บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    เรื่องราวความสำเร็จ
4.0K
2 นาที
25 ตุลาคม 2559
3 แนวคิดของ Ingvar Kamprad จากเด็กขายไม้ขีดไฟสู่อาณาจักร IKEA

 
หลายคนสงสัยว่าทำไมเราต้องสนใจเรื่องราวของคนที่ขึ้นชื่อว่ารวยระดับโลก

ทัศนคติอย่างหนึ่งหลายคนมักเชื่อว่าจะพูดอย่างไรก็ได้ในเมื่อเขารวยแล้ว เขาทำสำเร็จแล้ว ถ้าคุณเป็นหนึ่งในแนวคิดเหล่านี้แสดงว่าคุณกำลังปิดกั้นหนทางที่จะทำให้รู้ว่าความสำเร็จหรือร่ำรวยไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาแต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและความพยายามอย่างเต็มที่ต่างหาก
 
ปัจจุบันมีบุคคลระดับโลกที่พร้อมเป็นกรณีศึกษาให้กับเราจำนวนมากและหนึ่งในบุคคลระดับโลกเหล่านั้น www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าชื่อของ Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเฟอร์นิเจอร์ IKEA นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง

นี่คือบุคคลที่ไม่ได้รวยมาแต่กำเนิด ไม่ใช่คนที่มาพร้อมต้นทุนชีวิตที่ดี เขาเป็นเพียงเด็กชายที่เริ่มจากการขายไม้ขีดไฟแต่ทำไมเขาถึงร่ำรวยติดอันดับท็อปเทนของโลกได้
 
จุดเริ่มต้นของ IKEA มาจากเด็กชายที่ขายไม้ขีดไฟ
Ingvar Kamprad เกิดวันที่ 30 มีนาคม 1926 ในไร่ Elmtaryd ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของ Agunnaryd ประเทศสวีเดน Kamprad เป็นเด็กที่รักการค้าขายอย่างมาก

ตอนเด็ก ๆเขาปั่นจักรยานขายไม้ขีดไฟให้แก่เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยไปซื้อไม้ขีดไฟปริมาณมากมาจากในเมือง ซึ่งทำให้เขาสามารถซื้อได้ในราคาถูก แล้วจึงนำไม้ขีดไปแบ่งขายต่อ เพื่อสร้างกำไร นอกจากนี้เขายังขายสินค้าอีกหลายอย่าง เช่น การขายปลา ของตกแต่งต้นคริสต์มาส การ์ดคริสต์มาส เมล็ดพันธุ์พืช ปากกาลูกลื่นและดินสอ
 
เมื่อ Kamprad อายุได้ 17 ปี เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากพ่อเป็นรางวัลซึ่งเงินจำนวนนี้ก็ไม่ได้มากมายนัก แต่ Kamprad ก็ใช้เงินก้อนนี้มาสร้างกิจการเล็ก ๆ ของเขาที่มีชื่อว่า IKEAโดยชื่อ IKEA นั้นมีที่มาจากการเอาตัวอักษรตัวแรกของชื่อ (Ingvar Kamprad) รวมกับชื่อไร่ของครอบครัว (Elmtaryd) และชื่อหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ (Agunnaryd)

และจากวันนั้นมาถึงวันนี้รวมเวลากว่า 6 ทศวรรษ ชื่อของ IKEA ไม่ได้โด่งดังแค่ระดับประเทศแต่นี่คือธุรกิจระดับโลกที่มีสาขามากกว่า300แห่งใน 44 ประเทศทั่วโลกและ Kamprad ก็มีสินทรัพย์รวมกว่า 7.37 แสนล้านบาท นี่คือบทเรียนที่น่าสนใจซึ่ง Ingvar Kamprad ใช้วิธีบริหารธุรกิจง่ายๆเพียง 3 ประการกับการผลักดันธุรกิจของเขาก้าวเข้าสู่ระดับโลกได้อย่างงดงามทีเดียว
 
แนวคิด 3 ประการในการบริหารงานของ Ingvar Kamprad
 
1. คิดออกแล้วต้องลงมือทำ เริ่มทำจากเล็กๆ

Ingvar Kamprad ผู้สถาปนาศูนย์ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ IKEA เริ่มต้นค้าขายอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเป็นเด็ก สมัยเด็กๆเขาสังเกตว่าผู้ใหญ่ในหมู่บ้านนิยมใช้ไม้ขีดไฟ

เขาสืบพบว่าในกรุงสต็อกโฮล์มมีแหล่งขายส่งไม้ขีดไฟราคาถูกที่เขาสามารถซื้อมาแบบเป็นถุงเป็นถัง (Bulk pack) และนำมาแบ่งขายปลีกเพื่อทำกำไรต่อได้ เขาจึงนำเงินเก็บไปลงทุนซื้อไม้ขีดไฟมาบรรจุปลีกแล้วขี่จักรยานขายไปตามหมู่บ้าน เมื่อมีกำไรเขาก็ขยายฐานจากไม่ขีดไฟไปเป็น ปลา เมล็ดพืช เครื่องตกแต่งต้นคริสต์มาส และเครื่องเขียน
 
IKEA ในช่วงแรกมุ่งขายสินค้าใช้สอยทั่วไปคือ กระเป๋าสตางค์ นาฬิกา เครื่องประดับ และ ของสด โดยการซื้อขายระบบ Mail order (เทียบกับ e-commerce ในปัจจุบัน) กระทั่งปี 1947 เขาเริ่มลองขายเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกและปรากฏว่าขายดีมาก เขาจึงตัดสินใจหันมาจับตลาดเฟอร์นิเจอร์เป็นหลักตั้งแต่ปี 1951
 
2. ทดลองชีวิตจนพบทางที่ใช่ โฟกัสมัน สร้างจุดแข็งให้เหนือคู่แข่ง

เมื่อ Ingvar Kamprad พบว่าการขายเฟอร์นิเจอร์เข้าขากับเขามากที่สุด เขาก็ลด port สินค้ากระจุกกระจิกอื่นๆออกไปแล้วหันมาบุกตลาดเฟอร์นิเจอร์เต็มกำลังแม้ในตอนนั้นจะมีคู่แข่งพอสมควรและกลยุทธ์การขายเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเน้นไปในด้าน Price war

แต่ Ingvar มีทัศนคติว่ามองการแข่งขันเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเอง เขามองหาแนวทางการขายใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำในสมัยนั้น นั่นก็คือการเปิดโชว์รูม
 
ปี 1953 Ingvar เปิดตัวโชว์รูมขายเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นของแปลกใหม่ เพราะผู้ขายสินค้าส่วนใหญ่ในตอนนั้นขายผ่าน mail order และ catalog การเปิดโชว์รูมสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้าเพราะ ได้เห็น ได้ลอง ได้สัมผัส ก่อนซื้อ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ถอดประกอบช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อแล้วยกกลับใส่รถหิ้วกลับบ้านได้ทันที เรียกว่า Cash & Carry ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก
 
3. รวยแล้วต้องมีสติ รวยแล้วต้องติดดิน รวยแล้วทำประโยชน์แก่ผู้อื่น

Ingvar Kamprad ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นคนรู้จักใช้เงิน แม้ในช่วงที่ธุรกิจประสบความสำเร็จและมีเงินมากแต่เขาก็ยังนั่งรถไฟใต้ดินไปทำงาน รวมถึงยังนิยมใช้รถยนต์คันเก่าๆ และไม่เคยมีข่าวว่าเขาซื้อบ้านพักตากอากาศเหมือนกับเศรษฐีทั่วไป

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า Ingvar Kamprad เป็นคนที่ตระหนี่จนเกินไปตรงกันข้ามเขากลับเป็นนักการกุศลตัวยงโดยเขาผู้สนับสนุนหลักให้องค์กร UNICEF บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ในโครงการต่างๆสม่ำเสมอ และมีการตั้งมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาในด้านต่างๆอีกมากมายด้วย
 
แม้ว่าเราจะเห็นเป็นเพียงฉากสำเร็จที่สวยงามแต่เชื่อหรือไม่ว่ากว่าจะมีวันนี้นั้น Ingvar Kamprad เองก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง และเจอกับปัญหามานานาประการ  

ถ้าเรามองโลกด้านบวกสิ่งเหล่านี้คือบทเรียนที่ควรศึกษาไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาง่ายดาย ประสบการณ์และแนวคิดเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเรียนรู้มาก โอกาสสำเร็จก็มีมาก เปิดใจให้กับความรู้นั้นคือก้าวแรกสู่เวทีแห่งความสำเร็จในอนาคต
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,789
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด