บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การบริหารจัดการร้านค้า    การเช่าพื้นที่ หาทำเล เปิดร้าน
6.1K
3 นาที
24 ธันวาคม 2557
ตลาดมืดหมื่นล้าน ขุมทรัพย์ยามค่ำคืน

หลังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกมาตรการจัดระเบียบเข้มรอบ “คลองถม” เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตจราจร ส่งผลให้ผู้ค้าร่วม 2,000 ราย ต้องออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 1 ม.ค. 2558 เรียกได้ว่าเป็นการ “ปิดตำนาน” คลองถมอย่างสมบูรณ์

สวนทางโดยสิ้นเชิงกับ “ตลาดกลางคืน” อีกหลากหลายใน กทม.ซึ่งยังคงคึกคักมีชีวิต เม็ดเงินจำนวนมหาศาลนับหมื่นล้านหมุนเวียนหล่อเลี้ยงไม่มีที่สิ้นสุด

ตลาด “รถไฟ” ศรีนครินทร์ เป็นตลาดนัดกลางคืน ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกรุง ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 51 เปิดมาเกือบสองปี เดิมย้ายมาจากตลาดนัดรถไฟจตุจักร ถือเป็นที่นิยมของวัยรุ่น กทม. เพราะขึ้นชื่อเรื่องวินเทจ ของเก่า ของสะสมหายาก ไม่ว่าจะเป็นรถโบราณ อะไหล่รถคลาสสิก เฟอร์นิเจอร์ จักรยานโบราณ ถ้วยโถโอชาม ของตกแต่งต่างๆ

สำหรับค่าแผงค้าในโซนพลาซ่า ค่าเช่า 4,000-7,000 บาท/เดือน แต่ถ้าเช่าเซ้งต่อเหยียบหลักหมื่นและยังมีล็อกสินค้าแบกะดินทั้งแบบประจำ ชั่วคราว ค่าเช่าคิดเป็นรายวัน ประมาณ 200-400 บาท และยังมีโซนโกดังอีกที่ราคาเช่าหลักหมื่นบาท

ตลาดศรีนครินทร์ มี 2 โซน คือ โซนพลาซ่าเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ และโซนตลาดนัดเปิดวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. วันๆ หนึ่งมีคนมาตลาดนัดรถไฟไม่ต่ำกว่าหมื่นคน บางครั้งเหยียบหลักแสน ทำให้มีเงินหมุนสะพัดในการจับจ่ายในตลาดนัดรถไฟแห่งนี้ไม่น้อยไปกว่าห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่

ไพโรจน์ ร้อยแก้ว เจ้าของตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์และรัชดาฯ บอกว่า ตลาดแห่งนี้จัดเป็นตลาดที่คนเยอะที่สุดตอนนี้ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่ 62 ไร่ ลานจอดรถ 22 ไร่ ที่เหลือพื้นที่การค้าแยกเป็นร้านตลาดนัด 1,500 ร้าน แบบโกดังมี 200 กว่าร้าน พลาซ่าอีก 500 กว่าห้อง คืนหนึ่งมีคนมาซื้อของหลายหมื่นคน

“เงินหมุนเวียนน่าจะหลายล้านบาท ช่วงเศรษฐกิจดีน่าจะสิบล้านบาท/วัน แต่หลักๆ ไม่น้อยกว่า 5-6 ล้าน/วัน”

ไพโรจน์ บอกว่า เหตุที่ตลาดแห่งนี้บูมที่สุดเพราะเป็นตลาดเดียวที่มีโชว์ทุกวัน มีดนตรี ศิลปวัฒนธรรมไทยและเทศ ครบ “ช็อป ชิม ชิล แชะ แชร์” ได้หลายอย่าง เป็นที่ฮิตของคนวัยรุ่น ลูกค้าที่มีมาเดินนี้ มีคนเก่าๆ ตามมาจากตลาดรถไฟ

อีกแห่ง คือ แบกะดินที่ตลาดมืดคลองถม ตลาดระดับตำนานของ กทม. รู้จักตั้งแต่ปี 2530 เนื่องจากอยู่ใกล้กับเยาวราช มีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองพื้นที่ริมถนนช่วงเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ สินค้าส่วนใหญ่เป็นของเก่ามือสอง อาทิ หนังสือ กีตาร์ พระเครื่อง และของเก่าขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์รถยนต์ ประดับยนต์ รวมทั้งของจิปาถะต่างๆ เป็นที่รู้กันว่าสินค้าบางอย่างถูก “โจรกรรม” มา  คนที่จะเลือกซื้อสินค้าจะต้องส่องไฟเพราะรอบข้างมืดทึบ สถานที่แห่งนี้จึงถูกขนานนามใหม่ว่า “ตลาดไฟฉาย”

ด้านแผงค้า อย่างร้าน “หนังสือมือสอง” พบว่ามีราคาตั้งแต่ 80-2,500 บาท โดยเจ้าของร้านขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 บาท ขณะที่แผงขาย “ซีดี-ดีวีดี” เพลง ภาพยนตร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เกม ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ มียอดขายถึงวันละเฉียดๆ 2 หมื่นบาท เช่นเดียวกับร้าน “นาฬิกา” ซึ่งเป็นสินค้าก๊อบปี้แบรนด์เนมเกรดเอเอเอ สนนราคาเพียงเรือนละ 390-750 บาท นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่น 3 เรือน 1,000 บาท โดยมียอดขายกว่าวันละ 1 หมื่นบาท

มาที่ถนนข้าวสาร แหล่งบันเทิงเริงรมย์ชื่อดังระดับโลก ผสมกับแผงค้ากลาดเกลื่อน แม้ว่าภาพรวมในปี 2557 สถิตินักท่องเที่ยวจะต่ำกว่าปี 2556 ในช่วงเดือนเดียวกันอยู่ที่ 5-7% แต่ทว่ายอดจองห้องพัก โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ ร่วม 8,500 ห้อง สร้างรายได้ให้กับข้าวสารเฉลี่ยวันละ 6.8 ล้านบาท/วัน ส่วนการช็อปปิ้งมากถึง 1.5-2 หมื่นบาท/คน/วัน

“สง่า เรืองวัฒนกุล” ที่ปรึกษานายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ประเมินว่า มีเงินสะพัดขั้นต่ำประมาณ 7.5 ล้านบาท/วัน เมื่อรวมกับมูลค่าการจองห้องพักแล้ว รวมทั้งสิ้นมีเงินหมุนเวียนบนถนนข้าวสารขั้นต่ำ 15 ล้านบาท/วัน

ถัดมาที่ ตลาดนัดเลียบด่วน “รามอินทรา” เพิ่งเปิดตัวให้จับจ่ายใช้สอยได้เพียง 1 ปีเศษ แม้จะเป็นน้องใหม่ใน “ตลาดกลางคืน” แต่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากเปิดให้ผู้ค้ามาขายของได้หลังเวลาเลิกงานและเลิกเรียน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น-ตี 1 ทำให้มีของแนววัยรุ่นมากมาย โดยวันธรรมดามีร้านค้าประมาณ 300 ร้าน ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ มีมากถึง 700 ร้าน ราคาค่าเช่าเพียง 150-300 บาท/1 ร้าน
 
อีกแห่งตลาดนัดสยามสแควร์ แหล่งช็อปปิ้งของกลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาวชาวออฟฟิศได้เลือกซื้อสินค้า เปิดตั้งแต่เวลา 19.30 น. ยาวจนถึงเวลา 22.30 น. ทุกวันเว้นวันจันทร์ แหล่งช็อปปิ้งจุดนี้จะคึกคักสุดช่วงเวลาสองทุ่มเป็นต้นไป

