“Bing Chun” แฟรนไชส์เทรนด์ฮิตปี 2568 ลงทุนง่ายทั่วประเทศ! เปิดร้านสร้างรายได้ทันที เครื่องดื่ม+ไอศกรีม อร่อยเริ่ด!
ถ้าดูจากตัวเลขจะพบว่าตลาดชานมและเครื่องดื่มผลไม้ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก ด้วยมูลค่าประมาณมี 26,250 ล้านบาท ถ้าคิดจากจำนวนคนไทยทั่วประเทศกว่า 65 ล้านคน และตัวเลขการบริโภคเครื่องดื่มชานมและผลไม้เฉลี่ย 6 แก้ว/เดือน จึงไม่น่าแปลกใจที่การลงทุนในธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้ที่ดีมาก ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าและบริการเป็นสำคัญ รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการที่ดีร่วมด้วย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแบรนด์ชานมไข่มุกและไอศกรีมซอฟเสิร์ฟเปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก ต่างก็งัดจุดเด่นเพื่อเป็นจุดขายให้กับแบรนด์ หนึ่งในแบรนด์ที่น่าสนใจและมาแรงมากคือ “Bing Chun”แบรนด์ชาผลไม้และไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟจากจีนที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อช่วงกลางปี 2567 สาขาแรกสุดของ Bing Chun ในเมืองไทยเปิดตัวที่แฟชั่นไอส์แลนด์ พิกัดร้านอยู่บริเวณร้าน Mos Burger ใกล้กับ Major Cineplex
“Bing Chun” มีชื่อเต็มว่า “Bing Chun Cha Yin” ก่อตั้งและบริหารโดยบริษัท Henan Liangdi Catering Management สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซินเซียงมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีนโดยมีชาผลไม้และชานมเป็นสินค้าเด่นในร้านและภายหลังพัฒนาสินค้าใหม่มาเพิ่มก็คือไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่รสชาติอร่อยมาก
เป้าหมายการตลาดของ Bing Chun เน้นการขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์อย่างชัดเจน ชูจุดเด่นสินค้าคุณภาพดีราคาไม่แพง เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย และจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ “Bing Chun” เริ่มเป็นที่พูดถึงในตลาดชานมไข่มุก ด้วยกลยุทธ์การทำโปรโมชันแก้วที่ 2 ราคา 1 หยวน หรือเท่ากับ 4.65 บาท
ปรากฏว่า ได้รับการตอบที่ดีมาก อันเป็นหลักการพื้นฐานที่ทำให้ Bing Chun ได้รับความนิยมจากลูกค้าและนักลงทุนอย่างมาก และขยายสาขาได้กว่า 3,000 สาขาทั่วเอเชีย ในจำนวนนี้มี 1,500 สาขาอยู่ในเมืองจีน และมีแนวโน้มจะขยายสาขาได้มากขึ้นด้วย
วิเคราะห์ “จุดเด่น”ของ Bing Chun ทำไมถึงมาแรง?
ในมุมของคนที่สนใจอยากลงทุนเปิดร้านชานมไข่มุก มักมีคำถามในใจว่า “จะขายดีไหม” “โอกาสคืนทุนเป็นยังไง” เรื่องนี้
Bing Chun มีความโดดเด่นที่พร้อมสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนได้รู้สึกทันทีว่านี่คือแฟรนไชส์ที่มีประสบการณ์ มีการทำงานอย่างมืออาชีพ มีการสนับสนุนในหลายด้านเช่น
การเลือกทำเลโดยทีมงานที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทำเลก่อนเริ่มธุรกิจ
การสนับสนุนด้านการตกแต่งร้าน การวางระบบบริหารจัดการภายในร้าน
การสนับสนุนฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจากสำนักงานใหญ่
การสนับสนุนด้านคุณภาพและมาตรฐานด้วยการตรวจเยี่ยมสาขาเพื่อรับทราบปัญหาและวางแนวทางแก้ไข
การสนับสนุนด้านการตลาดในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขาย
การสนับสนุนด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้อย่างจ่อเนื่อง
การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ทั่วประเทศ เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ
การสนับสนุนด้านบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ใช่แค่นั้น ถ้าเทียบกันในเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว Bing Chun ใช้งบลงทุนประมาณ 845,000 บาท ซึ่งก็แยกเป็นค่าแฟรนไชส์ + ค่าธรรมเนียม + ค่าออกแบบ ค่าอบรม + วัตถุดิบชุดแรก + ค่าอุปกรณ์และการตกแต่งร้าน (ซึ่งเป็นงบการลงทุนเบื้องต้น งบประมาณที่แท้จริงขึ้นอยู่กับขนาดร้านและทำเลในการเปิดร้าน)
เราจะเห็นได้ว่าเพียงแค่ตัดสินใจลงทุนกับ Bing Chun มีทีมงานคอยสนับสนุนเราทุกอย่าง แม้ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถเปิดร้านได้ เราจึงได้เห็นการขยายสาขาของ Bing Chun ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็มีการเปิดใหม่หลายสาขาเช่นที่เชียงราย และอีกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ สาขา MBK Center, สาขาพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์, สาขาตลาดมีนบุรี, สาขามหาวิทยาลัยกรุงเทพ, สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น
ทำการตลาดผ่านโซเชี่ยล! แบรนด์ยิ่งดัง! ยิ่งทำให้ขายง่ายขึ้น
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการตลาดของ Bing Chun ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่นับเรื่องการพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีอย่างต่อเนื่อง เช่นในปัจจุบันก็มีหลายเมนูฮิตๆ เช่น ไอศกรีมชาดำ, น้ำมะนาว, ชาองุ่นวุ้นมะพร้าว, ลิ้นจี่ไอซ์ที , สตอเบอร์รี่ซันเดย์, ชานมมะลิสตอเบอร์รี่วุ้นมะพร้าว, ไอศกรีมโคน ,ชาสตอเบอรี่เลม่อน, ไข่มุกบราวน์ชูการ์ซันเดย์, มัลเบอรี่ซันเดย์ เป็นต้น
และเพื่อให้แบรนด์ยิ่งดัง และปังมากขึ้น เป็นผลดีกับผู้ลงทุนที่จะขายสินค้าได้ง่ายขึ้น Bing Chun จึงได้ทำการตลาดผ่านโซเชี่ยลโดยเฉพาะในช่องทางของ Facebook เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า ที่ผ่านมาก็มีหลายกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น
Bing Chun จับตุ๊กตาได้ฟรี! เพียงแค่เข้าร้านและซื้อเครื่องดื่มหรือซันเดย์ ก็จะมีโอกาสคีบจับตุ๊กตา
ไอศกรีม 20,000 ฟรี! เพียงแค่ติดตามบัญชี Facebook หรือแชร์โพสต์
เต้นหน้าร้าน BingChun รับไอศกรีมฟรี!
รวมถึงการโพสต์ภาพน่ารักๆ และเมนูต่างๆ ที่อัพเดทมาให้คนที่ติดตามเพจได้รู้ความเคลื่อนไหวกันอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่ได้ผลอย่างมาก
Bing Chun ขายดีแค่ไหน? ลงทุนคุ้มค่าไหม?
ต้องบอกว่าการลงทุนกับ Bing Chun นั้นคุ้มค่าแน่ถ้าดูจากข้อมูลภาพรวมไม่ว่าจะการสนับสนุนในทุกด้าน การบริหารจัดการที่มีความเป็นมืออาชีพ การลงทุนที่ใช้งบน้อย ทำให้มีโอกาสคืนทุนได้ไว ผนวกกับการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความนิยมมาก มีโอกาสสร้างยอดขายในแต่ละวันได้มากขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับทำเลในแต่ละสาขา ยิ่งถ้าเป็นทำเลในย่านออฟฟิศ ใกล้โรงเรียน จะเจาะกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจน ยอดขายในแต่ละวันจะมากขึ้นด้วย
ทีนี้ลองมาสมมุติตัวเลขยอดขายเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจน (เป็นตัวเลขโดยประมาณ)
ภาพจาก แฟรนไชส์ปิงฉุน
สมมติให้ยอดขายของ Bing Chun เป็น 20,000 บาทต่อวัน รายได้ต่อเดือนประมาณ 600,000 บาท คิดกำไรขั้นต้น 40% เหลือรายได้ 240,000 บาทต่อเดือน นำไปหักกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน และอื่นๆ ก็จะเห็นว่ายังมีตัวเลขที่เหลือเป็นกำไรสุทธิในแต่ละเดือนได้มาก
สำหรับผู้สนใจลงทุนกับ Bing Chun วิธีการไม่ยุ่งยาก เพียงติดต่อเข้ามาที่บริษัทโดยมีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้น ติดปัญหาตรงไหน หรือว่าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ทุกปัญหาทีมงานพร้อมช่วยเหลือผู้สนในใจลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่ง
Bing Chun ต้องการสร้างอาชีพให้กับคนไทยได้มีรายได้มากขึ้น และธุรกิจนี้ยังมีอัตราการเติบโตได้อีกมาก ยิ่งบริหารดี ยิ่งทำเลดี โอกาสสร้างรายได้ก็มีมากขึ้นด้วย
VIDEO
สนใจลงทุนแฟรนไชส์ปิงฉุน โทร. 092-7105167 , 080-0089900