ธุรกิจแฟรนไชส์ เครปอะเดย์ ตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาสู่ AEC
 

หากจะชี้วัดการเติบโตของธุรกิจใดๆ เรามองที่วิสัยทัศน์และแผนในการตลาดร่วมด้วย ซึ่ง แฟรนไชส์เครปอะเดย์สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่พร้อมจะเดินหน้าและเติบโตได้อย่างเต็มที่ นี่คือแฟรนไชส์สายของหวานที่เป็นสินค้าติดไอเดีย ด้วยจุดเด่นคือแป้งเครปและครีมนมสดหอมมันไม่เหมือนใคร มาพร้อมท็อปปิ้งที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย

ที่สำคัญเครปอะเดย์ให้ความสำคัญกับรูปแบบร้านที่ใช้โทนสีชมพูฟุ้งฟิ้ง ดูแล้วยิ่งทำให้อยากกินขนมหวานมากขึ้น ซึ่งการดีไซน์รูปแบบร้านให้ดึงดูดใจเช่นนี้ยิ่งทำให้ยอดขายของเครปอะเดย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่
 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่ายังเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องกับแนวทางการตลาดของเครปอะเดย์ที่ชัดเจนว่านับจากนี้จะรุกตลาดในประเทศเพื่อขยายสาขาให้ครบทุกจังหวัด พร้อมกับเดินหน้าพัฒนาโรงงานผลิตให้มีมาตรฐานการส่งออกครบถ้วนเพื่อรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้าในแถบอาเซียนที่เครปอะเดย์พร้อมขยายแฟรนไชส์เข้าไปทุกประเทศ

 

 

จุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์เครปอะเดย์ที่ทีมงานได้พูดคุยกับ คุณสุปรียา งามศิริสมสกุล หรือคุณปอย ที่ก่อตั้งธุรกิจนี้มาได้ 3 ปี ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศรวมกว่า 50 แห่ง โดยคุณปอยใช้เวลาในการคิดค้นสูตร จัดเตรียมร้าน ประมาณ 3-6 เดือนก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านเล็กๆของตัวเองครั้งแรกในตลาดถนนคนเดินจังหวัดอุดรธานี และเป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี สามารถขยายแฟรนไชส์ในปีแรกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจุดเด่นของของเครปอะเดย์ที่ทำให้คนสนใจต้องการลงทุนได้แก่
 

1.สุดยอดสินค้าตอบโจทย์คนยุคใหม่
 

เครปเย็นของเครปอะเดย์ถ้าใครได้ลองสักครั้งเป็นต้องติดใจและอยากกลับมาเป็นลูกค้าประจำกันเลยทีเดียว โดยทางร้านจะมีไส้เครปให้เลือกมากมาย ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบไหน ใส่อะไรเพิ่ม โดย ลูกค้าส่วนมากจะเลือกรับประทานเครปเย็นไส้ผลไม้สด เช่น กล้วยหอม สตรอเบอรี่ และกีวี่ และตัวแป้งที่กรอบอร่อยเป็นพิเศษ ผสมผสานกับวิปปิ้งครีมที่สอดไส้นม หวานละมุนกำลังดี จึงเป็นสินค้ายอดฮิตที่ถูกใจคนยุคใหม่อย่างมาก
 

2.กลยุทธ์เลือกทำเลที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย
 

เคล็ดลับความสำเร็จของเครปอะเดย์คือการรุกพื้นที่เข้าหาลูกค้า เน้นเปิดร้านในทำเลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทำเลจะต้องเป็นที่ที่คนในพื้นที่รู้จักและมักจะมาใช้บริการกันอยู่เสมอ เราจึงได้เห็นแฟรนไชส์เครปอะเดย์ตามย่านเศรษฐกิจ ย่านออฟฟิศ ใกล้สถานศึกษา และแหล่งชุมชน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่เครปอะเดย์พร้อมลุยเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
 

3.ทุกสาขามาตรฐานรสชาติเหมือนกันทั่วประเทศ
 

สำหรับการเปิดแฟรนไชส์นั้นจะมีการอบรมและให้ความรู้สอนการทำเมนูต่างๆ  รวมถึงวัตถุดิบแต่ละตัวจำเป็นต้องมีการควบคุมเพื่อที่จะทำให้รสชาติของแต่ละแฟรนไชส์ออกมาเหมือนกันทุกที่ ซึ่งราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ราคา 59,000 บาท ขนาดของแฟรนไชส์เริ่มต้นตั้งแต่ 3-30 ตารางเมตร นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มวัยเรียน นักเรียน นักศึกษา กลุ่มวัยทำงานตั้งต้น เฉลี่ยอายุประมาณ 15-35 ปี ภายใน 1 วันเฉลี่ยการจำหน่ายแต่ละสาขาจะจำหน่ายได้ประมาณ 80-150 ชิ้น
 

4.มีเมนูพิเศษให้เลือกอย่างหลากหลาย
 

เครปอะเดย์ไม่ใช่เพียงร้านที่มีสินค้าเฉพาะเครปเท่านั้น ที่ร้านเครปอะเดย์มีการจัดแต่งร้านให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย เป็นร้านที่ทำให้ลูกค้านั่งชิลๆ ไปกับบรรยากาศและมีเมนูพิเศษที่หลากหลายให้เลือกเช่น เครปกรอบ เครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง ปังกรอบ และโทสต์ ต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นและจุดขายที่ทำให้แฟรนไชส์เครปอะเดย์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
 

 

แฟรนไชส์เครปอะเดย์มีแพคเกจลงทุนให้เลือกถึง 5 แบบ ราคาเริ่ม 59,000 – 149,000 บาท ทุกแพคเกจราคารวมอุปกรณ์แต่ไม่รวมเคาน์เตอร์ตกแต่ง ซึ่งนอกจากอุปกรณ์ก็ยังมีวัตถุดิบตั้งต้นพร้อมขาย และได้รับการฝึกอบรมวิธีการผลิต  อบรมวิธีการขาย  การส่งเสริมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์   รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เหมาะสมกับคนที่กำลังมองหาโอกาสและช่องทางในการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ที่ดีให้กับครอบครัว

 

เครปอะเดย์เดินหน้าขยายแฟรนไชส์ เตรียมรุกตลาดต่างประเทศ
 

ในประเทศไทยถือว่าเครปอะเดย์ประสบความสำเร็จอย่างดี ปัจจุบันกว่า 50 สาขาและมีตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 77 สาขาให้มีเครปอะเดย์ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมกันนี้เครปอะเดย์ยังเตรียมรุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบอาเซียนที่ปัจจุบันเครปอะเดย์นำร่องไปแล้วกับการเปิดสาขาในประเทศลาว และตอนนี้ก็กำลังพัฒนาในส่วนของโรงงานให้รองรับกับการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนอกจากมาตรฐาน อย. ที่ได้มีการจดแจ้งเลขที่ไว้เรียบร้อยก็ยังมีการเตรียมความพร้อมในส่วนของใบอนุญาติ และใบรองรองมาตรฐานที่สำคัญอื่นๆ เช่น
 

1.การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
 

เพื่อเป็นการคุ้มครองและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไม่ให้ถูกละเมิดในต่างประเทศ จากเดิมที่ต้องเดินทางไปจดทะเบียนที่ประเทศนั้นๆ ปัจจุบันสามารถยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ (Madrid Application Receiving Office) โดยสามารถระบุประเทศที่อยากขอคุ้มครองได้ ถึง 116 ดินแดน
 

2.มาตรฐาน GMP
 

ครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ประกอบการ โครงสร้างอาคาร กระบวนการผลิตที่ดีมีความปลอดภัย และมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ขั้นตอน เริ่มต้นวางแผนการผลิตไปจนถึงการขนส่งจนถึงผู้บริโภค GMP ยังเป็นระบบประกันคุณภาพพื้นฐานก่อนที่จะนำไปสู่ระบบประกันคุณภาพอื่นๆ ที่สูงกว่าต่อไป เช่น ISO 9000 และ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point)
 

3.มาตรฐาน HACCP
 

มาตรฐาน HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) คือมาตรฐานป้องกันอันตรายที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร เป็นการวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อไม่ให้มีค่าสาร (ตามข้อกำหนดของแต่ละสินค้า) เกินกว่าที่กำหนด ในการส่งออกได้ประยุกต์ใช้มาตรฐาน HACCP เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศคู่ค้า

 

 

โดยเป้าหมายแรกที่ “เครปอะเดย์” หวังเข้าไปเจาะตลาดคือ “มาเลเซีย” ซึ่งเครื่องหมาย “ฮาลาล” ถือว่าสำคัญและจำเป็นโดยสินค้าทุกชิ้นที่จะไปยังประเทศมาเลเซีย ต้องมีตราประทับ เครื่องหมายรับรองฮาลาล อย่างซึ่งก่อนที่จะออกเครื่องหมายรับรองนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดก่อนพิจารณาออกฉลากให้กับผู้ประกอบการซึ่งแฟรนไชส์เครปอะเดย์ก็พร้อมดำเนินการในส่วนนี้เพื่อจะได้รับสิทธิในเครื่องหมายและสามารถขยายแฟรนไชส์ไปยังอีกหลายประเทศตามที่ต้องการได้

 

นอกจากนี้แฟรนไชส์เครปอะเดย์ยังเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้เรื่องกฎระเบียบของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนที่เริ่มมีกฎหมายแฟรนไชส์ (Franchise Law) บังคับใช้แล้ว โดยมี 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งการขยายแฟรนไชส์ในแต่ละประเทศอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของประเทศนั้นๆ

ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่คิดขยายแฟรนไชส์ในต่างประเทศ จะต้องทำความเข้าใจกฎระเบียบการลงทุนของแต่ละประเทศให้ถ่องแท้ หรือไม่ก็ต้องมีทีมกฎหมายที่เชี่ยวชาญการลงทุนในประเทศนั้นๆ คอยช่วยเหลือใช้กลยุทธ์ Master Franchise ลุยตลาดต่างประเทศ
 

 

วิธีการที่รวดเร็วและได้ผลมากที่สุดที่เครปอะเดย์หวังเลือกใช้คือการขยายแฟรนไชส์แบบตัวแทน หรือ Master Franchise โดยจะให้สิทธิ์แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์หรือบริษัทในประเทศนั้นๆ รายแรกเพียงผู้เดียว สามารถทำการขยายสาขา หรือให้สิทธิ์แก่ผู้อื่นได้อีก หรือให้สิทธิ์แบบ Multi Unit Franchise สามารถขยายสาขาได้หลายสาขาในพื้นที่นั้นๆ ตามแต่ได้ตกลงกันก่อน ซึ่งจำเป็นที่ต้องศึกษาแนวทางการลงทุน ความต้องการสินค้า ที่แต่ละประเทศมีแตกต่างกัน 

ทั้งนี้เครปอะเดย์ตั้งเป้าว่าในแต่ละประเทศจะต้องมีสาขาของเครปอะเดย์มากกว่า 1 แห่ง เพราะยิ่งมีสาขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีทั้งในเรื่องการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ได้ส่วนลด อีกทั้งระบบการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบก็จะถูกลงด้วย เพราะขนส่งครั้งเดียวได้หลายสาขาในประเทศนั้นๆ

 

นับว่าเป็นแนวทางที่ชัดเจนและมีแผนการดำเนินงานที่ถูกต้องและมาถูกทางและกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่จะเติบโตในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งการลงทุนกับแฟรนไชส์เครปอะเดย์ถือเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่จะพลิกชีวิตให้ผู้ลงทุนมีกำไรจากการลงทุนได้เป็นอย่างดี สะท้อนความสำเร็จจากแผนการเติบโตที่ไม่ได้มองไว้แค่ในประเทศแต่มองถึงการขยายตลาดไปอีกหลายประเทศในอาเซียน ที่คาดว่าจะประสบความสำเร็จในแบบที่เครปอะเดย์ตั้งใจในเวลาไม่นาน

E-Mail  : crepesaday@gmail.com

Instagram : crepesaday