ทั้งนี้ พ่อค้าขายเสื้อผ้าบอกว่า ตลาดนัดยามค่ำคืนแห่งนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี เพราะสถานที่หรือทำเลเป็นจุดศูนย์รวมของวัยรุ่นที่กำลังฟุ้งเฟ้อใช้เงินในการแต่งตัวหรือซื้อของ ทำให้ตลาดนัดกลางคืนอย่างสยามสแควร์มีเงินสะพัดต่อคืนด้วยตัวเลข 6 หลัก/วัน

อีกตลาดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ ตลาดรัชดาไนท์ ตลาดของเก่ามือสองรัชดาฯ ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก ช่วงตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษกจนถึงสถานีลาดพร้าว เปิดให้บริการเริ่มกันตั้งแต่เวลา 18.30 น. ไปจนถึงราวๆ 02.00 น. เฉพาะคืนวันเสาร์เท่านั้น ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งอะไหล่รถเก่า มอเตอร์ไซค์เก่าคลาสสิก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งพวงกุญแจ นาฬิกา มีทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสองให้นักช็อปปิ้งได้เลือกซื้อกันตามใจชอบ และแม้จะเปิดเพียงสัปดาห์ละครั้ง แต่มีเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดจุดนี้หลักล้านบาท/วัน

ที่พลาดไม่ได้อีกที่ คือ “ตะวันนา” ตั้งอยู่ติดกับเดอะมอล์บางกะปิ เดิมเคยเป็นตลาดสดที่ขายสินค้าไม่ต่างจากตลาดทั่วไป ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นแหล่งรวมสินค้าอุปกรณ์ไอที กระทั่งถึงยุคฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 พื้นที่โล่งซึ่งติดกับลานจอดรถก็ถูกดัดแปลงเป็นตลาดนัดเปิดท้ายขายของ ที่เรียกกันในสมัยนั้น ว่า “ตลาดนัดคนเคยรวย” เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ พนักงานบริษัทที่ปิดตัวลง ขนสมบัติส่วนตัว ของสะสมสารพัดชนิดมาขาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบริษัท ตะวันนา ไนท์บาซาร์ ระบุว่า ความคึกคักของตลาดแห่งนี้เริ่มแผ่วลง แผงค้าจาก 300 กว่าร้านก็เหลือประมาณ 250 ร้าน  และรายได้พ่อค้าแม่ค้าลดลงไปกว่าครึ่ง

อ้อมไปที่ ตลาดสะพานพุทธ ตลาดยอดนิยมของเหล่าบรรดาวัยรุ่นนักศึกษา ที่ชมชอบเลือกซื้อสินค้าเหมาะสมกับวัย ทั้งเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ที่ตลาดสะพานพุทธแห่งนี้มีให้เลือกทั้งของเก่าและของใหม่ เปิดขายยามค่ำคืนตั้งแต่เวลา 19.00-02.00 น. ทุกวันเว้นวันจันทร์ รวมแล้วกว่า 200 แผงร้านค้า

คนดูแลตลาด บอกว่า เสื้อผ้าหญิงหรือชายจะขายได้ระหว่าง 3,000-5,000 บาท หากเป็นเสื้อมือสองก็จะราคาใกล้เคียงกัน แต่หากเป็นของยากหรือของแพง ก็จะขายได้ยากหน่อย เฉลี่ยแล้วจากการคาดเดาของผมเองนะ ตลาดสะพานพุทธน่าจะมีเงินหมุนเวียนทุกวันประมาณ 6 แสน-1 ล้านบาท

เศรษฐกิจจะซบเซาแค่ไหน แต่นักช็อปยามค่ำคืนในเมืองกรุงยังคึกคักไม่เปลี่ยนแปลง

อ้างอิงจาก  โพสต์ทูเดย์
บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ทีมไหน! หา"ทำเล"ก่อนทำธุรกิจ vs เลือก "ธุรกิจ" ก..
409
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด