างคาร์ฟูร์เดิมหลังจากเทกโอเวอร์มา และอีกสาขาที่นวนครซึ่งเป็นสาขาเดิมของบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ที่เป็นโมเดลค้าปลีกดั้งเดิม
      
รวมทั้งการเปิดพื้นที่บางส่วนเป็นบิ๊กซีสเตชันในบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ 2 สาขา คือที่พัทยาและอยุธยา ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวบิ๊กซีจัมโบ้สาขาที่สามคือที่ราษฎร์บูรณะเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งปรับเปลี่ยนจากสาขาเดิมของบิ๊กซีมาเป็นจัมโบ้แทน
      
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าบริษัทฯ วางแผนที่จะมีการปรับครั้งใหญ่สำหรับกลยุทธ์การเปิดบิ๊กซีจัมโบ้เพื่อให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ทั้งรูปแบบการบริการ การลงทุน การจัดวางสินค้า เป็นต้น
      
“ที่ผ่านมา บิ๊กซีจัมโบ้จะเป็นการปรับเปลี่ยนจากสาขาเดิมอยู่แล้วมาเป็นบิ๊กซีจัมโบ้ จึงไม่เคยมีการก่อสร้างสาขาใหม่ขึ้นมาสำหรับบิ๊กซีจัมโบ้เลย ซึ่งเรากำลังศึกษาอยู่ว่าอาจจะมีการสร้างสาขาใหม่เพื่อให้เหมาะสมทั้งในแง่โครงสร้าง การจัดวางพื้นที่ การขนส่งสินค้าด้วย ซึ่งจะเห็นได้ในปีนี้หรือปีหน้าก็ได้ ซึ่งเรามีการศึกษาไว้หลายทำเลเช่นกัน โดยพื้นที่ที่ต้องใช้นั้นขั้นต่ำอยู่ระหว่าง 10 กว่าไร่ขึ้นไป หรือพื้นที่ขายประมาณ 10,000 ตารางเมตร”
      
ส่วนในเรื่องของการจัดแพกเกจสินค้านั้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งอาจจะมีการจัดสินค้าเป็นแพกทั้งเล็กลงและใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ทำอยู่ รวมทั้งจะมีสินค้าเฮาส์แบรนด์เข้ามาวางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นด้วย
      
ทั้งนี้ หลังจากทดลองเปิดบริการมาสามสาขาแรกนั้นพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือผู้ประกอบการทั้งเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ร้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร และองค์กรที่ต้องการสินค้าจำนวนมาก แต่ในแง่ของลูกค้าแบบซื้อปลีกก็ยังมีเช่นเดิม เพราะบริษัทฯ ต้องการเป็นทางเลือกให้ตลาดเหมือนเดิม โดยที่สาขาสำโรงมียอดสมาชิกประมาณ 30,000 กว่ารายแล้ว ที่สาขานวนครมีสมาชิกประมาณ 8,000 กว่าราย ส่วนที่ราษฎร์บูรณะตั้งเป้าประมาณ 10,000 ราย
      
สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีการจำหน่ายค่อนข้างมากคือ เครื่องดื่ม บุหรี่ ขนม อาหารแห้ง อุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยที่ลูกค้าที่ไม่มีบัตรจัมโบ้ก็สามารถเข้ามาซื้อสินค้าได้เช่นกัน แต่จะไม่ได้รับส่วนลดหรือสิทฺธิพิเศษเหมือนผู้ที่ถือบัตรบิ๊กซีจัมโบ้ และสามารถรองรับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่รัศมีประมาณ 10 กิโลเมตร
      
สำหรับบิ๊กซีจัมโบ้ สาขาราษฎร์บูรณะนี้ ดร.สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร รองประธานฝ่ายธุรกิจใหม่และนวัตกรรรม บิ๊กซี กล่าวว่า ที่สาขาราษฎร์บูรณะนี้จะรองรับตลาดในย่านรัศมี 10 กิโลเมตรได้อย่างดี ครอบคลุมพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ พระประแดง ทุ่งครุ บางคอแหลม ยานนาวา จอมทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชากรหนาแน่น รวมทั้งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากด้วย บริษัท ห้างร้าน ธุรกิจขนาดเล็ก ร้านขายของชำ ร้านอาหารกลุ่มเอสเอ็มอีจำนวนมาก
      
“จากการสำรวจของบิ๊กซีพบว่า พื้นที่ย่านราษฎร์บูรณะนี้ไม่มีแหล่งค้าส่งขนาดใหญ่รองรับความต้องการของผู้บริโภคย่านนี้ที่มักจะซื้อสินค้าคราวละจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่นี้เหมาะกับการทำเป็นโมเดลแบบค้าส่งมากกว่าค้าปลีก บิ๊กซีจึงปรับเปลี่ยนสาขานี้เป็นบิ๊กซีจัมโบ้ค้าส่งแทน เน้นจำหน่ายสินค้าแพกใหญ่ในราคาขายส่ง มีสินค้าเพิ่มจากเดิม 3,000 รายการ รวมเป็นมากกว่า 10,000 รายการ”
      
ล่าสุดบิ๊กซีมีเครือข่ายค้าปลีกในไทยหลายรูปแบบ คือ ไฮเปอร์มาร์เกต 121 สาขา, บิ๊กซีจัมโบ้ 3 สาขา, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า 18 สาขา, บิ๊กซีมาร์เก็ต 30 สาขา, มินิบิ๊กซี 286 สาขา (รวมที่อยู่ในปั๊มบางจาก 62 สาขา), ร้านเพียว 132 สาขา

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์