7.0K
 28 มกราคม 2562 
วอคอะเชคคาเฟ่ จากยอดขายวันละ 8 แก้ว สู่แฟรนไชส์รายได้หลักแสนต่อเดือน!


“ขยัน ตั้งใจ พยายามทำซ้ำๆ ทำไปจนกว่าจะสำเร็จ” แนวคิดสั้นๆง่าย ของคนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ หลายคนที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ต้องเลิกล้มกลางทาง ก็เพราะขาดคุณสมบัติข้อนี้ โดยเฉพาะในธุรกิจเครื่องดื่มอย่างชานมไข่มุก กาแฟ ที่ใครต่อใครบอกว่านี่คือ “ธุรกิจปราบเซียน” ซึ่งในความเป็นจริงทุกธุรกิจมีโอกาสในตัวเองเพียงแต่เราจะหามันพบหรือเปล่า

 
และหากใครที่ได้รู้จักกับ “วอท อะเชค คาเฟ่” อาจจะมองว่านี่คือธุรกิจที่โด่งดังมากขนาดที่เคยสร้างปรากฏการณ์ยอดขายวันละเป็น 1,000 แก้ว แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะมีวันนี้วันที่กลายเป็น “สุดยอดแฟรนไชส์” วอท อะ เชค คาเฟ่ ผ่านวิกฤติชีวิตมามากมายและสิ่งที่ได้รับในวันนี้คือความสำเร็จจากความพยายามไม่ใช่โชคช่วย www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาทุกท่านมารู้จัก วอท อะ ชค คาเฟ่ ให้มากขึ้น แล้วคุณจะรู้ว่า “ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ” เขาต้องเริ่มต้นอย่างไร
 
จากร้านเล็กๆ หน้าบ้าน เติบโตเป็นแฟรนไชส์มีสาขากว่า 23 แห่ง


คุณวทัญญู  พิชญานุกูล (คุณโอม)  เจ้าของแฟรนไชส์ “วอท อะเชค คาเฟ่” พูดถึงต้นทุนชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ออกจะเป็นเด็กรักสนุกด้วยซ้ำไป แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มคิดอยากมีธุรกิจ เพราะรู้สึกว่า ฐานะทางบ้านเริ่มไม่มั่นคงในฐานะที่ตัวเองก็เป็นลูกชายควรช่วยเหลืออะไรได้บ้าง


ในปี 2554 หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยรังสิต คุณโอม ก็นำเงินเก็บของตัวเองจำนวน 30,000 บาท มาลงทุนเปิดร้านชานมไข่มุก ยึดเอาทำเลหน้าบ้านตัวเองเป็นหลัก ถามว่ามีความรู้อะไรเรื่องนี้มาก่อนไหม? คำตอบคือ ไม่! ใช้เวลา 5-6 เดือนมาศึกษาก่อนเปิดร้านขายจริง ซึ่งเปิดร้านวันแรกขายได้ 8-10 แก้ว รายได้ประมาณ 200 บาท ห่างจากความฝันไกลลิบที่คิดว่าเปิดร้านแล้วจะขายให้ได้สัก 100 แก้ว
 
แต่สิ่งที่ยึดมั่นในใจคือ “ฉันต้องทำให้ได้” นั่นคือกำลังใจที่ทำให้สู้ต่อ จากร้านหน้าบ้านที่มีแต่โต๊ะพับธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เริ่มมียอดขายมากขึ้น จนถึง 6 เดือนที่ยอดขายเพิ่งจะได้ตามเป้าที่ตั้งใจคือวันละ 100 แก้ว ซึ่งตอนนี้มีรายได้เพิ่มเป็นวันละประมาณ 10,000 บาท


จุดเปลี่ยนที่ทำให้แบรนด์โตขึ้น คือ “ทำซ้ำ” “ทำต่อไป” “ทำไม่มีวันหยุด” โดยคุณโอมเปิดร้านทุกวันไม่มีวันหยุด และเน้นบริการสินค้าต้องดี อย่างไข่มุกต้มใหม่เสมอ ขายได้ 4 ชั่วโมงต้องเปลี่ยนไข่มุกใหม่ ยึดถือว่า “ลูกค้าทุกคนจ่ายเงินเราเท่ากัน ดังนั้นก็ต้องได้สินค้าที่ดีเท่ากันด้วย” 
 
พอเริ่มเปิดร้านได้ 1 ปีตอนนี้ยอดขายเพิ่มเป็น 200-300 แก้ว จนต้องขยายสาขาเพิ่มและเริ่มเปิดขายในระบบแฟรนไชส์เมื่อปี 2556 จนปัจจุบัน วอท อะ เชค คาเฟ่ มีสาขากว่า 23 แห่ง และมีการพัฒนาสินค้าและรูปแบบธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้ก้าวทันยุคสมัยด้วย
 
3 จุดเด่นของสุดยอดแฟรนไชส์วอท อะ เชค คาเฟ่


 
1.เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ


แฟรนไชส์ต้องขายคุณภาพไม่ใช่ขายแต่แบรนด์ หากลูกค้าซื้อแฟรนไชส์ไปจะต้องอยู่ได้ ต้องมีกำไร ต้องมียอดขายที่ดี การขยายในเชิงปริมาณไม่ได้หมายความว่าประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จชี้วัดว่าสาขาแฟรนไชส์นั้นอยู่รอดแค่ไหน
 
ซึ่งแทบทุกสาขาของ วอท อะ เชค คาเฟ มียอดขายสุทธิไม่ต่ำกว่าเดือนละ 100,000 บาท เป็นกำไรสุทธิ 50,000 บาทโดยประมาณ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทำเล และปัจจัยแวดล้อมในการขายเป็นสำคัญ
 
2.พัฒนาสินค้าก้าวทันตามยุคสมัย

 
ธุรกิจเครื่องดื่มแม้คู่แข่งจะมากแต่ความต้องการของสินค้าก็มีมากตามไปด้วย การจะทำให้อยู่รอดในธุรกิจนี้นอกจากบริการที่ดี คุณภาพที่ดี สินค้าต้องมีความแปลกใหม่ทันสมัย


โดย วอท อะ เชค คาเฟ่ มีการทดลองทำเมนูใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่องตัวไหนที่ลองตลาดแล้วขายดีก็จะบรรจุให้เป็นเมนูหลัก แต่สินค้าบางเมนูก็จะมาเฉพาะเทศกาลสำคัญๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอยากติดตามและเป็นสีสันทางการตลาดทีน่าสนใจ
 
3.รุกพื้นที่ห้างสรรพสินค้าพัฒนาเป็นพรีเมี่ยม


วอท อะ เชค คาเฟ เติบโตมาจากร้านธรรมดาและค่อยๆพัฒนามาเป็นสินค้าที่มีความน่าสนใจจากแก้วพลาสติกใสๆ เริ่มมีบรรจุภัณฑ์ของตัวเอง มีโลโก้ของตัวเอง และมีรูปแบบร้านที่พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ จากที่เคยขายแค่ชานมไข่มุกเพียงอย่างเดียวก็พัฒนาให้ครบวงจรกลายเป็น “วอท อะ เชค คาเฟ่” ที่มีกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ มากขึ้น และรุกเข้าห้างสรรพสินค้าที่เป็นทำเลน่าสนใจ
 
ปัจจุบันวอท อะ เชค คาเฟ่ มีอยู่แทบทุกห้างในภาคใต้ เราสามารถพบเจอได้ทุกที่ รวมถึงวอท อะ เชค คาเฟ่ ยังใส่ใจผู้ลงทุนทุกคน ด้วยนโยบายให้สิทธิ์พื้นที่การขายที่จะไม่ซ้ำซ้อนกันอย่างเด็ดขาดเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนมีกำไรจากการทำธุรกิจวอท อะ เชค ได้เร็วขึ้น


งบประมาณในการลงทุนของ “วอท อะ เชค คาเฟ่” มีแพคเกจเดียว ราคา 400,000 บาท ซึ่งหากต้องการลงทุนนอกจากค่าแฟรนไชส์ที่จะทำให้เราได้เรียนรู้การทำเครื่องดื่มสูตรต่างๆ ระบบการบริหารจัดการร้าน เทคนิคการตลาด การอบรมบุคลากรต่างๆ
 
สิ่งที่เราต้องมีคือเงินทุนอีกส่วนสำหรับการจัดทำร้าน ซึ่งจำนวนเงินลงทุนที่ใช้ในการเปิดวอท อะ เชค คาเฟ่ สักหนึ่งร้าน อยู่ที่ประมาณ 600,000-700,000 บาท (รวมค่าแฟรนไชส์) ทั้งนี้เงินลงทุนจะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ขนาดของร้านและทำเลในการตั้งร้านเป็นสำคัญด้วย 


คำถามคือเงินลงทุนขนาดนี้แล้วจะมีโอกาสคืนทุนได้อย่างไร! เรื่องนี้สาขาของ วอท อะ เชค คาเฟ่ ให้คำตอบได้อย่างดี เพราะกว่า 23 แห่งของวอท อะ เชค คาเฟ่ มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 100,000 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อเดือนอย่างน้อยที่สุดก็อยู่ประมาณ 50,000 บาท สามารถคืนทุนและมีกำไรตั้งแต่ 6-12 เดือน
 
และกว่า 95% ของแฟรนไชส์วอท อะ เชค คาเฟ่ คือกิจการที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องแม้ในยุคที่คู่แข่งมีมากแต่ด้วยคุณภาพสินค้า และการดูแลจากแฟรนไชส์ซอที่ดี ที่ทำให้ผู้ลงทุนทุกคนเป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ จึงกลายเป็นครอบครัว “วอท อะ เชค คาเฟ่” ที่เข้มแข็ง และพร้อมจะขยายเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตได้มากขึ้นด้วย


และสำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจหรืออยากได้เชื้อไฟเติมกำลังใจให้ตัวเองพร้อมสานต่อธุรกิจที่ตั้งใจ ให้ดูการเริ่มต้นของ “วอท อะ เชค คาเฟ่” เป็นตัวอย่าง นี่คือหลักฐานของการต่อสู้แบบไม่ยอมแพ้ ท้อได้แต่ไม่เคยถอย  ทำทุกอย่างแบบตั้งใจ มองโลกแบบแง่บวก มีทัศนคติที่ดีกับสิ่งที่ทำ ในวันนี้ไม่สำเร็จแต่ก็ยังมีพรุ่งนี้และวันถัดไป คนที่พยายามรางวัลที่จะได้คือความสำเร็จอย่างเดียวเท่านั้น
 
ต้องการลงทุนแฟรนไชส์วอท อะ เชค คาเฟ่
 
โทร. : 081-7088985, 095-7733327
E-Mail : watunyoo1987@gmail.com , bomeworldwidecoffee@gmail.com
Facebook : goo.gl/pzFfmX
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 

 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/F1Y9f5
 
สุดยอดแฟรนไชส์น่าสนใจ

โจ๊กสยาม

นับเป็นเวลากว่า 20 ปี กับ 22 สาขาที่ “ธุรกิจโจ๊กสยาม” ได้รับความไว้วางใจในการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าผู้รักสุขภาพ เราพิถีพิถันในก..

กอลจักต๊อกป๊กกีชิกเก้น

Guljak Topokki Chicken (กอลจักต๊อกป๊กกีชิกเก้น) ร้านต๊อกป๊กกีและไก่ทอดจากประเทศเกาหลี เอกลักษณ์จุดเด่นคือการกินไก่ทอดเกาหลีจิ้มกับ..