บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
542
2 นาที
2 เมษายน 2568
แฟรนไชส์แบบตึกเต้าหู้! สิ่งที่คนไทยต้องระวัง! ในการลงทุน
 

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมที่คาดว่ามีมูลค่ากว่า 458,390 ล้านบาทประชาชนเกิดความไม่แน่ใจทำให้เกิดการชะลอตัวซื้อขายและสิ่งที่รุนแรงสุดจากเหตุการณ์นี้คือการที่ตึกของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่กำลังก่อสร้างได้พังถล่มลงมา
 
ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่าเป็น “โครงการกากเต้าหู้” (Tofu-dreg project) หรือ “ตึกเต้าหู้” (Tofu building) หรือไม่
 
คำว่าตึกเต้าหู้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดยนายกรัฐมนตรี จู หรงจี ในปี 1998 ซึ่งได้กล่าวระหว่างเยี่ยมชมเขื่อนกั้นน้ำริมแม่น้ำแยงซีเกียงว่า เขื่อนกั้นน้ำเหล่านี้เปราะบางและมีรูพรุนเหมือนกากเต้าหู้ซึ่งเป็นเศษที่เหลือจากกระบวนการผลิตเต้าหู้ลักษณะสำคัญของตึกเต้าหู้ ได้แก่ การใช้วัสดุคุณภาพต่ำหรือไม่เหมาะสม

ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานและระเบียบข้อบังคับของอาคาร การดูแลและการจัดการที่ไม่เพียงพอในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง ส่งผลให้มีละเลยรายละเอียดที่สำคัญ และจุดอ่อนของโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่งทำให้ตัวอาคารไม่ปลอดภัยและมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายหรือพังทลาย
 
และจากคำว่า “ตึกเต้าหู้” ที่ว่านี้เมื่อนำมาเปรียบเทียบในการลงทุนแฟรนไชส์ ก็เป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจ และเป็นสิ่งที่คนต้องการลงทุนควรพึงระวังไว้ แฟรนไชส์ไหนที่ระบบโครงสร้างการบริหารจัดการไม่แข็งแรง แต่ฉวยโอกาสเปิดขายแฟรนไชส์อาจทำให้คนลงทุนต้องประสบเคราะห์กรรม ชีวิตทางธุรกิจอาจพังทลายในอนาคตได้เช่นกัน
 
ถ้าย้อนดูในอดีตก็มีหลายเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนให้คนลงทุนได้จดจำเป็นกรณีศึกษาเช่น
 
1.ทิม โฮ วาน ไปไม่รอดในเมืองไทย
 
ภาพจาก www.facebook.com/TimHoWanTH

ร้าน Tim Ho Wan (ทิม โฮ วาน) ติ่มซำระดับมิชลิน สตาร์ ร้านอาหารแฟรนไชส์จากฮ่องกงจากมีอยู่ทั้งหมด 4 สาขา ได้เริ่มทยอยปิดสาขาอำลาประเทศไทย โดย ที่ IconSiam ถือเป็นสาขาสุดท้ายที่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 67 เนื่องด้วยปัญหาจากหลายปัจจัยที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า 
 
2.ดารุมะ ขายแฟรนไชส์ทิพย์
 
ภาพจาก https://bit.ly/4j2GZJq

และก็ไม่ใช่แค่แฟรนไชส์จากต่างประเทศที่จะเป็นแฟรนไชส์แบบตึกเต้าหู้ ในไทยเองก็มีหลายแบรนด์ที่ต้องระวัง เช่นในปี 2565 ที่ร้านบุฟเฟต์อย่างดารุมะซูชิปิดขาย Voucher ราคาถูกเพียง 199 บาท จนคนแห่เข้ามาจองซื้อจำนวนมากก่อนที่เจ้าของแบรนด์จะหายไปอย่างไร้ร่องลอย และยังหลอกให้ผู้สนใจเข้ามาลงทุนซื้อเปิดร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ที่ไม่ถูกต้อง เพราะผู้สนใจแฟรนไชส์เพียงมีสถานที่ มีเงินลงทุน 2-2.5 ล้านบาท

ไม่รวมตกแต่งร้าน ไม่ต้องลงมือบริหารเอง เจ้าของแบรนด์จัดหาพนักงานให้ สั่งซื้อ-จัดส่งวัตถุดิบ บริหารจัดการให้ ผู้ลงทุนนั่งรอรับเงินส่วนแบ่ง 10% จากยอดขาย 1 ล้านบาท ที่ได้แต่ละเดือนเท่านั้น ซึ่งระบบแฟรนไชส์ที่แท้จริง ผู้ลงทุนต้องบริหารธุรกิจเอง และจ่ายค่าสิทธิให้แก่เจ้าของแบรนด์ด้วย กรณีดังกล่าว พบว่ามีผู้ที่ได้ผลกระทบไม่ต่ำกว่าพันราย สร้างความเสียไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท 
 
3. OK 20 หลอกลงทุน ไม่ส่งสินค้า 
 
ภาพจาก https://bit.ly/42cwPib

ในปี 2565 เช่นกัน เป็นกรณีของร้าน OK 20 ที่คนสนใจถูกหลอกลวงให้ซื้อแฟรนไชส์ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,999 บาท ซึ่งมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าคืนทุนไว กำไรดี แต่พอมีคนสนใจโอนเงินสำหรับลงทุนปรากฏว่าไม่มีการจัดส่งสินค้าตามที่ได้ระบุไว้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก
 
หรืออย่างกรณีของ Subway กรณีโดนลูกค้าจำนวนมากร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหาร ที่เบื้องลึกจริงๆ แล้วถือเป็นปัญหาภายในของซับเวย์เอง ทั้งปัญหาเรื่องของระบบแฟรนไชส์ ปัญหาสัญญาแฟรนไชส์ ปัญหาการจัดการ ปัญหาการสื่อสารในระบบแฟรนไชส์ และไม่มีการสื่อสารให้ผู้บริโภคทราบ เป็นต้น
 
หากสังเกตให้ดีว่าแฟรนไชส์แบบตึกเต้าหู้ที่เรายกตัวอย่าง อาจไม่ใช่ปัญหาที่เรื่องของโครงสร้างการบริหารจัดการเพียงอย่างเดียว แต่มีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในมุมของคนที่ต้องการลงทุนจริงๆ ก็ควรต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันคนที่ทำแฟรนไชส์จริงๆ และเป็นระบบที่แข็งแรงก็มีอยู่มาก รวมถึงหลายคนที่ลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์แล้วประสบความสำเร็จก็มีตัวอย่างให้เห็นไม่น้อย
 
และถ้ามองในแง่มุมว่าจะเลือกลงทุนแฟรนไชส์ไหนถึงจะมั่นได้สิ่งที่แฟรนไชส์ซอควรสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนคือ
  • สนับสนุนแฟรนไชส์ซีครบถ้วนเพียงพอตลอดอายุสัญญาแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมก่อนเปิดร้าน พัฒนาทักษะหลังเปิดร้าน การบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่เพียงพอ การทำการตลาด จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เป็นต้น
  • เปิดเผยข้อมูลและสื่อสารอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบโครงสร้างแฟรนไชส์ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ระยะเวลาคืนทุน รายละเอียดในสัญญาแฟรนไชส์ สินค้าและบริการต่างๆ
  • การตรวจสอบมาตรฐานสาขาแฟรนไชส์ซี ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการร้าน การจัดวางสินค้าและบริการ การให้บริการลูกค้าของพนักงาน การดูแลรักษาความสะอาด ที่ต้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
  • รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟรนไชส์ซี คือการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายแฟรนไชส์ซี มีการติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดอายุสัญญา
อย่างไรก็ดีถ้าสนใจต้องการลงทุนแฟรนไชส์แต่ไม่แน่ใจว่าแฟรนไชส์ที่เราเลือกนั้นน่าไว้วางใจแค่ไหน อาจสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์ให้แนะนำแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ เป็นอีกหนึ่งการสร้างความมั่นใจให้เราในเบื้องต้นได้ หรือการสอบถามโดยตรงกับผู้ลงทุนของแฟรนไชส์ในแต่ละสาขาว่าลงทุนแล้วเป็นอย่างไร มีการดูแลที่ดีจากแฟรนไชส์ซอแค่ไหน ก็อาจเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับประกอบการตัดสินใจเลือกแฟรนไชส์ที่จะไม่กลายเป็นแบบตึกเต้าหู้ในอนาคต
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
868
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
612
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
537
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
503
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
487
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
466
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด