ภาพจาก goo.gl/3iSSqK

หลังจากเมืองไทยมีข่าว “ปตท.เตรียมเขี่ย 7-11” ออกจากปั้มน้ำมัน ทางฟากต่างประเทศก็มีข่าว “แมคโดนัลด์” เตรียมปิด 169 สาขาในภาคเหนือและตะวันออกของประเทศอินเดีย ทำให้หลายคนอาจมองว่า แมคโดนัลด์ บ้าไปแล้วเหรอ! 
 

กล้าทิ้งตลาดอันโอชะอย่างอินเดียไปได้ลงคอเชียวเหรอ เพราะอินเดียเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน และเชื่อว่าอีกไม่นาน ก็คงแซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่แบรนด์แฟรนไชส์หลายๆ แบรนด์ โดยเฉพาะร้านฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังๆ จากอเมริกา จะมุ่งหน้าเข้าสู่อินเดียต่อเนื่อง   
 

จริงๆ แล้ว แมคโดนัลด์ ยังไม่ได้หนีไปจากตลาดอินเดียเลย จากข่าวที่ออกมาก็เพียงแค่ บริษัทแม่แมคโดนัลด์ได้ยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์กับพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Connaught Plaza Restaurants Private Limited (CPRL) 
 

 

ภาพจาก goo.gl/tFTqoT

 

โดยบริษัทแห่งนี้มี Vikram Bakshi เป็นผู้อำนวยการบริหารบริษัท และ CRPL ได้รับสิทธิบริหารสาขาแฟรนไชส์แมคโดนัลด์ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันนอกของประเทศอินเดียอยู่ขณะนี้จำนวน 169 สาขา และปิดสาขาไปก่อนหน้านี้อีก 40 สาขาแถบเมืองนิวเดลีในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2560 เนื่องจากเกิดฟ้องร้องทางกฎหมายระหว่างคู่ค้ากันเป็นเวลานาน กระทั่งล่าสุดบริษัทแมคโดนัลด์บอกยกเลิกสัญญาหรือสิ้นสุดสัญญากับทาง CRPL ที่ดูแลสาขาอีก 169 สาขา 

โดยร้านสาขาทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การจัดการของCPRL จะต้องหยุดการใช้ชื่อ “แมคโดนัลด์” รวมไปถึงสัญลักษณ์ทางการค้า ชื่อแบรนด์สินค้า พร้อมกับความลับทางการค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ภายใน 15 วันหลังจากได้รับแจ้งการยกเลิก อ้างอิงจากแถลงการณ์ของแมคโดนัลด์ ซึ่งก็ถือว่าถูกต้องถ้าหากจะว่ากันไปตามหลักกฎหมายแฟรนไชส์
 

ในแถลงการณ์ ทางแม็คโดนัลด์ชี้ว่า ทางบริษัทยังไม่ออกจากตลาดฟาสต์ฟูดในภาคเหนือและภาคตะวันออกของอินเดีย แต่ทางบริษัทจะหาผู้ร่วมค้ารายใหม่เข้ามาแทน CRPL ในการบริหารพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกของอินเดีย   
 

 

ภาพจาก goo.gl/jeaXtn

 

ที่บอกว่า แมคโดนัลด์ ไม่ได้ทิ้งตลาดอินเดียไป ก็เพราะแมคโดนัลด์มี 2 บริษัท ที่ได้รับสิทธิในการบริหารสาขาแฟรนไชส์แมคโดนัลด์ในประเทศอินเดีย เช่นเดียวกับ KFC เมืองไทยที่ได้ขายสิทธิแฟรนไชส์ให้กับ กลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มเบียร์ช้าง โดย CRPL รับผิดชอบในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออก 
 

ส่วนอีกบริษัท คือ Westlife Development Ltd. ของ Mr. Jatai ดูแลภาคตะวันตกและภาคใต้ของอินเดีย (เป็นผู้นำแมคโดนัลด์เปิดสาขาแรกในอินเดียได้สำเร็จในปีค.ศ.1996) โดยก่อนหน้านี้แมคโดนัลด์มีสาขาในอินเดียมากกว่า 368 สาขา 
 

ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นเหมือนดั่งสามีภรรยาที่แต่งงานกัน เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน ก็ต้องเกิดการฟ้องร้องอย่าร้างกัน ระบบธุรกิจแฟรนไชส์ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดปัญหาข้อพิพาทระหว่างกัน ก็มีการฟ้องร้อง ยกเลิกสัญญากัน สาเหตุการยกเลิกสัญญาแฟรนไชซอร์ระหว่างกัน อาจมีได้หลายสาเหตุ 
 

เช่น สถานะของแฟรนไชส์ซีเปลี่ยนไป ล้มละลาย ไม่หายใจ พิการ ไม่ทำตามหน้าที่ในสัญญา เอาเครื่องหมายการค้าไปใช้ที่อื่น ไม่จ่ายค่าสิทธิ ไม่ส่งรายงาน ไม่ทำตามมาตรฐานระบบแฟรนไชส์ที่กำหนดไว้ในสัญญา ทำให้เสียชื่อเสียงของธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งกรณีของ CRPL อินเดีย ก็อาจทำผิดสัญญาแฟรนไชส์ ข้อใด ข้อหนึ่ง ที่ได้ทำข้อตกลงกันเอาไว้ 
 

บริษัทแมคโดนัลด์อินเดีย กับ CRPL แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน ขยายสาขาได้เป็นจำนวนมาก เหมือนกับคนเราบางคู่แต่งงานอยู่กินกันตั้งหลายปี บางคนมีลูกตามมาอยู่ด้วยตั้งโหล แต่เพิ่งคิดได้ว่าคนที่แต่งด้วย นอนเตียงเดียวกันทุกคืน ไม่ใช่อย่างที่คิด ก็เลยลุกขึ้นมาขอหย่าก็มี แล้วนับประสาอะไรกับการทำธุรกิจในระบบแฟรนไชส์
 

 

ภาพจาก goo.gl/3kRMKx

 

ต่อจากนี้ เราก็คงต้องจับตาดูว่า คู่นอน หรือคู่แต่งงานใหม่ของ บริษัทแมคโดนัลด์อินเดีย เป็นใครเท่านั้น เพราะเชื่อว่าแมคโดนัลด์ อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นในวงการร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดประเทศอินเดียในเร็วๆ นี้ก็ได้ครับ 
 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php

สนใจซื้อแฟรนไชส์ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php