บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การเริ่มต้นค้าขาย    การวางแผนค้าขาย
20K
2 นาที
15 กรกฎาคม 2558
5 ขั้นตอน เตรียมตัวขายของตลาดนัด (มือใหม่หัดขาย)


หลายคนมีความคิดที่อยากจะหารายได้เสริมด้วยการออกไปขายของที่ตลาดนัด  หรือบางคนต้องการที่จะเริ่มต้นอาชีพค้าขายอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อยึดเป็นอาชีพหลัก แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ค้าขายมาก่อน และไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นมันอย่างไรดี  

ทาง ThaiFranchiseCenter.com จึงอยากจะขอแนะนำขั้นตอนในการเตรียมตัวค้าขาย เพื่อให้พ่อค้าแม่ขายมือใหม่ได้ใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นกันค่ะ


1.สำรวจตัวเอง

สิ่งแรกที่คุณต้องทำและเป็นขั้นตอนที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยก็คือ คุณต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า คุณมี ใจรัก ในงานค้าขายและงานบริการหรือเปล่า แน่นอนว่าการทำในสิ่งที่ตัวเองรักย่อมเป็นพื้นฐานแห่งการประสบความสำเร็จเสมอ

สำหรับงานค้าขายนั้น ในแต่ละวันคุณจะต้องพบเจอกับลูกค้าที่หลากหลายรูปแบบ บางวันอาจจะได้เจอกับลูกค้าที่ค่อนข้างเรื่องเยอะ พูดคุยกันไม่เข้าใจ แต่หากคุณมีใจรักในงานขายและงานบริการโดยเนื้อแท้แล้ว คุณจะสามารถหาวิธีรับมือกับมันได้

 

นอกจากใจรักแล้ว คุณต้องมี ความพยายามและความอดทน ด้วย หากต้องพบเจอกับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นคนคุมตลาด แผงค้าขายข้างๆ กัน ที่บางครั้งไม่ค่อยถูกชะตา การต่อสู้กับอุณหภูมิความร้อนในแต่ละวัน หรือบางวันที่ฝนตกหนักตั้งแต่เริ่มตั้งแผงขาย จนไม่สามารถขายได้ในวันนั้นก็ตาม ถ้าคุณมีความพยายามและความอดทนที่มากพอ ปัญหาพวกนี้ก็จะไม่สามารถทำอะไรคุณได้เลย

สิ่งที่คุณจะต้องมีต่อมาคือ ความกล้า กล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงที่ตามมา เพราะไม่ว่าคุณจะลงทุนทำอะไร ความเสี่ยงย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ในเดือนแรกที่เริ่มค้าขาย สินค้าอาจจะไม่ได้รับความสนใจมากพอ ยอดขายอาจไม่กระเตื้อง รายรับไม่พอค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องเสียในแต่ละวัน หากคุณยอมรับความเสี่ยงและเชื่อว่ายังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ พร้อมกับนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาแก้ไขในครั้งต่อไปได้ ความท้อถอยก็จะไม่เกิดขึ้นกับคุณ


2. สำรวจเงินที่คุณมี

ลองดูเงินสะสมในบัญชีหรือกระปุกของคุณว่ามีเพียงพ่อต่อการลงทุนหรือไม่ คุณต้องวางแผนว่าจะต้องลงทุนอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นค่าสินค้าที่ต้องการจะขาย ค่าเช่าที่ ค่าอุปกรณ์ในการขาย เช่น โต๊ะสำหรับวางสินค้า ราวแขวนสินค้า ร่มกันแดดกันฝน และค่าจิปาถะอื่นๆ ในแต่ละวันที่ต้องออกไปค้าขาย

หากเงินที่มีอยู่ไม่เพียงพอ คุณอาจจะต้องปรึกษาสถาบันการเงินต่างๆ ในเรื่องของการกู้ยืม แต่ตัวคุณเองจะต้องมั่นใจว่าเมื่อกู้ยืมมาลงทุนแล้ว ธุรกิจของคุณจะสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว มีเงินไปชำระสถาบันการเงินที่คุณได้ไปกู้ยืมมาได้ และทั้งนี้ นอกจากเงินที่ต้องนำมาลงทุนในส่วนต่างๆ แล้ว คุณควรแบ่งเงินอีกส่วนหนึ่งไว้สำรองยามฉุกเฉินด้วย


3. ขายอะไรดีล่ะ?

ในตลาดนัดจะมีสินค้าที่ขายกันหลักๆ อยู่ 3 ประเภท  นั่นคือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สิ่งของเครื่องใช้ทั่วไป และอาหารหรือเครื่องดื่ม ในการเลือกว่าจะขายสินค้าอะไรนั้น เราแนะนำว่าควรมองสินค้าที่คุณชอบก่อนเป็นอันดับแรก เพราะจะทำให้คุณมีความสุขในการขาย สนุกที่จะแนะนำสินค้าแก่ลูกค้าที่ชอบและมีความสนใจในตัวสินค้าเหมือนๆ กันกับคุณ

แต่หากสินค้าที่คุณชอบนั้นต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก และคุณไม่มีความพร้อมที่จะลงทุนในสินค้าตัวนั้น ลองมองหาสิ่งของใกล้ตัวในบ้าน อย่างเช่นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ  ที่มีราคาและคุณภาพยังดีอยู่ แต่คุณไม่ค่อยได้ใช้มันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ นาฬิกา เฟอร์นิเจอร์ จานชามเซรามิก หรือจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่างๆ ก็สามารถนำมาขายได้

นอกจากนี้ เทคนิคในการเลือกสินค้ามาขายนั้น พ่อค้าแม่ขายมืออาชีพได้แนะนำว่า ควรเลือกขายสินค้าที่ยังไม่มีใครขายในตลาด หรือหากมีขายแล้ว ก็ควรจะเป็นสินค้าที่ยังขายกันไม่กี่เจ้า เพราะจะทำให้ลดจำนวนคู่แข่งลงไปได้ และลูกค้าจะมีตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อไม่เยอะ และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกสินค้ามาขายนั้นคือ ควรมีความรู้ทั่วไปหรือความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับสินค้าที่ขาย รวมถึงแหล่งในการรับสินค้ามาขายด้วย หากยังมีความรู้ไม่มากพอก็ต้องหมั่นศึกษา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำธุรกิจ


4. เจาะกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อได้สินค้าที่ต้องการขายแล้ว ก็ต้องคิดว่าเราจะวางกลุ่มเป้าหมาย หรือกลุ่มผู้ซื้อของเราว่าคือใคร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ วัยผู้สูงอายุ หรือเจาะจงว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย บางทีคุณอาจจะต้องเดินสำรวจตลาดว่าสินค้าที่คุณต้องการขายนั้น กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการขายให้มีความต้องการซื้อหรือไม่ มีรสนิยมความชอบอย่างไร มีพฤติกรรมการซื้อและมีกำลังในการซื้อมากน้อยแค่ไหน

การเจาะกลุ่มเป้าหมาย นอกจากจะทำให้รู้ว่าจะต้องขายให้กับใครแล้ว คุณยังสามารถนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้จากกลุ่มเป้าหมายมาประยุกต์ ปรับใช้ให้สินค้าของคุณตรงใจและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดอีกด้วย


5. เลือกทำเลที่ตรงใจ

เมื่อทุกอย่างลงตัว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเดินสำรวจตลาดในแต่ละแห่งแล้ว ซึ่งตลาดก็มีให้คุณได้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่ขายช่วงเช้า ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมออกมาซื้ออาหารพร้อมกับซื้อสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ติดมือกลับบ้านไปด้วย หรือจะเป็นตลาดที่ขายทั้งวัน ที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า มีผู้คนเดินผ่านหลากหลายทุกเพศทุกวัย และตลาดที่ขายช่วงเย็นถึงกลางคืน ที่วัยรุ่นเพิ่งเลิกเรียน หรือคนที่เพิ่งเลิกงานแวะเวียนมาเดิน

คุณจะต้องเดินสำรวจตลาดเพื่อดูบรรยากาศ ดูว่าที่ตลาดแห่งนั้นส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ขายเขานิยมขายสินค้าประเภทไหน เหมาะสมกับสินค้าที่คุณต้องการขายหรือไม่ มีคู่แข่งที่ขายสินค้าเหมือนกับคุณกี่ราย ตลาดแห่งนั้นเดินทางสะดวกสบายหรือใกล้กับสถานที่ที่มีคนเป็นจำนวนมากหรือไม่ เช่นใกล้โรงเรียน ออฟฟิศ หรือชุมชน เป็นต้น


จากนั้นก็ดูว่าต้องติดต่อเพื่อทำการจองล็อคอย่างไร ต้องเริ่มมาจองตั้งแต่กี่โมง ค่าเช่าต่อวันเท่าไหร่ ต้องขายวันไหนบ้าง ซึ่งตลาดบางแห่งสามารถจองล็อคและทำการขายได้เลยในวันนั้น หรือบางแห่งอาจจะต้องทำการจองล่วงหน้า นอกจากการจองโดยตรงที่ตลาดแล้ว คุณยังสามารถค้นหาข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

แม้ขั้นตอนที่เรานำเสนออาจจะไม่ได้เจาะลึกทั้งหมด แต่ ThaiFranchiseCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พ่อค้าแม่ขายมือใหม่จะนำสิ่งที่เราตั้งใจนำเสนอไปปรับใช้ หรือประยุกต์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามจริงกันนะคะ


ลิขสิทธิ์บทความ โดยทีมงาน ThaiFranchiseCenter.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ทีมไหน! หา"ทำเล"ก่อนทำธุรกิจ vs เลือก "ธุรกิจ" ก..
406
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด