บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
5.3K
2 นาที
28 มิถุนายน 2561
3 วิธีลงทุนสร้างรายได้ 50,000 บาท/เดือน
 

หลายครั้งที่เราเข้าไปค้นหาวิธีการสร้างรายได้ในอินเทอร์เนตก็จะพบสารพัดวิธีมากมายทั้งแบบลงทุนสร้างอาชีพ ใช้เงินต่อเงิน ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็พูดกันตามจริงว่ามีทั้งที่ขายฝันและไม่ขายฝัน บางวิธีทำได้จริงแต่ไม่ใช่กับทุกคน ยิ่งโฟกัสให้แคบเข้ามาอีกว่าหากเราอยากมีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท ก็จะมีวิธีที่รวบลัดได้เงินเร็วแต่พอมาดูเงินที่ต้องลงทุนเข้าไปโอ้โห! นี่มันเศรษฐีลงทุนชัดๆ
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ได้นำเอาข้อมูลชี้ชัดๆว่าหากมีเงินมากพอต้องลงทุนกับอะไรบ้างถึงจะมีรายได้ 50,000 ต่อเดือน เริ่มจาก
  1. เอาเงินไปฝากในธนาคาร 20 ล้านบาท ซึ่งจากดอกเบี้ยฝากประจำ 3% ต่อปี จะได้ดอกเบี้ย 600,000/ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ย/เดือนจึงเท่ากับ 50,000 บาท
  2. นำเงิน 15 ล้านไปลงทุนในหุ้นกู้ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนประมาณ 4%ต่อปี (ผลตอบแทน 600,000 บาท/ปี)
  3. นำเงิน 10 ล้านไปเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจได้ผลตอบแทนต่อปี 6% 
  4. นำเงิน 8 ล้านบาท ลงทุนกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผลตอบแทนประมาณ 7.5% ต่อปี
แต่แค่เห็นตัวเลขหลัก 10 ล้านแบบนี้พูดได้คำเดียวว่าไม่ใช่ตัวเราแน่ ๆ เพราะลำพังมนุษย์เงินเดือนแบบเรานี้มีเงินเดือนแค่15,000-20,000 การคิดจะเอาเงินล้านไปลงทุนก็คงทำไม่ได้ แต่ใช่ว่าคนรายได้น้อย ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง จะหมดโอกาสสร้างรายได้ต่อเดือนในหลัก 50,000 บาท
 
เมื่อเงินมีน้อย รายได้ไม่มาก ลงทุนก้อนใหญ่ไม่ได้ ก็ต้องใช้เรื่องวินัยเข้ามาทดแทนในการช่วยสร้างแผนการออมเงินซึ่งเราก็มี 3 วิธีที่ให้ลองเอาไปใช้กันได้
 
1.เก็บเงินฝากธนาคารคู่กับการทำบัญชีลดรายจ่าย
 
ภาพจาก goo.gl/8fnLZD

เป็นวิธีพื้นฐานที่ง่ายที่สุดแต่ก็ทำยากที่สุดเหมือนกัน บางคนมีรายจ่ายเยอะมาก เงินเดือนยังไม่พอใช้อย่าว่าแต่ฝากธนาคารบางทีต้องขอยืมเงินคนอื่นมาใช้ด้วยซ้ำ วิธีนี้สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักลดรายจ่ายตัวเองให้ได้ มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

ดูว่ารายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นต้องพยายามตัดใจเอาทิ้งไปบ้างเพื่อให้มีเงินเหลือ และสร้างวินัยในการออมที่เป็นระบบ เช่นเงินเดือนน้อยรายจ่ายเยอะ อาจเริ่มต้นเลือกออมเงินในธนาคารเดือนละ 1,000 บาท พอบครบ 1 ปีจะมีเงิน 12,000 บาท หรือสำหรับคนที่ขยันอาจจะมีงานพิเศษ หรือทำฟรีแลนด์ ที่อาจทำให้มีรายได้มากกว่าเงินเดือนประจำอาจเพิ่มการเก็บออมมากขึ้นเป็นเดือนละ 2,000 - 3,000 บาท

คิดดูคร่าวๆ ถ้าเราเก็บเดือนละ 1,000 ในปีแรกจะมีเงิน 12,000 บาท ดอกเบี้ย 0.5% = 12,060 บาท พอปีที่สองมีทุนอยู่แล้ว 12,060 บาท เก็บเพิ่มอีกเดือนละ 1,000 สิ้นปีที่ 2 จะมีทุน 24,060บาท ดอกเบี้ย 0.5% = 24,180 บาท และถ้าทำอย่างต่อเนื่องแบบนี้เรื่อยไปเงินของเราก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ปัญหาสำคัญคือวินัยในการออมที่ต้องแข็งแรงมากๆ และมีวิธีบริหารการเงินที่สุดยอดด้วย
 
2.เลือกลงทุนกับกองทุน
 
ภาพจาก goo.gl/b6ySGk

วิธีการฝากเงินกับธนาคารอาจจะเรียกว่ารายรับที่ได้แม้จะน้อยแต่ก็สบายใจ แต่หากใครคิดจะมีรายได้เยอะๆ ก็คงต้องเสี่ยงมากขึ้น กับการลงทุนในกองทุนต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเราสามารถศึกษาข้อมูลการลงทุนเบื้องต้นได้จากอินเทอร์เนตที่มีสาระความรู้เรื่องนี้มากมาย แต่ถ้าจะให้ดีไปคุยกับคนที่มีประสบการณ์โดยตรง เช่นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่จะช่วยเราวิเคราะห์เรื่องนี้ได้เป็นฉากๆ 

ซึ่งส่วนใหญ่เขาจะแนะนำให้วางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับรายได้ตัวเอง มีตั้งแต่ลงทุนที่ 5,000 บาท หรือแผนการลงทุนอื่นๆ ตามแต่ละสถาบันการเงินจะนำเสนอ ซึ่งรูปแบบการลงทุนก็มีตั้งแต่ตราสารหนี้  กองทุนรวม หุ้น เป็นต้น 

ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง แต่ในความเสี่ยงก็มีความคุ้มค่าหากประสบความสำเร็จ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแวดวงนักลงทุนถึงได้คึกคักและมีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ถ้ายังไม่มีความรู้ อย่าคิดลงทุนทีละมากๆ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟได้
 
3.ลงทุนกับแฟรนไชส์


สมัยนี้แฟรนไชส์มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายราคาให้เลือกได้ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปถึงระดับหมื่นต้นๆ โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารมีแพคเกจระดับ 10,000 ให้เลือกลงทุนมากมาย

หากใครมีเงินทุนสำหรับซื้อแฟรนไชส์ที่คำนวณคร่าว ๆทั้งซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ บวกงบลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งข้อดีของระบบแฟรนไชส์คือให้เราต่อยอดกิจการได้ทันทีไม่ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ เพราะคนรู้จักดี

ไม่ต้องวางระบบร้านเอง ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ บางแฟรนไชส์สามารถคืนทุนได้ภายใน 2-3 เดือน นั้นหมายความว่า จากเงินทุนที่เราลงไปคิดคร่าวๆว่า 20,000 บาท อาจคุ้มทุนภายใน 3 เดือนและหลังจากนั้นก็จะมีต้นทุนคือค่าวัตถุดิบและรายจ่ายทั่วไปเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสถานที่ และยิ่งขายนานยิ่งมีประสบการณ์
 

 
ลูกค้ายิ่งเยอะ รายได้ต่อวันก็จะยิ่งมาก เฉลี่ยบางแฟรนไชส์มีกำไรต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20,000-30,000 บาท ซึ่งถือว่าดีกว่าทำงานประจำและดีกว่าการออมในรูปแบบอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยความขยัน และทุ่มเทให้กับการลงทุนไม่น้อยเช่นกัน
 
เราจะเห็นว่าวิธีการไปถึงเป้าหมายที่มีรายได้ 50,000 บาท/เดือนนั้นพื้นฐานแล้วมีไม่กี่อย่าง แบ่งเป็นหลักใหญ่ก็คือออมเงินกับลงทุน ซึ่งการลงทุนก็แยกย่อยว่าจะเลือกลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง เงิน 50,000 บาทถามว่ามากไหมก็ไม่มากซึ่งถ้าเรารู้จักวิธีคิด วิธีบริหาร และลงมือทำจริงจังด้วยศักยภาพของคนเราเชื่อว่าเงิน 50,000/เดือนไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถแต่อย่างใด
 

SMEs Tips 
  1. เก็บเงินฝากธนาคารคู่กับการทำบัญชีลดรายจ่าย
  2. เลือกลงทุนกับกองทุน
  3. ลงทุนกับแฟรนไชส์
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด