ภาพรวมตลาดนมพร้อมดื่มทุกประเภททั้งนมถั่วเหลือง นมโค นมเปรี้ยว โยเกิร์ตพร้อมดื่มต่างๆ มีมูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท สินค้าในกลุ่มผู้นำมีตั้งแต่โฟโมสต์ แลคตาซอย ไวตามิลค์ ซีพี-เมจิ รวมถึงแอนลีน

แต่หากวิเคราะห์มองในกลุ่มของนมถั่วเหลืองตลาดนี้ก็จะมีผู้นำที่น่าสนใจคือแลคตาซอย  ประเด็นที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าน่าสนใจคือไวตามิลค์ที่เริ่มธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2501 ถูกแลคตาซอยที่เริ่มหันมาผลิตนมถั่วเหลืองในปี 2524 แซงหน้าชิงส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่าไปเรียบร้อยแล้ว

 

ตัวเลขที่ชัดเจนคือตลาดนมถั่วเหลืองในประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยมีแลคตาซอยชิงส่วนแบ่งการตลาดนี้ไปได้กว่า 55 % และเมื่อคิดเป็นอัตราการเติบโตนั้นสูงกว่าปีก่อนกว่า 2% เลยทีเดียว

 

 

ย้อนไปในปี 2493 ที่คุณวิริยะ จิรพัฒนกุล ได้เริ่มก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนเกียงฮั้ว จำกัด เริ่มด้วยการเป็นโรงงานผลิตน้ำอัดลมส่งขายให้กับค่ายทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้ลิขสิทธิ์เป็นผู้ผลิตน้ำอัดลมจากต่างประเทศยี่ห้อ คิกคาปู้จากแคนาดาและ คิงคิส จากสหรัฐอเมริกา

ตอนนั้นถือเป็นยุคทองของน้ำอัดลมด้วยความที่เป็นสินค้าแปลกใหม่ไม่เคยมีมาก่อนคนไทยก็นิยมมาก ยี่ห้อดังๆที่เราอาจจะเคยได้ยินเช่น ซันเดรส แคนาดาดราย เฮาดี้ รวมถึงคิกคาปู้ ด้วย

 

แต่ด้วยข้อจำกัดด้านช่องทางจำหน่าย จึงเริ่มมีการจับธุรกิจใหม่และก็เป็นนมถั่วเหลือง ซึ่งถ้าพูดถึงเจ้าแรกที่ลุยตลาดนี้ต้องยกให้กรีนสปอตที่เริ่มทำไวตามิลค์ในปี 2501 แต่แลคตาซอยมาเริ่มผลิตครั้งแรกในปี 2524 แต่อย่างที่ทราบตอนนี้พูดถึงนมถั่วเหลืองคนนึกถึงแลคตาซอยขึ้นมาเป็นช้อยส์แรก

 

เหตุผลที่ส่งเสริมให้แลคตาซอยขึ้นครองอันดับหนึ่งในตลาดนมถั่วเหลือง คือความกล้าที่จะเปลี่ยน แม้แลคตาซอยจะมาทีหลังไวตามิลค์แต่กลับเป็นเจ้าแรกที่เอาเทคโนโลยีการบรรจุนมในกล่องจากสวีเดนมาใช้ ขณะที่ไวตามิลค์ยังผลิตนมถั่วเหลืองแบบขวดแก้วเหมือนเดิม
 

 

นอกจากนี้เราทราบดีว่าแลคตาซอยนั้นถูกยกให้เป็นสุดยอดสปอนเซอร์ ไม่ว่าใครจะทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาขอสปอนเซอร์กับแลคตาซอยเป็นต้องได้หมด ดังนั้นอย่าแปลกใจว่าทำไมในพื้นที่ห่างไกลนมแลคตาซอยถึงเป็นที่รู้จักของเด็กๆทุกคน

 

ยังไม่รวมเรื่องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ปัจจุบันมีหลายรุ่น หลายขนาด ปริมาตรก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ 300มล.  500 มล. ไปถึง 1,000 มล. ไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต แลคตาซอยก็มีให้เลือกกินได้อย่างเหมาะสมทุกช่วงอายุ

สิ่งที่เห็นว่าแลคตาซอยนั้นเติบโตแบบจริงจังคือการสร้างโรงงานที่ปราจีนบุรีบนพื้นที่กว่า 209 ไร่ ก็เป็นการลงทุนในระดับเกินกว่า 1,000 ล้านบาท นั้นหมายความว่าแลคตาซอยประเมินแล้วว่าผลกำไรที่จะตามมานั้นมากกว่าเงินทุนที่ลงไปแน่

 

โรงงานใหม่ของแลคตาซอยนี้คาดว่าจะทำให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ขึ้นกว่า 25-30% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตปีละ 2,400 ล้านกล่องจะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านกล่อง พร้อมกับตัวเลขรายได้จากเดิมที่ 10,200 ล้านบาท จะกลายเป็น 11,000 – 11,500 ล้านบาทภายในปี 2561 

 

ยังไม่รวมเรื่องการขยายระบบโลจิสติกส์ที่ให้ครอบคลุมเป้าหมายได้มากที่สุดโดยตั้งเป้าการเข้าถึงลูกค้าเพิ่มขึ้นที่ 10-12 % รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศให้มากขึ้นจากที่มีอยู่เดิมกว่า 45 ประเทศทั่วโลก รวมถึงตลาดเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดสำคัญที่สร้างรายได้ให้แก่แลคตาซอยกว่า 15 % ของรายได้ทั้งหมด

 

เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจยุคนี้ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าลงทุน ไม่สำคัญว่าจะเป็นธุรกิจที่เกิดก่อนหรือมาทีหลัง สำคัญว่าทุ่มเทแค่ไหนที่จะทำให้เป็นธุรกิจที่สำเร็จ บางทีเราต้องยอมทุ่มก่อนก่อนที่จะได้คืนมา จริงหรือไม่คนทำธุรกิจเท่านั้นที่รู้ดี!

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/lactasoyclub