5.7K
 29 พฤศจิกายน 2562 
Maru Cha แฟรนไชส์เครื่องดื่มสุดฮิต! ลงทุนง่าย ยิ่งขาย ยิ่งรวย
 

“ชานมไข่มุก” เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุดฮิตที่ไม่มีวันตกกระแส จากข้อมูลพบว่าการตลาดธุรกิจชานมไข่มุกทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 65,200 ล้านบาท และมูลค่านี้จะเพิ่มสูงถึง 100,000 ล้านบาทภายในปี 2023 สอดคล้องกับมูลค่าการตลาดชานมไข่มุกในเมืองไทยซึ่งอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท พร้อมกับบรรดาร้านชานมไข่มุกมากมายที่เปิดตัวทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ผลดีจึงตกอยู่กับผู้บริโภคที่มีโอกาสได้ลองเมนูชานมไข่มุกที่หลากหลาย แต่หากจะคิดเรื่องการลงทุน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่อยู่ในแวดวงธุรกิจแฟรนไชส์มานานขอแนะนำเทคนิคการเลือกแฟรนไชส์ชานมไข่มุกเพื่อลงทุน ว่าควรเป็นแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตชัดเจน มีการพัฒนาสินค้าต่อเนื่อง  มีแพคเกจลงทุนในราคาที่เหมาะสม สำคัญคือเจ้าของแฟรนไชส์เอาใจใส่ผู้ลงทุนเป็นอย่างดี และควรมีผลชี้วัดจากแฟรนไชส์ซีที่ลงทุนประสบความสำเร็จ ซึ่งแบรนด์ Maru Cha ตอบโจทย์ทุกอย่างที่กล่าวมาถือเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่ใครเลือกลงทุนแล้วมีแต่คำว่า รวย รวย และรวย
 
ทำไมต้องเป็น Maru Cha?
 

หลายคนสงสัยทำไมต้องชื่อแบรนด์ “Maru Cha” เราได้ข้อมูลไขกระจ่างเรื่องนี้จากเจ้าของแฟรนไชส์ Maru Cha โดยตรง ที่บอกว่าจุดเริ่มต้นของ Maru Cha ที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปแมว เพราะส่วนตัวคือคนรักแมว และมีแมวที่เลี้ยงอยู่ชื่อว่า “มารุ” ซึ่ง แมวก็ถือว่าเป็นสัตว์นำโชคที่หลายประเทศรู้จักเป็นอย่างดี รวมถึงในประเทศไทยก็มี “ทาสแมว” กันอยู่ไม่น้อย การใช้ชื่อแบรนด์ว่า “Maru Cha” ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความน่ารักของแบรนด์ ความสดใสของสินค้า

ซึ่ง Maru Cha สร้างรูปแบบร้านด้วนสีสันสดใส ดูแล้วร่าเริง ร่วมกับราคาขายที่แตกต่าง โดยเน้นให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นวงกว้าง ทั้งนักเรียน นักศึกษา พ่อบ้านแม่บ้าน คนวัยทำงาน ทุกๆคนสามารถเลือกเครื่องดื่มของ Maru Cha ได้ แบรนด์ของ Maru Cha จึงเป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มสำหรับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงการใส่ใจในคุณภาพวัตถุดิบ ที่สอดคล้องกับราคาเรียกว่าสินค้าทุกเมนูคุ้มเกินราคา ให้ลูกค้ามีความสุข ผู้ลงทุนมีกำไร นี่คือแนวทางของแฟรนไชส์ Maru Chaที่ได้วางไว้ในเบื้องต้น
 
เดินหน้าขยายสาขากว่า 400 แห่งในระยะเวลาแค่ 1 ปี
 

Maru Cha เปิดตัวธุรกิจเมื่อปี 2561 ถึงตอนนี้ก็เพียง 1 ปี แต่เป็น 1 ปีที่ประสบความสำเร็จและมีอัตราการเติบโตสูงมาก ดูได้จากจำนวนสาขาปัจจุบันที่มีกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ และยังไม่หยุดแค่นี้ยังมีอีกหลายสาขาที่จ่อคิวเตรียมเปิดตัวเพิ่มมากขึ้น เหตุผลน่าสนใจว่าทำไมคนถึงฮิตและคิดอยากลงทุนกับ Maru Cha มองกันที่ผลิตภัณฑ์จะพบว่าแบรนด์ Maru Cha มีความน่ารักของเคาน์เตอร์ สีสันดึงดูดลูกค้าอย่างดี ดูแล้วสดใส และสินค้าก็มีความทันสมัยตอบโจทย์คนยุคใหม่ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน

เมนูซิกเนอเจอร์ที่น่าสนใจเช่น ชาชีส บราวน์ชูก้า ชานมไข่มุก อิตาเลี่ยนโซดา ชานมเผือก ชาเขียวไข่มุก ล้วนแต่เป็นเมนูขายดี และรสชาติของ Maru Cha ถือว่าเอาใจสายสุขภาพด้วยความหวานที่พอดี ลูกค้าสามารถเลือกความหวานได้ตามต้องการ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ลูกค้าพอใจ และเมื่อเห็น Maru Cha อยู่ที่ไหนก็แน่ใจในรสชาติที่มีคุณภาพ ผลดีจึงอยู่ที่ผู้ลงทุนแค่เปิดร้านในย่านชุมชน หน้าโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ก็ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้
 
5 เหตุผลทำไมแฟรนไชส์ Maru Cha ถึงขายดี ฮิตกันทั่วประเทศ
1.ลงทุนง่ายไม่ยุ่งยาก
 

จุดเด่นของ Maru Cha คือลงทุนครั้งเดียวจบ เป็นแฟรนไชส์ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปี  ไม่หักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย  มีการสอนสูตรเมนูเครื่องดื่มอย่างละเอียด รวมถึงไม่บังคับยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ รายได้ของผู้ลงทุนจึงเป็นกำไรที่มากขึ้นด้วย
 
2.แพคเกจลงทุนราคาไม่แพง
 

ปัจจุบันแพคเกจลงทุนของ Maru Cha มีด้วยกัน 4 แพคเกจคือ
  1. แพคเกจลงทุน Size S ราคา 59,900 บาท 
  2. แพคเกจลงทุน Size M ราคา 129,000 บาท
  3. แพคเกจลงทุน Size L ราคา 259,000 บาท
  4.  แพคเกจลงทุน SizeXL ราคา 3xx,xxx บาท( ราคานี้จะเป็นงานบิ้วอินตามขนาดพื้นที่ให้เหมาะสมกับทางร้าน)
โดยทุกแพคเกจมีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านตามแต่แพคเกจที่เลือกและมีวัตถุดิบพร้อมขายเริ่มตั้งแต่ 500 – 2,000 แก้ว แถมยังมีการสอนชงเครื่องดื่มทุกสูตรอย่างละเอียด สอนจนกว่าจะทำได้จริง 
 
3.ดูแลผู้ลงทุนอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
 

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ได้ใจผู้ลงทุนมากที่สุดคือ “การดูแลอย่างใกล้ชิด” สอบถามจากบรรดาแฟรนไชส์ซีหลายแห่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีปัญหาไม่ว่าจะตอนไหนอย่างไร สามารถไลน์หา โทรหา ซึ่งเจ้าของแฟรนไชส์จะตอบกลับในทันทีไม่ว่าจะช่วงไหนเวลาไหน ทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างดีไม่มีคำว่าทอดทิ้งกัน รู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันทำให้เชื่อมั่นในแบรนด์ Maru Cha ยิ่งขึ้น

4.มีเคสตัวอย่างของแฟรนไชส์ซีที่ประสบความสำเร็จ
 

ในการตัดสินใจเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ใดก็ตามสิ่งที่ผู้ลงทุนอยากรู้มากที่สุดคือ ลงทุนแล้วจะมีโอกาสประสบความสำเร็จแค่ไหน ซึ่ง Maru Cha มีเคสตัวอย่างของแฟรนไชส์ซีที่ประสบความสำเร็จหลายแห่ง ยกตัวอย่าง Maru Cha สาขาอิมพีเรียล เวิร์ล สำโรง ชั้น 5 ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายสูงสุดคือ 400 แก้วต่อวัน สร้างรายได้สูงสุดถึง 8,000 -10,000 บาท

และยิ่งขายดีในช่วงเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ  แถมในร้านใช้ลูกจ้างเพียงแค่ 2 คนก็สามาถเปิดร้านได้โดยที่เจ้าของร้านสามารถไปทำกิจการอื่นๆ ได้อีก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้ผู้ลงทุนมองเห็นทิศทางของกำไรในธุรกิจนี้ได้ชัดเจนขึ้น
 
5.กำไรเฉลี่ยต่อแก้วกว่า 59%
 

ก่อนตัดสินใจลงทุนหลายคนมักถามว่า กำไรดีไหม? กำไรเฉลี่ยต่อแก้วเท่าไหร่? คำถามนี้ Maru Cha ตอบชัดเจนว่ากำไรเฉลี่ยต่อแก้วกว่า 59% โดยขึ้นอยู่กับทำเลที่ขาย สาขาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมียอดขายต่อวันไม่น้อยกว่า 300-400 แก้ว

ต้นทุนสำคัญคือวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเครื่องดื่ม รวมถึงรายจ่ายประจำเดือนอย่างค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ ต่างๆ เบ็ดเสร็จคนที่ลงทุนกับ Maru Cha มีกำไรต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 -20,000 บาท ซึ่งตัวเลขนี้ประเมินจากเกณฑ์ที่ขายได้แบบทั่วๆไป ซึ่งหากพื้นที่ที่ลงทุนมีจำนวคนมาก สินค้าขายได้มากขึ้นกำไรต่อเดือนก็จะยิ่งสูงกว่าที่คำนวณเป็นตัวอย่างให้เห็นนี้
 
5 ขั้นตอนลงทุนกับแฟรนไชส์ Maru Cha
 

สำหรับคนที่สนใจอยากร่วมลงทุนกับ แฟรนไชส์ Maru Cha ดูขั้นตอนการลงทุนต่างๆดังนี้
  1. วางเงินจองแฟรนไชส์ 50% เพื่อจองสิทธิ์และวันเวลานัดวันเรียน
  2. ทางแฟรนไชส์จะติดต่อนัดวันเรียนและเซ็นสัญญา ใช้เวลาเรียน 6 ชม. เข้าเรียนได้ 2 ท่าน
  3. วันที่เรียนลูกค้า ชำระเงินค่าแฟรนไชส์ส่วนที่เหลือเต็มจำนวน และเซ็นสัญญาแฟรนไชส์ (วันที่ลงร้าน) การเรียนสูตรลูกค้าต้องมาเรียนและขายจริงที่สาขาหลัก จ.นครสวรรค์ กรณีที่ลูกค้าใม่สามารถมาเรียนที่สาขาหลักใด้ ทางแฟรนไชส์จะมีค่าเดินทางตามระยะทางเพื่อใปสอนลูกค้าถึงที่
  4. ทางแฟรนไชส์จะจัดส่งอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆให้ภายใน 7-10 วัน (เคาเตอร์จัดส่งภายใน 7-10 วัน ไม่รวมค่าขนส่ง)
  5. เปิดร้านได้เลย พร้อมขาย

ทั้งนี้ในกรณีที่ลูกค้าต้องการให้ทางแฟรนไชส์ออกแบบร้าน จะต้องแจ้งขนาดพื้นที่ และส่งรูปหน้างานให้ทางแฟรนไชส์ดูก่อนทุกครั้งและจะใช้เวลา 5-7 วันในการออกแบบ ซึ่งวัตถุดิบที่ทางแฟรนไชส์สงวนให้ซื้อกับทางแฟรนไชส์ คือ แก้ว ฝาแก้ว ผงชง ใบชา เท่านั้น อีกทั้งแฟรนไชส์ Maru Cha ยังสงวนสิทธิ์ในการลงพื้นที่ของผู้ลงทุนเพื่อไม่ให้ทับซ้อนจะได้เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

โดยให้สิทธิ์อำเภอเมืองละ 3 สาขา สำหรับอำเภอเมืองขนาดใหญ่ลงได้ไม่เกิน 5 สาขา , ในห้างสรรพสินค้าให้สิทธิ์ลงได้ 1 สาขา , ตลาดกลางคืนที่ละ 1 สาขา , ตลาดท่องเที่ยวที่ละ 1 สาขา , ในกรุงเทพฯและปริมณฑล สามารถลงสาขาได้ตามระยะทางคำนวณจากระยะทางและอัตราประชากร เป็นสำคัญ
 
เป้าหมายของ Maru Cha ต้องการรุกตลาด AEC
 

จากความสำเร็จของ Maru Cha ในปัจจุบันที่ขยายฐานแฟรนไชส์เติบโตในประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง เป้าหมายต่อไปของ Maru Cha คือการรุกตลาด AEC  เพื่อเปิดตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่นับวันจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเป็นลำดับและเพื่อเป็นการขยายฐานการเติบโตของแบรนด์ให้ไปสู่ระดับสากล

ซึ่งก่อนจะไปถึงจุดนั้น Maru Cha ต้องการพัฒนาในส่วนของสินค้าให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีคุณภาพมากที่สุด จนถึงระดับที่มั่นใจก็จะเริ่มเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเกินรอจะได้เห็น Maru Cha โกอินเตอร์ในต่างประเทศแน่
 
Maru Cha จึงถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดแฟรนไชส์สายเครื่องดื่มที่น่าสนใจและเป็นทางเลือกอย่างดีสำหรับคนที่กำลังมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจนี้ ด้วยราคาลงทุนที่เหมาะสม การดูแลเอาใจใส่อย่างดี และสินค้ามีการพัฒนาต่อเนื่อง เป็นที่ต้องการของคนทุกเพศทุกวัย

ไม่ว่าจะเลือกลงทุนเพื่อสร้างอาชีพเสริมหรือทำเป็นอาชีพหลัก แฟรนไชส์ Maru Cha คือคำตอบสุดท้ายในการสร้างรายได้ดีๆให้กับคนที่ตั้งใจทำจริง แฟรนไชส์ Maru Chaทำให้เรารวยได้แน่นอน
 
ต้องการลงทุนแฟรนไชส์ Maru Cha

โทร. : 065-2905063, 056-000845
E-Mail : unlimitzidea@gmail.com
LINE : marucha1
 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 
 
 
สุดยอดแฟรนไชส์น่าสนใจ

เอบิสึ ราเมน

ในยุคที่ราเมนราคาหลักสิบหาทานยากมาก เอบิสึ ราเมน ราคาเริ่มต้นที่ "68 บาท" ซึ่งเป็นราเมนญี่ปุ่นแท้ "สไตล์คนไทย" โดยให้ความรู้สึกว่า..

ท็อปส์ เดลี่

ค้นพบความสุขทุกวันในแบบคุณกับ “ท็อปส์ เดลี่” ชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบใหม่ พร้อมความหลากหลายสุดสนุก ทั้งสินค้า,โปรโมช..