บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
592
2 นาที
6 พฤศจิกายน 2567
เจ้าของแฟรนไชส์ที่ว่ารวย มีรายได้จากช่องทางไหน 
 

ธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ใช่ระบบของการระดมทุนเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าของแฟรนไชส์ซอร์อย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาธุรกิจร่วมกันระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีให้เจริญเติบโตไปด้วยกัน โดยแฟรนไชส์ซอร์จะต้องนำรายได้จากระบบแฟรนไส์ไปดูแลและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ซี ซึ่งเงินรายได้ของแฟรนไชส์ซอร์ในแต่ละเดือนมาจากหลายช่องทาง ดังต่อไปนี้ 
 
1.ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ หรือ Franchise Fee
 

ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์หรือเรียกว่าค่าสิทธิ์แรกเข้า เป็นเงินก้อนแรกที่แฟรนไชส์ซีจะต้องจ่ายให้กับแฟรนไชส์ซอร์ เพื่อรับสิทธิ์ในการเปิดสาขาหรือดำเนินธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียวกัน โดยปกติแล้วค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ หรือ Franchise Fee จะจ่ายครั้งเดียวเมื่อตกลงทำสัญญาระหว่างแฟรนไชส์ซอร์กับแฟรนไชส์ซี ซึ่งค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จะแยกออกจากงบการลงทุนแฟรนไชส์ ถ้าเป็นแบรนด์เล็กๆ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จะถูก แบรนด์ใหญ่ๆ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จะแพง
 
เช่น เชสเตอร์ (CHESTER’S) 
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 700,000 บาท 
  • งบการลงทุน 6,000,000 บาท 
เมื่อคำนวณรายได้จากค่าแฟรนไชส์แรกเข้า คือ 700,000 บาท หากขายแฟรนไชส์ได้ 20 ราย แฟรนไชส์ซอร์จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้าประมาณ 14,000,000 บาท 
 
2. ค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือ Royalty Fee
 

รายได้ที่แฟรนไชส์ซอร์จะได้รับจากแฟรนไชส์ซีเป็นรายเดือน โดยรายได้ในส่วนของ Royalty Fee จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมของเดือน โดยส่วนใหญ่ค่า Royalty Fee จะคิดอยู่ระหว่าง 3-5% เช่น คาเฟ่ อเมซอน จะมีค่า Royalty Fee อยู่ที่ 3%

หากสาขาแฟรนไชส์ 1 แห่ง มียอดขาย 1,000,000 บาท/เดือน แฟรนไชส์ซอร์จะได้รับ 30,000 บาท/เดือน ถ้ามี 20 สาขา จะได้รับ 30,000 x 20 = 600,000 บาท/เดือน หรือ 7,200,000 บาท/ปี 
 
3. ค่าธรรมเนียมการตลาด หรือ Marketing Fee
 

รายได้ที่แฟรนไชส์ซอร์จะได้รับจากแฟรนไชส์ซีเป็นรายเดือนเช่นเดียวกัน รายได้ส่วนนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายในแต่ละเดือน ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3-5% โดยเงินส่วนนี้เป็นการสนับสนุนการทำการตลาดของแบรนด์แฟรนไชส์ เช่น คาเฟ่ อเมซอน มีค่า Marketing Fee อยู่ที่ 3% 

หากสาขาแฟรนไชส์ 1 แห่ง มียอดขาย 1,000,000 บาท/เดือน แฟรนไชส์ซอร์จะได้รับ 30,000 บาท/เดือน ถ้ามี 20 สาขา จะได้รับ 30,000 x 20 = 600,000 บาท/เดือน หรือ 7,200,000 บาท/ปี 
 
4. การขายวัตถุดิบหรือสินค้า 
 

แฟรนไชส์ซอร์จะมีรายได้จากการขายวัตถุดิบหรือสินค้าให้กับสาขาแฟรนไชส์ซี ถ้าแฟรนไชส์ซอร์ขายวัตถุดิบให้แต่ละสาขาราคา 30,000 บาท/เดือน บวกกำไรเพิ่ม 20% จะมีรายได้ 6,000 บาท/เดือน ถ้ามี 20 สาขา จะมีรายได้ 120,000 บาท/เดือน หรือ 1,440,000 บาท/ปี  
 
5. ค่าธรรมเนียมต่อสัญญาแฟรนไชส์  
 

ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆ แบรนด์ จะคิดเงินเพิ่มจากค่าต่อสัญญาแฟรนไชส์ อาจจะคิด 50% ของค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า ถ้าค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า 100,000 บาท ค่าต่อสัญญาแฟรนไชส์จะอยู่ที่ 50,000 บาท ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาสัญญาแฟรนไชส์ของแบรนด์ใหญ่ๆ จะอยู่ที่ 3-10 ปี 
 
เช่น เชสเตอร์ (CHESTER’S) มีระยะเวลาสัญญา 10 ปี คาเฟ่ อเมซอน มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี ต่ออายุได้อีก 3 ปี 
 
นั่นคือ รายได้ที่เจ้าของแฟรนไชส์จะได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งรายได้ในส่วนต่างๆ นี้ ไม่ใช่เจ้าของแฟรนไชส์เก็บเข้ากะเป๋าอย่างเดียว ต้องนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และสาขาแฟรนไชส์ซีด้วย 
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
897
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
629
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
563
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
516
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
499
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
481
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด