บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
321
2 นาที
27 ธันวาคม 2567
5 อันดับแรกที่คนไทยแชร์ "แฟรนไชส์" เยอะที่สุด บนเพจ Facebook ThaiFranchiseCenter ปี 2567
 

ช่วงปลายปีแบบนี้เราจะได้เห็นการจัดอันดับต่างๆ เพื่อให้เห็นสถิติและความนิยมของผู้คนตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่ง ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ในฐานะที่เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมแฟรนไชส์ไว้มากที่สุดในเมืองไทย ในปี 2567 ก็ได้นำเสนอแบรนด์แฟรนไชส์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้สาระความรู้สำหรับผู้ประกอบการหรือคนที่สนใจได้นำเอาไปปรับใช้ได้ และหากไปดูใน เพจ Facebook ThaiFranchiseCenter ที่มีคนกดถูกใจกว่า 2.3 แสนและมีผู้ติดตามกว่า 2.7แสน ตลอดปีเราได้นำเสนอสาระแง่มุมที่น่าสนใจไว้มากมาย และได้จัดมาเป็น 5 อันดับเรื่องที่คนไทยแชร์มากที่สุด ดังนี้
 
1. Mixue (มี่เสวี่ย) vs Minkki (หมิงคิ) ยอดแชร์ 8.7 พัน https://bit.ly/4iTkYNU
 

ช่วงประมาณกลางปี 2567 กระแสของ Mixue มาแรงมาก หลังจากนั้นก็มีแบรนด์อื่นๆ ที่ปรากฏตัวเป็นคู่แข่งมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Minkki (หมิงคิ) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ และเครื่องดื่มผลไม้ ก็เป็นแบรนด์ที่คนพูดถึงมากในช่วงเวลานั้น จึงมีคำถามน่าสนใจว่าระหว่าง Mixue (มี่เสวี่ย) vs Minkki (หมิงคิ) อะไรที่น่าสนใจมากกว่ากัน เราจึงได้จัดให้มีภาพอินโฟกราฟฟิคเปรียบเทียบความเหมือนและต่างระหว่าง 2 แบรนด์ดังกล่าว ผลปรากฏว่ามีคนสนใจข้อมูลนี้เป็นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมในสินค้า ก็มีทั้งผู้ที่ต้องการข้อมูลเพื่อเพิ่มความรู้และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องการข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกธุรกิจลงทุนด้วย
 
2.ซื้อแฟรนไชส์ คาเฟ่ อเมซอน (Shop) วันนี้ คืนทุนเมื่อไหร่? ยอดแชร์ 4.7 พัน https://bit.ly/4iTkYNU
 

ร้าน “คาเฟ่ อเมซอน” เป็นแฟรนไชส์ที่คนให้ความสนใจลงทุนมากที่สุดในบรรดาแบรนด์แฟรนไชส์กาแฟในไทย ปัจจุบันมีจำนวน 4,221 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “คาเฟ่ อเมซอน” คือสุดยอดแบรนด์เครื่องดื่มที่ติดชาร์จคนไทยมานาน และก็มีการตั้งคำถามที่หลายคนอาจไม่เคยรู้คำตอบว่าถ้าลงทุนซื้อแฟรนไชส์คาเฟ่ อเมซอน จะใช้เวลาในการคืนทุนเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้นำเสนอข้อมูลอันเป็นประโยชน์ที่บอกเล่าถึงรูปแบบการลงทุน งบการลงทุน ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่างๆ ยกตัวเลขในแต่ละส่วนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่สนใจได้มีข้อมูลสำหรับตัดสินใจลงทุนได้ง่ายมากขึ้น
 
3.ถอดสูตรสำเร็จ! CJ เปิดร้านข้างคู่แข่ง สร้างกำไร 50% ต่อปี ยอดแชร์ 3.2 พัน https://bit.ly/3BKfi80
 

ตลอดปี 2567 ธุรกิจค้าปลีกในเมืองไทยมีการแข่งขันดุเดือด แต่ละแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดให้มากที่สุด ซึ่ง CJ ในฐานะที่เป็นแบรนด์ดังที่ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,100 แห่ง ก็มีโมเดลการทำธุรกิจที่น่าสนใจอย่างเช่น “ป่าล้อมเมือง” หรือการพัฒนารูปแบบธุรกิจให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เข้าถึงลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้ง่ายขึ้น เราจึงได้เห็นหลายโมเดลที่น่าสนใจเช่น CJ Supermarket , CJ MORE และ CJX เป็นต้น ในการนำเสนอข้อมูลนี้จึงได้บอกเล่าแนวทางที่ CJ นำมาใช้อย่างได้ผลจนสามารถสร้างยอดขายเพิ่มท่างกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ถือเป็นเคล็ดลับและความรู้น่าสนใจที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจตัวเองได้
 
4.สงครามเดือด 6 แฟรนไชส์ ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ยอดแชร์ 2.2 พัน  https://bit.ly/3BKQJrG
 

ในปี 2567 ต้องบอกว่ากระแสของแบรนด์จีนที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยก่อให้เกิดสงครามเดือดโดยเฉพาะกลุ่มไอศกรีมซอฟเสิร์ฟที่แต่เดิมก็มีเจ้าตลาดในเมืองไทยอยู่แล้ว การมาของแบรนด์จีนทำให้มีการแชร์ตลาดมากขึ้น ซึ่งในอินโฟกราฟฟิคที่ทีมงานได้นำเสนอผ่านเฟสบุ๊คเมืองช่วงเดือนสิงหาคม 2567 เป็นการเปรียบเทียบ 6 แบรนด์ดังที่มีสินค้าเด่นคือไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ ทั้ง แดรี่ควีน , มี่เสวี่ย , วีดริ้งก์ , ไอชา , หมิงคิ และ แมคโดนัลด์ ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นภาพว่าแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นจุดแข็งอย่างไร งบลงทุนเท่าไหร่ มีกี่สาขา เป็นประโยชน์ให้คนที่สนใจได้นำข้อมูลนี้ไประกอบการตัดสินใจในการเลือกลงทุนในอนาคตได้
 
5.มาแล้ว! ภาพเดียวจบ แฟรนไชส์ MIXUE Thailand แปะไว้ แชร์ต่อได้เลย ยอดแชร์ 705 ครั้ง https://bit.ly/3VUfwQZ
 

เป็นปีที่ Mixue มาแรงในเมืองไทยโดยเฉพาะช่วงกลางปี 2567 เป็นที่พูดถึงมาก ทั้งในเรื่องรูปแบบสินค้า ราคา และความคุ้มค่า เกิดเป็นคำถามน่าสนใจโดยเฉพาะคนที่อยากลงทุนต้องการหาคำตอบว่า Mixue มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเท่าไหร่ ต้องใช้งบลงทุนมากแค่ไหน และหากลงทุนแล้วจะมีโอกาสคืนทุนอย่างไร ในภาพอินโฟกราฟฟิคที่ทางทีมงานแชร์จึงได้อธิบายทุกรายละเอียดเพื่อให้คนสนใจลงทุนได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนสุดๆ ซึ่งเชื่อได้ว่านี่คือข้อมูลแบบภาพเดียวจบ ที่นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างแท้จริง
 
ในปี 2567 มีหลายธุรกิจที่เป็นกระแสและอยู่ในความสนใจของผู้คนจำนวนมาก และมีอีกหลายเรื่องที่คนสนใจอาจไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุน แต่เรื่องการหารายได้เพิ่ม ทั้งที่แบบมีเงินน้อยแต่อยากลงทุน หรือการสร้างรายได้คู่กับงานประจำก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คนอยากรู้ในปี 2567 มากที่สุดสะท้อนให้เห็นถึงภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่เสถียรทำให้คนต้องการหารายได้เพิ่มเพื่อนำมาชดเชยกับรายจ่าย ก็ลองมาดูกันว่าในปี 2568 ที่จะถึงนี้คนไทยจะสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง ซึ่งทางทีมงานจะได้นำเสนอข้อมูลในทุกเรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจเช่นเคย 
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise