ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ณ คุ้งน้ำประวัติศาสตร์ ของแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อโกดังเก็บผัก ผลไม้ และดอกไม้ ริมแม่น้ำ ย่านปากคลองตลาดที่มีอายุยาวนานกว่า 100ปี ถูกพัฒนาเป็น คอมมูนิตี้มอลล์

จุดเด่นของยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค

1. เป็นครั้งแรกที่มีการพัฒนาปากคลองตลาด ร่วมกันโดยบริษัทเอกชน บริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด นำโดย เฉลียว ปรีกราน กรรมการผู้จัดการ
2. ที่ดินทั้ง 2 ตลาดส่วนรวมกันประมาณ 15 ไร่ หรือแผงค้าขายประมาณ 680 กว่าแผง
3. ในส่วนของตลาดยังคงความเป็นเอกลักษณ์เดิมไว้ แต่มีการพัฒนา โกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวถึง 284 เมตร
4. ปากคลองตลาดเป็นการเช่าที่ (5ไร่ )จากองค์การตลาด สัญญา 30 ปี ค่าเซ้ง ประมาณ 30-40 ล้านบาท ค่ารายเดือน 1 ล้านบาท ส่วนตลาดยอดพิมาน ( 9ไร่กว่า) เป็นการซื้อขาด 700 กว่าล้านบาทจาก หม่อมราชวงศ์สุนิดา กิติยากร ทายาทคนเดียวของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา
5. พื้นที่โครงการทั้งหมด 14,000 ตร.ม ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค มีร้านค้าประมาณ 70 ร้าน เช่น ครัวเจ๊ ง้อ สตาร์บัค บางกอก บิสโทร ซีฟู้ด ฮาร์เบอร์ แมงโกทรี แมคโดนัล เค เอฟซี บู้ธ พิซซ่า โพมิ ฯลฯ
6. จุดขายที่โดดเด่นและแตกต่าง ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่โครงการ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์ของไทยและโลกเช่น พระบรมมหาราชวัง วัดศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดอรุณราชวราราม โบสถ์ซางตาครู๊ส วัด กัลยาณมิตร วัดอรุณราชวราราม โบสถ์ซางตาครู๊ส วัด กัลยาณมิตร ฯลฯ
7. ภายในโครงการมีพื้นที่จอดรถรองรับได้มากว่า ๓๐๐ คน ด้วยเทคโนโลยีอาคารจอดรถ อัจฉริยะ และร ถไฟฟ้าใต้ MRT สถานีสนามไชย ที่จะเปิดดำเนินการในปี ๒๕๕๘

ปัจจุบันยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 99% ร้านค้าบางส่วนทะยอยเปิดตัวแล้ว และพร้อมเปิดตัวเต็มที่ภายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558

“อดีต ที่รุ่งโรจน์”

“ยอดพิมาน” คือ ชื่อของหนึ่งใน ๓ ตลาดสำคัญย่านปากคลองตลาด อันประกอบด้วย ตลาดองค์การตลาด สังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลาดส่งเสริมเกษตรกรไทย และ ตลาดยอดพิมาน ซึ่งเป็นตลาดเอกชนเพียงแห่งเดียว ที่ตั้งอยู่เชิงสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือที่เรียกกันติดปากว่า สะพานพุทธเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวไปจรดโรงเรียนราชินี เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาเช่าพื้นที่ค้าขายผัก ผลไม้ และดอกไม้ ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการค้าในบริเวณปากคลองตลาดในสมัยนั้น

แม้ตลาดยอดพิมาน จะมีอายุเพียง ๕๐ กว่าปี หากแต่ความสำคัญของย่านปากคลองตลาด ย้อนนับถอยหลังไปได้กว่าร้อยปีเลยทีเดียว เพราะในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ บริเวณปากคลองตลาดเคยเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุด ก่อนจะถูกย้ายไปอยู่ที่ตำบลวัวลำพองหรือหัวลำโพงในปัจจุบัน และเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนกลางมาก่อน

หลังจากโรงเรียนได้ถูกรื้อลงจึงมีการสร้างอาคารขึ้นทดแทน ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้ามาจับจองพื้นที่ขายสินค้าที่ริมน้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนมาก มีทั้งเรือสินค้า เรือแจว และเรือนแพของประชาชน ยาวตั้งแต่บริเวณท่าปาคลองไปจนถึงท่าเตียน
อ้างอิิงจาก  marketeer.co.th