บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    กฎหมาย SMEs
2.3K
2 นาที
29 กันยายน 2559
ทำไมต้องปกป้องคุ้มครอง “เครื่องหมายการค้า” 
 
หากถามว่าทำไมเจ้าของธุรกิจ ต้องปกป้องคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของตัวเอง ก็เพราะเครื่องหมายการค้าเป็นแบรนด์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล

ดูจากการรายงานของนิตยสาร Forbes ในปี 2015 ระบุว่า เครื่องหมายการค้าหรือแบรนด์ แอปเปิล มีมูลค่าสูงสุดถึง 145.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ แบรนด์ไมโครซอฟต์มีมูลค่า 69.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ แบรนด์กูเกิลมีมูลค่า 65.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และโคคาโคล่ามีมูลค่า 56 พันล้านเหรียญสหรัฐ  
 
นั่นแสดงให้เห็นว่า เครื่องหมายการค้า หรือ Brand ที่เรารู้จักกัน สามารถทำรายได้ สร้างมูลค่าให้กับเจ้าของแบรนด์ เมื่อถึงยามจำเป็นต้องขายธุรกิจให้กับคนอื่น ยิ่งแบรนด์เป็นที่รู้จัก เป็นที่นิยม เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ยิ่งมีมูลค่าสูง 
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปดูว่า เครื่องหมายการค้า มีความสำคัญอย่างไร และสำคัญมากน้อยขนาดไหน ซึ่งเป็นคำถามที่คาใจของใครหลายคน  ว่าทำไมต้องนำเครื่องหมายการค้าของตัวเอง ไปจดทะเบียนการค้า เพื่อขอรับความคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นๆ มาดูกันเลยครับ  

ความสำคัญของเครื่องหมายการค้า 


 
ภาพจาก https://goo.gl/sSuzRd

ความสำคัญและคุณค่าของเครื่องหมายการค้านั้น แม้ไม่อาจวัดมูลค่าเป็นตัวเงินที่แน่ชัดลงไปได้ก็ตาม แต่หากจะได้พิเคราะห์ถึงความเสียหายหรือการสูญเสียทางธุรกิจ อันเป็นผลเนื่องมาจาก การโต้แย้งสิทธิหรือการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้าแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเครื่องหมายการค้าแต่ละเครื่องหมายนั้นมีค่ามหาศาล ดังจะเห็นได้จากหลายกรณีที่นำไปสู่การฟ้องร้องดำเนิน คดีเพื่อแย้งสิทธิในเครื่องหมายการค้าระหว่างกัน
 
นอกจากนั้น หากจะพิจารณาถึงความสูญเสียในภาพรวมของระบบเศรษฐกิจของประเทศ อันมี สาเหตุเนื่องมาจากการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้า จะเห็นได้ว่ามีมูลค่ามหาศาลที่ไม่อาจประเมินได้ ดังตัวอย่างเช่น
  1. สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยได้ตัด GSP หลายรายการ เพื่อตอบโต้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ทำให้สหรัฐต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจส่งออกของไทย
  2. ประเทศเพื่อนบ้านละเมิดเครื่องหมายการค้าของไทย ทำให้ผู้ส่งออกของไทยไม่สามารถส่งสินค้าไปขายในประเทศนั้น ๆ ได้ เป็นผลให้ต้องสูญเสียรายได้ และขาดโอกาสที่จะขยาย ตลาดออกไป
  3. การละเมิดเครื่องหมายการค้าในระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นผลให้เจ้าของเครื่องหมายที่แท้จริงเดือดร้อน และต้องสูญเสียทั้งรายได้ และโอกาสที่จะขยายตลาด
ประเทศที่เห็นความสำคัญและคุณค่าของทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ กลุ่มประเทศในยุโรป ได้ให้การยอมรับว่าเครื่องหมายการค้าเป็น ทรัพย์สินชนิดหนึ่งที่มีคุณค่ามหาศาล และสามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ ดังนั้น เมื่อเครื่องหมายการค้ามีมูลค่าสูง การลอกเลียนแบบ หรือปลอม จึงเกิดขึ้น 
 
กรณีศึกษา STARBUNG & STARBUCKS 


 
ภาพจาก  https://goo.gl/xggSLb

อย่างเช่นกรณี บ.สตาร์บัคส์ฯ ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.4019/2556 โดยฟ้อง นายดำรงค์ มัสแหละ หรือ “บัง” เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง และนายดำรัส น้องชาย ผู้จะถูกฟ้องที่ 1 และ 2 
 
ในข้อหาเลียนแบบเครื่องหมายการค้า พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ม.109,110 ขอศาลให้สั่งห้าม ไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและการบริการของโจทก์ต่อไป ให้ยุติการเลียนและยุติจำหน่ายสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้าที่เลียน ให้ริบสินค้าที่เลียนและให้ทำลายสินค้าดังกล่าว 
 

 
ภาพจาก  https://goo.gl/rfZv9A
 
โดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ร่วมกันชำระเงินจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการละเมิด และให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแก่โจทก์
 
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่โดนลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะในประเทศจีน ถ้าหากใครจะเดินเข้าร้านอาหารแบรนด์ดังๆ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ต้องสังเกตป้ายหน้าร้านให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนว่า เป็นของแท้ หรือไม่แท้ 
 
คุณได้เห็นแล้วว่า เครื่องหมายการค้า หรือ brand เป็นสิ่งเดียวที่จะสามารถช่วยแยกแยะสินค้าของผู้ผลิตออกจากกันได้ เนื่องจากปัจจุบัน การค้าขายมิได้กระทำเพียงภายในประเทศ
 

 
ภาพจาก https://goo.gl/9Fkw5S

แต่ยังรวมถึงการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งสินค้าที่ผู้ผลิตทั่วโลกได้ส่งออกไปจำหน่ายนั้น ย่อมมีสินค้าบางประเภทที่มีลักษณะของตัวสินค้าที่คล้ายกัน ผู้บริโภคอาจไม่สามารถแยกแยะสินค้านั้นได้ว่ามาจากผู้ผลิตรายใด
 
หากเครื่องหมายการค้า หรือ brand ได้ติดตลาดแล้ว ย่อมเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รู้จักถึงแหล่งที่มา อีกทั้งยังเป็นตัวประกันคุณภาพของสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้านั้น ถึงมาตรฐานของสินค้าที่จะได้รับ
 
ดังนั้น การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จะช่วยคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าได้ โดยบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิในเครื่องหมายการค้า สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องหมายการค้านั้นได้แต่เพียงผู้เดียว รวมถึงสามารถโอนสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นให้บุคคลอื่นต่อไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจในระบบแฟรนไชส์
 

ท่านใดสนใจอยากให้จดเครื่องหมายการค้า แจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,789
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด