บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
439
2 นาที
17 มิถุนายน 2568
ไม่มี USP ! ไม่มีทางโต ธุรกิจแฟรนไชส์ต้องมีจุดขายชัดเจน
 

USP (Unique Selling Point) คือจุดขาย หรือจะเรียกว่าเป็นความโดนเด่นของสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ยิ่งมีจุดขายที่แตกต่าง จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่แยกระหว่าง ธุรกิจแฟรนไชส์ธรรมดา กับ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตแบบ “ติดเทอร์โบร์” ดังนั้นการจะทำแฟรนไชส์ให้รุ่ง ไม่ใช่แค่เปิดสาขาเยอะๆ แต่ต้องมี USP ร่วมด้วย เพื่อดึงดูดนักลงทุนหรือลูกค้าเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ ว่าทำไมต้อง “ลงทุนกับแฟรนไชส์นี้”
 
ยกตัวอย่าง Unique Selling Point ที่ดีในธุรกิจแฟรนไชส์ ได้แก่
  • สินค้าเฉพาะตัว เช่น เมนูอาหารลับ สูตรเฉพาะ หรือวัตถุดิบหายาก 
  • แบรนด์แข็งแรง เช่น มีชื่อเสียงในโซเชียล มีลูกค้าประจำมากมาย 
  • ระบบสนับสนุนแฟรนไชส์ซี เช่น การเทรนนิ่งเต็มระบบ ซัพพอร์ตการตลาดทุกเดือน 
  • ลงทุนคุ้มค่า เช่น กำไรต่อเดือนสูง คืนทุนเร็วภายใน 6 เดือน 
  • ทำเลง่าย เปิดร้านสะดวก เช่น ใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องมีครัวใหญ่
หรือถ้าจะให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมาอีกหน่อยลองดูแฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่ปัจจุบันสินค้าแทบจะไม่ต่างกัน ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างพยายามชูเรื่องรสชาติ คุณภาพ และบริการเป็นสำคัญคำถามคือถ้าต้องการ “หนีคู่แข่ง” ด้วย Unique Selling Point จะทำได้อย่างไร

 
ก่อนอื่นแบรนด์เองก็ต้องมองภาพรวมก่อนว่าคุณค่าข้อไหนที่เราสามารถพัฒนาเป็นจุดขายเฉพาะได้ เช่น
  • ลูกค้าต้องการอะไร
  • สิ่งที่แฟรนไชส์เราทำให้ลูกค้าได้คืออะไรบ้าง
  • อะไรคือสิ่งที่แฟรนไชส์คู่แข่งกำลังทำให้กับลูกค้า
การตั้งคำถามเหล่านี้เพื่อที่จะกำหนดทิศทางของ Unique Selling Point ให้ถูกต้อง เช่นถ้าลูกค้าต้องการเครื่องดื่มที่นอกจากสดชื่นแล้วยังต้องดีต่อสูขภาพ ซึ่งคู่แข่งบางแบรนด์ก็อาจมีการทำตลาดแบบนี้ไปบ้างแล้ว ทีนี้ก็ต้องมาดูว่าถ้าเป็นสินค้าที่ใกล้เคียงกันแต่จะทำยังไงให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ 
 
 
ก็จะย้อนกลับมาที่เรื่องของ “คุณค่า” ที่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ของเราดีแค่ไหน ซึ่งมีข้อมูลน่าสนใจระบุว่าคุณสมบัติของจุดขายเฉพาะที่ดีมี 4 ข้อได้แก่
  1. ต้องแตกต่าง แต่ยังมีคุณค่าต่อลูกค้าเป้าหมาย
  2. มีเหตุผลให้ลูกค้าต้องซื้อซ้ำ ๆ
  3. ต้องทำได้ไม่ง่าย คู่แข่งทำตามได้ยากในเวลาสั้น ๆ
  4. เป็นจุดขายที่ใหม่และไม่เคยมีใครทำมาก่อนเพื่อให้เป็น Top of Mind ของลูกค้าได้
หรือถ้ามองในแง่ของการดึงดูดนักลงทุน การสร้าง Unique Selling Point ก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากหลักการตัดสินใจของคนลงทุนมักโฟกัสที่เรื่อง “รายได้” และ “กำไร” หากเราสามารถสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ให้มี Unique Selling Point + ยอดขายที่พิสูจน์ได้ = น่าลงทุนสุดๆ ดังนั้นจึงจำเป็นมีเอกสารการเงินง่ายๆ เช่น กราฟยอดขาย รายได้เฉลี่ยต่อวัน กำไรต่อเดือน เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้นักลงทุนด้วย ยกตัวอย่างเช่น
 
 
แฟรนไชส์เครื่องดื่ม : “คืนทุนไวใน 3 เดือน”
  • จุดขาย: วัตถุดิบต้นทุนต่ำ แต่ขายได้กำไรสูง
  • ค่าแฟรนไชส์: 150,000 บาท
  • ต้นทุนต่อแก้ว: 10 บาท
  • ขายเฉลี่ย 100 แก้ว/วัน ราคา 40 บาท/แก้ว
  • รายได้ต่อเดือน: 40 x 100 x 30 = 120,000 บาท
  • กำไรหลังหักต้นทุนเฉลี่ย: 90,000 บาท/เดือน
*** คืนทุนใน 2 เดือนครึ่ง
 
ซึ่งปัจจุบันทีมงานของแต่ละแฟรนไชส์จะมีการวิเคราะห์เชิงตัวเลขแบบนี้ให้นักลงทุนได้เห็นภาพชัดเจนก็นับเป็น Unique Selling Point ในรูปแบบของการลงทุนที่ของใครชัดเจนที่สุด ก็มีโอกาสขยายสาขาแฟรนไชส์ได้มากขึ้นด้วย
 
อย่างไรก็ดีแม้ Unique Selling Point จะเป็นวิธีสร้างจุดเด่นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและดึงดูดนักลงทุนแต่ก็มีเรื่องที่ต้องพึงระวังหากเป็น Unique Selling Point ที่โอ้อวดเกินจริง จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือการสร้างจุดขายโดดเด่นจริงแต่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนและเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย ก็อาจทำให้ Unique Selling Point ที่น่าจะดีกลายเป็น Unique Selling Point ที่ไม่มีประสิทธิภาพได้
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 


 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
886
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
625
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
556
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
514
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
497
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
477
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด