8 สิ่งที่ธุรกิจต้องมี หากขาดเจ๊งแน่นอน
 

 

ใครที่อยากทำธุรกิจอาจคิดว่ามีไอเดีย มีเงิน มีทำเล ก็เริ่มต้นได้ ใช่ครับเราเริ่มต้นได้แต่ว่าเริ่มแล้วจะไปรอดได้หรือไม่นั้นคือสิ่งที่สำคัญกว่า การทำธุรกิจก็ไม่ต่างจากการต่อสู้ที่หากอาวุธไม่ครบมือก็มีสิทธิ์จะพลาดพลั้งให้กับคู่ต่อสู้ที่มีอยู่รอบตัวมากมาย มีธุรกิจมากมายที่เกิดมาแล้วก็จากไป

เหตุผลสั้นๆคือ “เครื่องมือไม่ครบ” ซึ่งนักการตลาดระดับโลกหลายท่านได้มองเรื่องนี้เป็นสิ่งเดียวกันว่าธุรกิจที่ดีต้องมี 8 อย่างต่อไปนี้ครบถ้วน และ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็ได้นำเอา8อย่างที่ว่านี้มานำเสนอให้เห็นชัดเจนว่าแท้ที่จริงทำธุรกิจทั้งทีเราต้องมีอะไรบ้าง จะได้ไม่ขาดทุนยับเยิน

 

1.Brand Building
 

เป็นแลนด์มาร์คอันแรกที่ธุรกิจต้องมี จะเห็นว่าแบรนด์ระดับโลกต่างก็มี Brand Building ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น  KFC , Starbucks , Apple , Google ,McDonald ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่กว่าแบรนด์เหล่านี้จะมีชื่อเสียงได้ต้องผ่านเรื่องราวผ่านประสบการณ์ต่างๆมามากมาย

แต่แบรนด์เหล่านี้ก็มีจุดยืนในตัวเองที่ไม่เปลี่ยนไปตามกระแสของเวลา นั้นทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับ และจดจำ และมักนึกถึงแบรนด์เหล่านี้ก่อนเสมอๆ ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้คนจดจำได้ กลายเป็นภาพลักษณ์ที่เอาไปต่อยอดด้านการตลาดได้ง่ายขึ้น 

 

2.CRM 
 

CRM หรือ Customer Relationship Management คือกลยุทธ์ในการเข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้บริโภค การทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากเราไม่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามีความต้องการอะไร และสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังกับแบรนด์เราคืออะไร การทำ CRM จะกลายเป็นข้อมูลพื้นฐานในการผลิตสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ ยุคนี้จึงถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก หากครองใจลูกค้าได้มากโอกาสก้าวหน้าสร้างกำไรก็มากขึ้นด้วย

 

3.PRM 

 

PRM หรือ Partner Relationship Management คือการสร้างความสัมพันธที่ดีกับคู่ค้า ซึ่งการทำธุรกิจเราต้องมีทั้งคนที่เป็น ซัพพลายเออร์ , ดีลเลอร์  รวมถึงธุรกิจอื่นๆที่ควรจะพึ่งพากันได้ การมีพันธมิตรที่ดีถือเป็นกระบวนการ PRM ที่แข็งแกร่ง เมื่อพวกมากย่อมดีกว่า โอกาสในการต่อรองเจรจาก็สูงกว่า เราจะเห็นว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างก็มีพันธมิตรที่ดีจำนวนมากนั้นทำให้เกิดเครือข่ายของธุรกิจที่ยึดโยงกันไว้ ถือเป็นความแข็งแกร่งทางธุรกิจที่เราควรสร้างไว้ให้มาก

 

4.Digital marketing
 

Digital marketing เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงประชาชนทุกเพศทุกวัยได้ดีที่สุด การเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ มีผลต่อธุรกิจมาก ดังเราจะเห็นว่าในช่วงแรกของตลาดออนไลน์ธุรกิจไหนที่ปรับตัวไม่ได้ต่างก็ต้องทยอยลดสาขา เลิกกิจการไปเป็นจำนวนมาก

แต่ปัจจุบันหลายธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวให้คุ้นชินและใช้ Digital marketing เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้มากขึ้น ในฐานะของคนทำธุรกิจก็ควรเลือกเครื่องมือออนไลน์เหล่านี้ให้มีความเหมาะสมเนื่องจากหากใช้ดีก็มีประโยชน์มากแต่หากใช้ผิดพลาดก็กลายเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมารุนแรงได้เช่นกัน

 

5.Database Marketing
 

ฐานข้อมูลสำคัญกับการทำธุรกิจมาก หากเรามี Database Marketing ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์สินค้า หยั่งรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคในระดับที่สามารถใช้เป็นประโยชน์ เพื่อดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดอื่นๆ เจาะเข้าหาผู้บริโภคอย่างได้ผล และเอาชนะคู่แข่งได้

 

6.IMC 
 

IMC คือ Integrated Marketing Communications กลยุทธ์การสื่อสารทุกรูปแบบเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค เป็นเครื่องมือที่ทำงานสัมพันธ์กับ Digital marketing แต่มีความลึกซึ้งในการเข้าถึงซึ่งเป็นรายละเอียดที่คนทำธุรกิจจำเป็นต้องใส่ใจ ปัจจุบันมีการอบรมและสอนเทคนิคการบริหารธุรกิจขั้นสูงมากมายที่ผนวกเรื่องพวกนี้เป็นเนื้อหาสำคัญสำหรับคนอยากทำธุรกิจ

 

7.PR Marketing
 

ภาพลักษณ์ธุรกิจเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เราจะเห็นว่าแบรนด์ดังระดับโลกมีทีม PR Marketing ที่สุดยอดไม่ใช่แค่การโปรโมทบริษัททั่วไปแต่ในยามที่มีวิกฤติ เกิดปัญหา  PR Marketing จะเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องใช้กลยุทธ์อาศัยความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาผ่อนหนักให้เป็นเบา เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี ทำให้ธุรกิจไม่เสียเปรียบคู่แข่งในเชิงภาพลักษณ์ อันจะรักษาหน้าตาและความเชื่อมั่นให้อยู่กับลูกค้าต่อไปได้

 

8.Experiential Marketing
 

ภาพจาก goo.gl/EQ8DSm

Experiential Marketing คือการตลาดเชิงประสบการณ์หรือการครองส่วนแบ่งของตลาดที่มีการแข่งขันสูง ธุรกิจที่ดีต้องเลือกใช้ Experiential Marketing ของตัวเองได้อย่างเหมาะสมเนื่องจากมีวิธีใช้ที่หลากหลายเช่น Jimmy John’s ร้านแซนด์วิชเล็กๆ ที่นำแซนด์วิชไปให้กลุ่มเป้าหมายชิมฟรี จนปัจจุบันนี้ Jimmy John’s มีสาขาทั่วอเมริกากว่า 2,000 สาขา
 

หรือ Warby Parker แบรนด์แว่นตาดังระดับโลก ที่ยินดีส่งแว่นตา 5 แบบ ไปให้ทดลองใส่ที่บ้านแบบฟรีๆ ไม่คิดเงิน จนแน่ใจแล้วว่าแบบไหนเหมาะกับเราค่อยส่งคืนกลับไปโดยไม่เสียเงินเลยแม้แต่สตางค์เดียว ดังนั้น ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ซื้อแว่นตาแบรนด์ Warby Parker เพราะมีกรอบแว่นตาให้เลือกมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่พวกเขารู้ว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเมื่อซื้อแว่นตา Warby Parker เป็นต้น

 

เราจะเห็นว่าธุรกิจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนหากเราไม่ใส่ใจคิดว่ามีเงินก็ทำได้ มีเงินก็จ้างบริษัทโฆษณา ธุรกิจที่ดีและไปรอดผู้ลงทุนควรไปศึกษาการทำงานตั้งแต่หน่วยล่างไปจนถึงระดับผู้บริหารเพื่อให้รู้ว่าธุรกิจของเรามีปัญหาตรงไหน และควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ใช้วิธีไหน ผู้ลงทุนที่เอาใจใส่และมุ่งมั่นกับการทำงานอย่างจริงจัง ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com