บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
3.7K
3 นาที
5 กันยายน 2561
3 จุดเด่น 4 จุดด้อย ของธุรกิจแฟรนไชส์
 

เชื่อหรือไม่ว่า ยุคนี้ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหน ซ้ายหรือขวา ก็เห็นแต่ร้านแฟรนไชส์เปิดเต็มไปหมด โดยเฉพาะแฟรนไชส์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ค้าปลีก รวมถึงแฟรนไชส์การให้บริการ ตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงกระแสฮิตว่า “ธุรกิจแฟรนไชส์” กำลังเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม ของผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ผู้ที่ไม่อยากเป็นลูกจ้างคนอื่นแล้ว
 

แต่กระนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์ก็ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด เพราะไม่มีสิ่งใดในโลกที่ได้มาง่ายดาย ยิ่งในโลกของธุรกิจด้วยแล้ว ในการจะตัดสินใจเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จึงควรศึกษาถึงรายละเอียดของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ให้ดีเสียก่อน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเพราะธุรกิจแฟรนไชส์แต่ละประเภท ต่างมีจุดเด่น จุดด้อย ด้วยกันทั้งนั้น
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอจุดเด่นและจุดด้อยของธุรกิจแฟรนไชส์ ที่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อน เพื่อเป็นข้อมูลก่อนซื้อแฟรนไชส์ครับ
 
จุดเด่นของธุรกิจแฟรนไชส์
 
1. สำเร็จรูป
 
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับสิทธิมากมายเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจนั้นๆ ชนิดที่เรียกว่ามาพร้อมความสำเร็จ เหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เมื่อคุณได้มาเพียงแค่แกะซองเทบะหมี่ เครื่องปรุงลงน้ำร้อน รอเวลาสุกก็รับประทานได้เลย คุณจะได้ทราบสูตรสำเร็จในการบริหารจัดการธุรกิจ ตั้งแต่ระบบการจัดการ การบัญชี การขาย ขั้นตอนการบริการ การควบคุมคลังสินค้าในรูปของคู่มือการปฏิบัติงาน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
 
นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิ ในการขอความช่วยเหลือในด้านต่างๆ  เช่น  การพิจารณาเลือกพื้นที่ประกอบการ  การจัดเตรียมแผนผังและรายละเอียดของสถานที่ การฝึกอบรมให้ความรู้ การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ การจัดการคลังสินค้าและวัตถุดิบ  การตลาดและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ นับตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณสนใจและตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์นั้น จนกระทั่งถึงวันที่เปิดดำเนินการธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับประโยชน์จากการจดทะเบียนการค้า เครื่องหมายการค้า ความลับเกี่ยวกับกรรมวิธี และสูตรการผลิตต่างๆ ทางการค้าร่วมด้วย ยังมีที่ปรึกษาสำเร็จรูปมาพร้อมเลย
 
โดยผู้ซื้อสิทธิจะได้รับบริการฝึกอบรม การให้คำปรึกษา การสนับสนุนและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยก่อนที่จะเปิดกิจการ เจ้าของแฟรนไชส์จะดำเนินการช่วยเตรียมการด้านต่างๆ  โดยเฉพาะการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันที นอกจากนั้น ยังมีการติดตามให้คำปรึกษาแก่ผู้ซื้อสิทธิเป็นระยะๆ
 
รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ  ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นระหว่างการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ยังได้รับผลทางด้านกิจกรรมทางการตลาด การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ที่ทางเจ้าของแฟรนไชส์จัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลทางด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อปรับปรุงสินค้าและบริการให้ทันสมัยอยู่เสมอ
 

2. ไม่เสียเวลา
 
เนื่องจากแฟรนไชส์ส่วนใหญ่ มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ดี เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แล้ว ทำให้การเปิดร้านแฟรนไชส์ขึ้นมาใหม่ สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้ทันที ไม่ต้องไปเสียเวลาลองผิดลองถูก และเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่การผลิตสินค้า เลือกทำเล การบริหารจัดการสินค้าในสต็อก หรือแม้แต่การบริหารเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจใหม่ ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นจากศูนย์
 

3. ความเสี่ยงต่ำ
 
โลโก้ หรือแบรนด์แฟรนไชส์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว เมื่อซื้อแฟรนไชส์มาแล้ว ก็จะได้รับธุรกิจที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาหลักๆ ในช่วงเริ่มประกอบธุรกิจ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้ผ่านการทดสอบตลาดและประสบผลสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงินหรือธนาคาร เมื่อยามที่ต้องการเงินทุนมาหมุนเวียนในธุรกิจอีกด้วย
 
ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายธนาคาร ที่เริ่มเล็งกลุ่มเป้าหมายมายังลูกค้าที่กำลังจะทำแฟรนไชส์ เพราะธุรกิจ SME เหล่านี้ จะเจริญเติบโตและขยายต่อยอดไปสู่การขายแฟรนไชส์ ดังนั้น ธนาคารก็จะมีความเชื่อถือ มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า ธุรกิจเหล่านี้มีโอกาสจะเจ๊งน้อยกว่าธุรกิจหน้าใหม่นั่นเอง
 

 
จุดด้อยของธุรกิจแฟรนไชส์
 
1. คาดเดากำไรไม่ได้
 
แม้ว่าแบรนด์หรือสินค้าแฟรนไชส์จะเป็นที่รู้จักแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างกำไรได้งอกงาม เหมือนเช่นเจ้าของแฟรนไชส์ ที่เคยทำได้มาก่อน ขณะที่บางคนซื้อไปแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือแฟรนไชส์บางแบรนด์เปิดในทำเลแห่งหนึ่ง มีการเจริญเติบโตมีความก้าวหน้า แต่เมื่อมาเปิดอีกทำเลแห่งหนึ่ง อาจจะต้องประสบกับความล้มเหลว ตรงนี้จะเห็นได้แม้ว่า แฟรนไชส์ที่ซื้อมาจะเป็นแบรนด์ที่ดี แต่หลักสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ก็คือ กลุ่มเป้าหมายและการแข่งขันในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีกลุ่มเป้าหมายและการแข่งขันที่แตกต่างกัน
 
ตรงนี้ผู้ซื้อสิทธิจะต้องคำนึงถึง ฉะนั้นก่อนที่จะดำเนินการเพื่อซื้อแฟรนไชส์ ผู้ซื้อสิทธิ์จะต้องคำนึงว่าแฟรนไชส์แบรนด์ที่กำลังจะซื้อเหมาะกับตนเองหรือเปล่า ทั้งเรื่องของสินค้า บริการการดำเนินการ และแฟรนไชส์แบรนด์ดังกล่าวเหมาะกับทำเลที่ตนเองมีอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่เหมาะต้องทำอย่างไรจะหาพื้นที่ใหม่หรือว่า จะเปลี่ยนแฟรนไชส์อันนี้ต้องดูต่อไป
 

2. ลงทุนมาก
 
จำนวนเงินที่ลงทุนแฟรนไชส์อาจมากกว่า เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก แม้ว่าในการลงทุนจัดหาอุปกรณ์ เครื่องจักร วัสดุต่างๆ จะได้สิทธิซื้อในราคาที่ต่ำกว่า การซื้อขายอาจเป็นการซื้อขายในรูปแบบของการซื้อแบบยกเซต โดยมากจะได้อุปกรณ์ วัสดุเหมารวมอยู่ก่อนแล้ว เป็นการประหยัดต้นทุน ไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์แยกส่วน และยังลดความยุ่งยากในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์อีกด้วย
 
แต่เมื่อพิจารณาไปยังค่าใช้จ่ายที่ ผู้ซื้อสิทธิ์จะต้องเสียไปก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์ในการประกอบกิจการ เช่น เจ้าของสิทธิ์จะเรียกเก็บ ค่า Royalty ค่าโฆษณา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเท่าไร ระหว่างการดำเนินธุรกิจ เจ้าของสิทธิ์จะเรียกเก็บ ค่าฝึกอบรม หรือ ค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกหรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประจำเดือน มีอะไรอีกบ้างและเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อรวมค่าใช้จ่ายหลากหลายเหล่านี้เข้าด้วยกัน ก็จะพบว่าเป็นจำนวนเงินที่สูง
 
ดังนั้น เงินจำนวนนี้จะคุ้มค่าต่อการลงทุน ก็ต่อเมื่อแฟรนไชส์ที่คุณซื้อมาได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่ผู้ซื้อสิทธิ์จะต้องศึกษาอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญาที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายใดๆ
 

3. ขาดอิสระ
 
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรตระหนักอยู่เสมอว่า เมื่อดำเนินธุรกิจไปได้สักพัก อาจจะไม่มีความเป็นอิสระเหมือนกับที่คาดหวังเอาไว้เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น หากจะต้องแก้ไขหรือการดำเนินงาน ก็ยังคงจะต้องบริหารจัดการและปฏิบัติการตามมาตรฐานของเจ้าของสิทธิที่กำหนดไว้ จะคิดต่าง หรือบริหารจัดการด้วยวิธีอื่น นอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ไม่ได้
 
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะถูกจำกัดด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่มีสิทธิ์มีเสียงกับการบริหารของเจ้าของแฟรนไชส์ อาจจะขาดความคล่องตัวไปบ้าง ในแง่ของคนซื้อแฟรนไชส์ เพราะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ระบุไว้อย่างละเอียด ยิ่งไปกว่านั้น ข้อกำหนดหรือสัญญาบางอย่าง อาจจะทำให้ผู้ซื้อสิทธิรู้สึกไม่เป็นธรรมได้ในภายหลัง เช่น ราคาค่าวัตถุดิบ ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตลอดจนการเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เป็นต้น
 

4. ไม่มีความแน่นอน
 
อนาคตเราไม่รู้หรอกว่า เจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ที่เราซื้อมา อาจจะตกต่ำลงหรือเกิดความล้มเหลวในการดำเนินธุรกิจ แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบกระเทือนมายังธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งระบบ ทำให้คุณอาจประสบปัญหาจากการที่เจ้าของแฟรนไชส์ ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องเกี่ยวกับการให้การสนับสนุน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้ ขณะเดียวกันหากผู้ซื้อแฟรไชส์เองเกิดบริหารธุรกิจของคุณผิดพลาด ย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขาย เมื่อคุณไม่มีกำหนดในเรื่องการประกันยอดขาย ก็เสี่ยงต่อการถูกบอกเลิกสัญญาจากเจ้าของสิทธิ์ได้ง่ายเช่นกัน
 

ได้เห็นกันแล้วว่า การซื้อแฟรนไชส์มีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไรบ้าง เพราะแม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์จะช่วยลดความเสี่ยงในการประกอบการธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆธุรกิจที่คิดจะเริ่มต้น ล้วนต้องอาศัยการศึกษาหาข้อมูลเป็นสำคัญ ใครที่กำลังจะซื้อแฟรนไชส์ จำเป็นต้องหาข้อมูลให้มาก เพราะการตัดสินใจเพียงครั้งเดียว อาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปทั้งชีวิตเลยก็ได้
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php 


 
Franchise Tips

จุดเด่นของธุรกิจแฟรนไชส์
  1. สำเร็จรูป
  2. ไม่เสียเวลา
  3. ความเสี่ยงต่ำ
จุดด้อยของธุรกิจแฟรนไชส์
  1. คาดเดากำไรไม่ได้ 
  2. ลงทุนมาก  
  3. ขาดอิสระ 
  4. ไม่มีความแน่นอน 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ Yolé ไอศกรีมโยเกิร์ต บิวกิ้นยิ้มร่า พาโ..
639
รวม 12 แฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุก! ระบบพร้อมเปิดร้าน..
599
รวม 7 แฟรนไชส์ลงทุนน้อย “แต่ขายดี” มือใหม่ก็เปิด..
569
3 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนกรกฏาคม 2568
476
3 แฟรนไชส์จีน Mixue - Wedrink - Bingchun ลงทุนตอ..
467
NaiSnow ชาผลไม้จีน 1,700 สาขา ขายแฟรนไชส์ เต็มสูบ!
461
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด