ทำไม “ภาพยนตร์” ถึงเรียก “แฟรนไชส์”
 

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “หนังแฟรนไชส์” กันมาบ้างแล้ว ซึ่งหลายคนอาจจะงงๆ หรือไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเรียกหนังหรือภาพยนตร์ว่า “แฟรนไชส์” แล้วหนังแฟรนไชส์เหมือนหรือแตกต่างจาก “ธุรกิจแฟรนไชส์” อย่างไร 
 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะหาคำตอบมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจครับเราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ ฮอลลีวูดพยายามจะสร้างภาพยนตร์ ที่สามารถต่อยอดไปเป็นแฟรนไชส์ได้อีกหลายๆ ภาค นั่นก็เพราะว่าเมื่อคนดูเริ่มคุ้นเคยกับตัวละครและทิศทางของภาพยนตร์แล้ว มันก็ยิ่งง่ายกับผู้สร้างภาพยนตร์ ที่จะพาคนดูเข้าสู่จักรวาลของพวกเขา โดยไม่ต้องมาเสียเวลาปูเรื่องราวให้คนดูเข้าใจอีก
 

ภาพยนตร์แฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะมีหลายๆ ภาค ในแต่ภาคอาจใช้นักแสดงคนเดียวกัน หรืออาจมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงในแต่ละภาคก็ได้ แล้วแต่ผู้สร้างภาพยนตร์ รวมถึงกระแสความนิยมของคนดูในช่วงเวลานั้น 

ภาพจาก goo.gl/Ap4GMg

 

ซึ่งคนดูก็คือผู้บริโภคในระบบแฟรนไชส์ และผู้บริโภคอาจจะหลงใหลหรือชื่นชอบแบรนด์แฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ บางคนอาจชอบทาน KFC บางคนชอบแมคโดนัลด์ เป็นต้น 
 

แต่ถ้าเป็นแฟรนไชส์หนัง คนดูกลุ่มนี้ชอบดูแฟรนไชส์หนังสยองขวัญ อีกกลุ่มชอบแฟรนไชส์ซุปเปอร์ฮีโร่ หนังแฟรนไชส์ที่มีหลายภาค เช่น Marvel Cinematic Universe, The Dark Knight Trilogy, The Twilight Saga, The Lord of the Rings Trilogy (Extended Edition), Star Wars, Harry Potter, James Bond, The Fast and the Furious, Transformers ฯลฯ 

อันที่จริง หนังแฟรนไชส์ก็คล้ายๆ กับธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ผู้สร้างภาพยนตร์หรือบริษัทเจ้าของหนัง ดำเนินธุรกิจในรูปแบบการขยายตลาดและเป็นช่องทางในการจัดจำหน่าย เพื่อต่อยอดธุรกิจ และสร้างรายได้ จากภาคต่อของหนัง  
 

ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์จะขยายตลาดผ่าน “แฟรนไชส์ซี” โดยเจ้าของธุรกิจ จะให้สิทธิเครื่องหมายการค้า รวมถึงการถ่ายทอดความรู้และกระบวนการทำงานทั้งหมด เพื่อให้รูปแบบและวิธีการดำเนินธุรกิจในทุกสาขาอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน 
 

สาขาของธุรกิจแฟรนไชส์ ก็เหมือนกับหนังภาคที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไปเรื่อยๆ เพราะการดำเนินเรื่องของหนังแต่ละภาคจะเหมือนๆ กัน คนดูจะรู้เลยว่าต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น เช่นเดียวกับสาขาธุรกิจแฟรนไชส์ ก็ต้องดำเนินธุรกิจรูปแบบเดียวกันทั้งหมด 

ภาพจาก goo.gl/7Pypgx

 

จะว่าไปแล้ว แฟรนไชส์ภาพยนตร์ก็เหมือนๆ กับ วงนักร้องไอดอล BNK48 ขยายสาขาแฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่น และ BNK48 ถือเป็นภาพยนตร์ที่มีเรื่องราว มีเส้นเรื่องหลากหลาย เรื่องแรกก็คือ ความเข้มข้นในการแข่งขันเพื่อหาเซมบัตสึ 
 

ผ่านความน่ารักและเป็นธรรมชาติของน้องๆ ในตั้งใจการทำงาน และมิตรภาพความผูกพันแบบ Girl friends ก็เป็นอีกหนึ่งมิติที่น่าสนใจ และเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้การติดตาม BNK48 มีความน่าสนใจตลอดเวลา เหมือนกับแฟรนไชส์หนังแต่เรื่อง ที่ทำให้คนดูต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าภาคต่อไปจะเปิดฉายเมื่อไหร่

ภาพจาก goo.gl/KJ9zqG

 

สรุปก็คือ แฟรนไชส์ภาพยนตร์ เป็นรูปแบบของธุรกิจที่ต้องการขยายตลาด เพื่อสร้างรายได้ ด้วยการสร้างภาคต่อหลายๆ ภาค ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสุดท้าย แต่ละภาคอาจมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงก็ได้ 
 

แต่การดำเนินเรื่องและการนำเสนอจะไม่แตกต่างกัน ตอนจบแต่ละภาคจะคล้ายๆ กัน เช่นเดียวกับธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มีการถ่ายทอดเรื่องราว องค์ความรู้ และรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้กับสาขาแฟรนไชส์เหมือนๆ กัน 
 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php