แฟรนไชส์ชูการ์เฮ้าส์ ธุรกิจเบเกอรี่ที่เริ่มต้นง่าย ลดขั้นตอนยุ่งยากทิ้งไปได้เลย!
ตลาดเบเกอรี่ในเมืองไทยยังน่าสนใจตัวเลขการเติบโตในปี 2560 นี้ดูจากรูปการแล้วภาพรวมนั้นเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาได้เกือบ 7% โดยมีมูลค่าโดยรวมของตลาดสูงกว่า 62,000 ล้านบาท เฉพาะในหมวดหมู่ของเบเกอรี่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และแม้ว่าในตลาดจะมีคู่แข่งมากแต่สิ่งที่ทำให้อยู่รอดคือการหาเมนูใหม่ๆและการบริหารที่ลดต้นทุนได้อย่างมีคุณภาพ
ซึ่ง
www.ThaiFranchiseCenter.com มีหนึ่งแฟรนไชส์ยอดฮิตอย่างชูกาเฮ้าส์ที่เปิดตัวมานานกว่า 4 ปี มีจุดเด่นคือเปิดโอกาสให้คนทำร้านเบเกอรี่ได้ง่าย ลดขั้นตอนยุ่งยากที่เคยมีมา ภาพรวมของชูกาเฮ้าส์ในปัจจุบันจึงเติบโตได้ดีและมีทิศทางที่พร้อมจะก้าวไปไกลอีกมาก
อยากมีธุรกิจเบเกอรี่เชิญทางนี้ได้เลย!
การมีร้านเบเกอรี่เป็นการลงทุนในฝันของใครหลายคน แต่สำหรับมือใหม่แล้วอาจจะยากเนื่องจากต้องมีความรู้ ความชำนาญ และสูตรเบเกอรี่ที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากลูกค้า แน่นอนว่ากว่าจะเป็นร้านเบเกอรี่ที่ติดใจลูกค้าได้ต้องลองผิดลองถูก เสียทั้งเงินและเวลามากมายกว่าจะตั้งร้านให้เป็นที่ยอมรับได้
ชูการ์เฮ้าส์จึงเป็นแฟรนไชส์ที่เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการลดความยุ่งยากในการผลิตเบเกอรี่ รวมถึงมีเวลาเน้นไปที่เรื่องการขายได้มากขึ้น อีกทั้งการมีตัวช่วยที่ดีอย่างชูการ์เฮ้าส์ก็เท่ากับว่าแม้เราไม่มีประสบการณ์ในการาทำขนมมาก่อนก็เริ่มต้นธุรกิจนี้ได้
ที่สำคัญทำให้เราเริ่มต้นการขายเบเกอรี่ได้ในงบที่ไม่สูงเกินไปใช้เวลาในการคืนทุนที่รวดเร็วยิ่งหากเรามีร้านอาหาร ร้านกาแฟอยู่ด้วยแล้วการมีเบเกอรี่มาเพิ่มเติมจะสร้างทางเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงการที่ชูการ์เฮ้าส์มีการคิดค้นสูตรเบเกอรี่ใหม่ๆมานำเสนอต่อเนื่องก็เป็นประโยชน์ที่ร้านเบเกอรี่เราเองก็จะอยู่ในกลุ่มผู้นำของตลาดแนวนี้ตลอดเวลา
สารพัดเมนูเบเกอรี่ อร่อยและดีไม่มีใครเหมือน
จุดเด่นของชูการ์เฮ้าส์ที่น่าสนใจคือสินค้าเป็นที่นิยม มีมูลค่าในตัวเอง ผู้ลงทุนขายได้ราคาดี ต้นทุนต่ำ กำไรมากกว่า 60% ของยอดขาย วัตถุดิบนั้นมีการคัดสรรมาอย่างดี และมีสารพัดเมนูที่น่าสนใจครบทุกความต้องการของลูกค้าเช่น
- บิงซู เช่น สตรอเบอรี่บิงซู , ชอคโกแลตกล้วยบิงซู , โอริโอบิงซู , ชาเขียวบิงซู , แตงโมบิงซู , ไมโลบิงซู เป็นต้น
- ขนมปังโทสต์ สูตรเฉพาะของแฟรนไชส์มีกว่า 9 เมนู เช่น ชิบูยาฮันนี่โทสต์,โทสต์ชาไทย,โทสต์ชาเขียว เป็นต้น
- ชอคโกแลตลาวา มีด้วยกัน 6 เมนู เช่น ชอคโกแลตลาวา,สตรอเบอรี่ลาวา,ชาไทยลาวา ,เนยถั่วลาวา เป็นต้น
- วาฟเฟิล เนื้อหนานุ่มมี 3 เมนู คือฮันนี่วาฟเฟิล , คาราเมลวาฟเฟิล , สตรอเบอรี่วาฟเฟิล
- เครปเย็น มี 4 รสชาติคือ เครปชอคกล้วย,เครปสตรอเบอรี่,เครปมะม่วง,เครปฝอยทอง
- เค้กต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้านิ่ม เค้กเนย ชีสเค้ก มาการอง รวมๆแล้วมีให้เลือกกว่า 20 ชนิด
- เครื่องดื่มต่าง กว่า 20 เมนู เช่น ชาเขียว โกโก้ ชานม อิตาเลียนโซดา น้ำผลไม้ปั่น รวมถึงสูตรกาแฟสดด้วย
8 สิ่งยิ่งกว่าคุ้ม เมื่อลงทุนเพียงแค่ 50,000 บาท!
หากคิดว่าจะเปิดร้านเบเกอรี่เองด้วยเงิน 50,000 บาทคงเป็นเรื่องยากมากในยุคนี้ ยิ่งต้องมาเสียเวลาคิดสูตรเบเกอรี่ สร้างตลาดให้น่าสนใจ เงินทุนที่ 50,000 ดูจะไม่พอแน่แต่ชูการ์เฮ้าทำให้ฝันของเราเป็นจริงได้ โดยในงบ 50,000 บาทนี้สิ่งที่เราจะได้รับกลับมาคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
1.ได้เทคนิคในการทำขนมเบเกอรี่และเครื่องดื่มสูตรต่างๆ พร้อมทั้งคำแนะนำในการบริหารจัดการร้านเช่น ระบบแคชเชียร์ ระบบสต็อก การจัดตารางพนักงาน การวางโครงสร้างค่าตอบแทนให้กับทีมงาน เป็นต้น
2.การอบรมจากแฟรนไชส์โดยสอนทำทุกเมนูแบบตัวต่อตัวเพื่อสามารถนำวัตถุดิบมาเปลี่ยนเป็นเมนูพร้อมเสิร์ฟได้รวมแล้วกว่า 70 เมนู สามารถเลือกเรียนได้ 2 ที่ตามสะดวกคือที่บางนาและที่อุดรธานี
3.ได้ชุดวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูปพร้อมเครื่องทำบิงซูมูลค่ากว่า 20,000 บาท
4.สิทธิพิเศษในการรับสินค้าจากทางส่วนกลางในราคาพิเศษเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ และมีกำไรสูงมากขึ้น
5.ทีมงานช่วยเหลือที่หน้างานจริง เมื่อเปิดร้านวันแรก พร้อมการสนับสนุนและปรึกษาฟรี ตลอดอายุสัญญา
6.สิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์และโลโก้รวมถึงถึงสิทธิ์ในการเปิดร้าน 1 อำเภอต่อ 1 ร้าน
7.การสนับสนุนทางการตลาด โปรโมทผ่าน Facebook และ Line@ ของแฟรนไชส์
8.เป็นการลงทุนครั้งเดียวจบไม่มีการเก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนและรายปี
พร้อมกันนี้โปรโมชั่นน่าสนใจสำหรับคนอยากเริ่มธุรกิจเบเกอรี่กับชูการ์เฮ้าส์ที่ลงทุนแค่ 50,000 บาทได้เครื่องทำบิงซูมูลค่า 20,000 บาท ยังได้รับวัตถุดิบสำหรับทำเมนูต่างๆมูลค่ากว่า 5,000 บาท เป็นโอกาสทองที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้มที่พร้อมทำให้ธุรกิจเราเติบโตและเดินหน้าได้เร็วมากขึ้น
รายได้ที่น่าสนใจของธุรกิจเบเกอรี่
คำถามว่าการเปิดร้านเบเกอรี่นั้นมีจุดคุ้มทุนเมื่อไหร่ ตอนไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้นทุนที่เราลงไปนั้นสูงมากแค่ไหนด้วย ในกรณีของชูการ์เฮ้าส์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ด้านเบเกอรี่เพราะต้นทุนวัตถุดิบนั้นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
นั้นหมายความว่าถ้าเมนูที่เราทำขายราคา 100 บาทเราจะมีส่วนต่างรายได้ที่ 60 บาท เฉลี่ยต่อหนึ่งโต๊ะมูลค่าบิลประมาณ 150-200 บาท ก็เท่ากับว่าเราจะมีรายได้ต่อโต๊ะกว่า 100 บาท ถ้าเราอยู่ในทำเลที่มีลูกค้าต่อเนื่องทั้งวันรวมถึงการขายในช่องทางออนไลน์และจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ ก็จะทำให้เรามีรายได้ชนิดที่เรียกว่าคุ้มค่าแบบสุดๆ
ทั้งนี้การมีแฟรนไชส์ชูการ์เฮ้าส์มาช่วยสนับสนุนในการเปิดร้านเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เริ่มต้นธุรกิจเบเกอรี่ได้อย่างมืออาชีพ ในยุคนี้ที่ใครยังมองหาอาชีพของตัวเองไม่เจอ
การมีร้านเบเกอรี่ที่ได้การสนับสนุนจากชูการ์เฮ้าส์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากและเชื่อว่านี่คือธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวเพราะสินค้ามีความต้องการที่ต่อเนื่องไม่มีตกเทรนด์ขอแค่บริการดี สินค้ามีคุณภาพ มีการอัพเดทเมนูใหม่ๆ และสิ่งเหล่านี้ชูการ์เฮ้าส์ก็มีบริการให้ผู้ลงทุนไว้อย่างครบวงจรแล้ว
ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ชูการ์เฮ้าส์
โทร. : 090-5615592
E-Mail : SugarHouseDessert@gmail.com