บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
4.5K
4 นาที
25 มีนาคม 2562
หลักการที่สำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์


ภาพจาก facebook.com/zappagrills
 
หากนับตั้งแต่เริ่มมีการคิดค้นและทดลองทำธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ในโลกนี้ จวบจนปัจจุบัน ธุรกิจแฟรนไชส์ยังเพิ่งมีการก่อตัวและพัฒนามาเพียงร้อยปีเศษ ยิ่งในประเทศไทยด้วยแล้วเพิ่งมีมาเมื่อไม่กี่สิบปีนี้เอง หน่วยงานทั้งของรัฐบาลและภาคเอกชนที่จะเข้ามาดูแลและกำกับก็เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้

ดังนั้น วิธีการปฏิบัติในการซื้อขายแฟรนไชส์จึงยังเป็นไปอย่างไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ไม่ว่าผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์หรือแม้ผู้ขายแฟรนไชส์เองก็ยังมีความรู้ไม่มากนักในการดำเนินธุรกิจนี้ ต่างฝ่ายก็ต่างคาดหวังในอีกฝ่ายหนึ่งสูง ขณะที่การปฏิบัติจริงมักจะทำได้น้อยกว่าที่อีกฝ่ายคาดหวังไว้ สิ่งสำคัญที่แฟรนไชส์ซีควรระลึกอยู่เสมอคือ การลงทุนทำธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ไม่ใช่หลักประกันในการที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจที่จะลงทุน เป็นเพียงวิธีการทางลัดในการเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ก็อาจจะประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ได้หากปัจจัยต่างๆ เหมาะสม

ขณะเดียวกันแฟรนไชส์ซอร์ก็จะต้องคำนึงถึงเสมอเช่นกันว่า แฟรนไชส์ซีนั้นถึงแม้ไม่ได้มีหน้าที่ตามกฎหมายเป็นตัวแทนให้แก่แฟรนไชส์ซอร์ก็ตาม แต่ก็อาจนำพาความเจริญและแม้กระทั่งความย่อยยับ หากมีการจำหน่ายหรือให้บริการ หรือแม้กระทั่งการจัดการดำเนินงานภายในที่ผิดพลาดได้เช่นเดียวกัน
 
วิธีนิยมปฏิบัติของการร่วมทำธุรกิจแฟรนไชส์


ภาพจาก goo.gl/images/eZ1H6H
 
จากการสอบถามพบว่า ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซีส่วนใหญ่ในเมืองไทย ได้ทราบข่าวจากการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ โดยบางรายอาจจะมีความคิดอยู่แล้วที่อยากเข้ามาทำธุรกิจในประเภทนั้นๆ หรือบางรายก็ไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการแล้วเกิดติดใจ จึงตัดสินใจขอซื้อแฟรนไชส์นั้นมาทำเสียเอง และมีอยู่ไม่น้อยที่ผู้ลงทุนบังเอิญมีห้องแถวหรือสถานที่ว่างอยู่โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงคิดว่าทำให้พื้นที่ดังกล่าวก่อเกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเพื่อให้บริเวณโดยรอบของพื้นที่ดังกล่าว ได้เกิดการพัฒนาในเชิงอสังหาริมทรัพย์ รวมๆ เหล่านี้คือเหตุผลหลักของการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์

 
ในภาคปฏิบัติแล้ว ส่วนใหญ่ของแฟรนไชส์ซอร์ก็จะมีพนักงานขายหรือตัวแทน ออกไปพบปะลูกค้านั่นคือผู้ที่คิดจะลงทุน เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้น มีอยู่บ้างที่มีการเชิญนักลงทุนเข้าไปดูโรงงานหรือร้านค้าต้นแบบของแฟรนไชส์ซอร์ก่อนทำสัญญาร่วมธุรกิจกัน ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนของแฟรนไชส์ซีและแฟรนไชส์ซอร์ที่ไปพบปะติดต่อกันในขั้นศึกษาข้อมูลนี้แหละที่มีส่วนสำคัญมากต่อการสรุปร่วมหัวจมท้ายในการมาทำธุรกิจร่วมกันในระบบแฟรนไชส์


และโดยทั่วไปแล้ว นอกจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงแล้ว ส่วนใหญ่การพิจารณาประวัติ ความสามารถ ตลอดจนข้อจำกัดของแฟรนไชส์ซี ก็จะเป็นไปอย่างง่ายๆ ไม่ได้ใช้หลักเกณฑ์หรือข้อมูลวิชาการมาตัดสินใจ ในทางกลับกันผู้ที่คิดจะซื้อแฟรนไชส์ส่วนใหญ่ ก็จะเชื่อตามข้อมูลที่ตัวแทนของ แฟรนไชส์ซอร์ให้มา โดยไม่ได้ออกไปหาข้อเท็จจริงในตลาดเปรียบเทียบกับการโฆษณาชวนเชื่อ
 
นอกจากนี้ยังพบว่า จำนวนนักลงทุนที่เป็นแฟรนไชส์ซี ที่สนใจเข้าไปอบรมหาความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจในระบบแฟรนไชส์  ที่หน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชนจัดขึ้นเป็นประจำ ที่มีทั้งหลักสูตรระยะสั้นวันเดียวจบ และหลักสูตรต่อเนื่อง (มักไม่เกินยี่สิบชั่วโมง) อาทิเช่น  หลักสูตรอบรมของศูนย์วิจัยพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์สากล (IRF) ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์จริง ยังเทียบสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก ยิ่งกว่านั้น วิชาการจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ก็ยังมีเปิดสอนกันไม่มากนักในสถาบันการศึกษา ทำให้พื้นฐานความรู้ของผู้ที่เข้ามาสู่ระบบธุรกิจแฟรนไชส์ยังมีอยู่น้อยมาก
 
ข้อดีของการทำธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์


ภาพจาก goo.gl/CESGMm
  1. ลดความเสี่ยง
    ซึ่งหลายๆ คนได้บอกว่า ต้องการซื้อทั้งแพ็กเกจ ต้องการซื้ออะไร ที่สำเร็จรูป คือ ซื้อแฟรนไชส์แล้วไม่ขาดทุน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เขาคาดหวังว่า ถ้าซื้อแล้วต้องกำไรแน่นอน แต่ไม่ได้ดูถึงปัจจัยอะไรหลายๆอย่างซึ่งต้องมีการวิจัยตลาดก่อน
     
  2. ได้ประโยชน์จากเครื่องหมายการค้าและส่วนประสมทางการตลาด
    เช่น ถ้าเขาจะทำร้านอาหาร เห็นป้ายนี้แล้วจะต้องอร่อย
     
  3. ประหยัดเวลาและเงิน
    ใช้แบบระบบบัญชี คือ First in – First out เงินเข้ามาเราต้องเก็บให้นานที่สุดแต่เงินจะออกให้พยายามดึงให้นานที่สุด คือแฟรนไชส์ซีสามารถซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบจากแฟรนไชส์ซอร์แล้วให้แฟรนไชส์ซอร์มาวางบิลเพื่อเรียกเก็บเงินอีกที นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดไม่จำเป็นต้องสต็อคสินค้าหรือวัตถุดิบจำนวนมากเพราะสามารถสั่งเท่าที่จำเป็นจากแฟรนไชส์ซอร์ได้
     
  4. ได้รับความรู้ทางลัด
    คือ หนึ่งหรือสองวัน หรือสัปดาห์ที่ไปอบรม แล้วก็กลับมาทดลองทดลองปฏิบัติ แล้วก็สามารถเปิดให้บริการลูกค้าได้
     
  5. ได้รับสินค้าและระบบธุรกิจที่มีการวิจัยและพัฒนาใหม่
    ก็คือ ต้องแฟรนไชส์ซอร์มักจะมี Research และ Development และแฟรนไชส์ซีก็ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของเขา
     
  6. การเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์ ในสินค้าหรือบริการที่ไม่ต้องลงทุนมาก
    ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการได้โดยง่าย แทนที่จะต้องไปเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนตลอดไป
     
  7. ชื่อเสียงของแฟรนไชส์ซอร์
    ทำให้แฟรนไชส์ซีรายใหม่สามารถติดต่อขอความร่วมมือจากคู่ค้าธุรกิจ หน่วยราชการ หรือสถาบันการเงิน ได้ง่ายกว่าการเริ่มต้นประกอบธุรกิจที่คิดค้นขึ้นเอง
     
  8. สะดวกในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร ฯลฯ
    ซึ่งอาจได้ในราคาที่ยุติธรรมกว่า (หากไม่เจอกลโกงของแฟรนไชส์ซอร์) เพราะอาจจะซื้อต่อจากแฟรนไชส์ซอร์ที่สั่งคราวละมากๆ หรือแฟรนไชส์ซอร์ให้ข้อมูลแหล่งและราคาแก่แฟรนไชส์ซีไปซื้อเอง
ข้อเสียของการทำธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์


ภาพจาก facebook.com/Sumofishball
  1. มีข้อจำกัดในการทำงาน
    ขาดความเป็นอิสระในการเป็นตัวของตัวเอง คือ ตามสัญญา ที่ระบุ ดังนั้น แม้แฟรนไชส์ซีอาจจะมีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาบางอย่าง ก็อาจ ไม่สามารถทำนอกรูปแบบได้ เพราะต้องปฏิบัติตามแบบอย่างที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนด และยังต้องเปิดดำเนินกิจการตลอดเวลาตามที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนดในบางธุรกิจอีกด้วย โดยไม่สามารถหยุดกิจการได้ เช่น กรณีเซเว่นอีเลฟเว่น ต้องเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ทุกวันตลอดปี
     
  2. ค่าใช้จ่ายสูงในการชำระค่าธรรมเนียมและผลตอบแทน
    ข้อนี้สำคัญเพราะเงินแต่ละบาทที่เขาได้จ่ายไปแล้วเขาได้อะไรกับเรามาบ้าง ค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าแฟรนไชส์ฟี บางครั้งจำนวนสูงถึงหลักแสนหรือล้านบาท และค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ค่ารอยัลตีฟี ค่าแอดเวอร์ไทซิ่งฟี แฟรนไชส์ซียังต้องจ่ายให้แฟรนไชส์ซอร์ตลอดไป
     
  3. มีโอกาสถูกบอกเลิกสัญญาได้ง่าย
    หากทำผิดสัญญา หรือแม้กระทั่งหากทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ก็จะเกิดปัญหาเหมือนกัน และก็เคยเกิดปัญหามาแล้ว กรณีที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น เช่น ฤดูฝน ทำให้ยอดขายตกลง แล้วแฟรนไชส์ซอร์ก็เอามาข้ออ้างในการบอกเลิกสัญญาแฟรนไชส์ ดังนั้น จึงเป็นความเสี่ยงที่แฟรนไชส์ซีอาจจะไม่ได้คาดคิดไว้ล่วงหน้าก็ได้
     
  4. ความผิดพลาดของผู้ขายแฟรนไชส์
    ที่ผ่านมาคนขายแฟรนไชส์จะมองว่าเห็นโอกาสธุรกิจดี เร่งขายโดยไม่มีระบบที่ถูกต้อง ในฐานะที่เราจะเป็นคนขายแฟรนไชส์ เราจะต้อง มองว่าคนซื้อเขาจะมองเราอย่างไร มองว่าเรามีแผนอะไรได้บ้าง สิ่งที่เขามองก็คือ เจ้าของกิจการมีวิสัยทัศน์อย่างไร วิสัยทัศน์ที่จะมองในระยะสั้น ระยะยาว เพื่อเขาจะได้มั่นใจว่า แฟรนไชส์ที่เขาซื้อมีแผนพัฒนาที่ถูกต้อง และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ หากแฟรนไชส์ซอร์ ประสบปัญหาจนเลิกกิจการ หรือไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้ดีได้ ผลเสียหายอย่างร้ายแรง ก็จะมาสู่แฟรนไชส์ซี และก็ไม่คุ้มค่าต่อการที่แฟรนไชส์ซีจะไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแฟรนไชส์ซอร์ ทั้งที่เป็นความผิดพลาดของแฟรนไชส์ซอร์เอง
     
  5. ข้อกำหนดบางอย่างอาจทำให้แฟรนไชส์ซีรู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบในวันหลัง
    อาทิเช่น แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบจากแฟรนไชส์ซอร์เท่านั้น หรือ แฟรนไชส์ซอร์จะต้องรับซื้อใบปลิวโฆษณาหรือสื่อโฆษณาจากแฟรนไชส์ซอร์ตามแต่จำนวนและราคาที่ แฟรนไชส์ซอร์จัดส่งมาให้ หรือ แม้กระทั่งแฟรนไชส์ซอร์จะสามารถให้มีแฟรนไชส์ซีเพิ่มขึ้นในธุรกิจเดียวกันในบริเวณที่ใกล้เคียงกันเกิดขึ้นในอนาคตก็ยังได้ ซึ่งจะกระทบกระเทือนต่อรายได้ของแฟรนไชส์ซีอย่างมาก
     
  6. ภาพพจน์ที่ตกต่ำลงของธุรกิจแม่ส่งผลต่อผลประกอบการของแฟรนไชส์ซี
    หากมีชื่อเสียงที่เสียหายเกิดขึ้นไม่ว่าที่ใดในโลก หากเราเป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์ก็ยังมีผลทำให้ผู้บริโภคลดความนิยมและลดการอุดหนุนสินค้าหรือบริการของเราไปด้วย บางครั้งสามารถเกิดปัญหาขึ้นได้จากความขัดแย้งด้านศาสนาหรือการเมืองระหว่างประเทศ จนทำให้ประชาชนในประเทศของ แฟรนไชส์ซีแอนตี้สินค้าหรือบริการ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของแฟรนไชส์ซีเลยแม้แต่น้อย
     
  7. แฟรนไชส์ซีมักจะต้องทำบัญชีและเสียภาษีในระบบที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนด
    สำหรับธุรกิจหลายๆ ประเภทยังต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้แฟรนไชส์ซีต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำบํญชีและภาษีสูงกว่าการประกอบกิจการของตนเอง และสรรพากรก็ง่ายต่อการตรวจสอบการเลี่ยงภาษี เพราะสามารถประมาณยอดขายจากแฟรนไชส์ซีอื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันได้

ภาพจาก facebook.com/FruiturdayThailand

สัญญาที่ทำระหว่างแฟรนไชส์ซีกับแฟรนไชส์ซอร์ มักเป็นสัญญาที่ฝ่ากฎหมายของ แฟรนไชส์ซอร์ร่างขึ้น และเป็นสัญญามาตรฐาน ทำให้แฟรนไชส์ซีแทบจะไม่สามารถขอต่อรองแก้ไขได้เลย บางครั้งข้อความในสัญญาก็ไม่เป็นธรรมแก่แฟรนไชส์ซี แต่ก็ต้องจำยอมเซ็น (แต่ แฟรนไชส์ซีอาจจะใช้กฎหมาย พรบ.สัญญาไม่เป็นธรรมในการสู้คดีได้ในปัจจุบัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายมาก)

ข้อดีของระบบแฟรนไชส์ต่อระบบเศรษฐกิจ


ภาพจาก goo.gl/nEeiBw
 
ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ถึงแม้ว่าระบบแฟรนไชส์อาจจะมีปัญหาในภาคปฏิบัติอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว ธุรกิจแฟรนไชส์มีส่วนดีอย่างมากต่อการพัฒนาการค้าและเศรษฐกิจในทุกสังคม แม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์จำนวนไม่น้อย ที่เป็นแฟรนไชส์จากต่างประเทศ จะทำให้ประเทศไทยของเราต้องสูญเสียเงินตราออกไปยังต่างประเทศโดยไม่จำเป็น และบ้างก็ยังทำให้เกิดค่านิยมในการบริโภคที่ผิดๆ

เช่น การบริโภคฟาสฟู้ดส์ที่เป็นอาหารขยะหรือ Junk Foods ทำให้เด็กไทยจำนวนมากขาดสารอาหารและเป็นโรคอ้วน แต่การที่มีสินค้าและบริการที่เป็นมาตรฐานโลก ก็ทำให้ประเทศชาติดูมีการพัฒนาเป็นสากลมากขึ้น และก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในระบบเศรษฐกิจ ทุนนิยม และในกระแสโลกาภิวัตน์ปัจจุบัน


ภาพจาก facebook.com/Shipsmileservices
 
หากพิจารณาถึงข้อดีของธุรกิจแฟรนไชส์ต่อระบบเศรษฐกิจไทยแล้ว ก็พอจะหาข้อดีที่สำคัญได้หลายประการ  เช่น
  1. สร้างให้โอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้ง่ายขึ้น
    โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่การหางานทำเป็นไปได้ยากขึ้น และลูกจ้างจำนวนมากก็เบื่อต่อชีวิตลูกจ้างอยากหันมาทำธุรกิจของตนเอง ซึ่งมีอิสระและมีโอกาสร่ำรวยมากกว่าการมีธุรกิจแฟรนไชส์ในท้องตลาดไทยมากมายจึงเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์และมีทุนไม่มาก
     
  2. ให้มีการพัฒนารูปแบบและวิธีการทำธุรกิจ
    การมีธุรกิจแฟรนไชส์จากต่างประเทศเข้ามาสู่เศรษฐกิจไทย และแม้กระทั่งการที่ธุรกิจคนไทยจำนวนมากพัฒนาสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ ทำให้เกิดการแข่งขันและพัฒนารูปแบบการทำธุรกิจ ไม่ว่าด้านเทคนิคการผลิต การบริหาร ระบบงาน ฯลฯ
     
  3. ธุรกิจขยายกิจการได้รวดเร็วขึ้นผ่านวิธีการ Franchising
    มีธุรกิจจำนวนมากที่สร้างเครือข่ายและเติบโตอย่างรวดเร็วได้ผ่านวิธีการแฟรนไชส์  เป็นการลดข้อจำกัดทั้งทางด้านการเงินและการบริหารของเจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์
     
  4. สามารถนำเข้าธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้ประเทศชาติทันสมัย
    เพราะในปัจจุบันคงแทบมีเหลือไม่กี่ประเทศในโลกแล้ว ที่ไม่ยินยอมให้สินค้าหรือบริการที่ทันสมัยเข้ามาในประเทศ ดังนั้นหากประเทศใดที่มีเศรษฐกิจดี การเมืองมั่นคง ก็ย่อมจะเป็นสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศมาขยายกิจการในประเทศนั้นอย่างมากมาย เพียงแต่ว่าสินค้าหรือบริการในท้องถิ่นประเทศนั้นจะสามารถแข่งขันและอยู่รอดร่วมกันได้หรือไม่เท่านั้นเองที่เป็นปัญหา
     
  5. สามารถส่งออกธุรกิจบางประเทศไปหารายได้เข้าประเทศ
    สินค้าและบริการของไทยจำนวนไม่น้อย เป็นที่ยอมรับและชื่นชมของชาวต่างชาติ เช่น อาหารไทยถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดในโลกนี้ไม่เป็นรองจากอาหารจีน ดังนั้น จึงเห็นกิจการร้านอาหารหรือภัตตาคารของไทยจำนวนไม่น้อย  ได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ  ทั้งโดยการไปลงทุนเองและขยายผ่านระบบแฟรนไชส์ และในอนาคตสินค้าและบริการอื่นๆ อีกมาก คงจะทยอยกันออกไปหารายได้กลับสู่ประเทศไทย
     
  6. รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้ดีขึ้น ฐานภาษีมีมากขึ้น (ส่วนใหญ่เข้าระบบ VAT - Value added tax)
    ด้วยเหตุที่แฟรนไชส์ซอร์ที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มักจะต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะยอดขายมีมากกว่าฐานภาษีตามกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม การที่แฟรนไชส์ซอร์ส่งสินค้าหรือวัตถุดิบให้แก่แฟรนไชส์ซีด้วยราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ธุรกิจของแฟรนไชส์ซีจำเป็นต้องหรือเห็นประโยชน์ของการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และปัจจุบันรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากรก็สูงขึ้นจนอาจจะทะลุปีละหนึ่งล้านล้านบาทในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า และยังสามารถจัดเก็บได้เกินกว่าประมาณการอยู่เสมอ ทั้งที่รายได้จากภาษีอื่นมักจะจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
904
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
632
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
570
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
522
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
506
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
485
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด