บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การบริหารจัดการร้านค้า    การเช่าพื้นที่ หาทำเล เปิดร้าน
9.2K
3 นาที
14 มิถุนายน 2555
พาเที่ยว พาทัวร์ พาชิม.. สนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค

สมัยก่อนสนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี อาจจะดูอยู่ชานเมืองที่ค่อนข้างไกล แต่มาวันนี้การคมนาคมสะดวกสบาย และมีหน่วยราชการไปตั้งอยู่หลายแห่ง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ไปตั้งอยู่ที่นั่น เรียกว่าตอนนี้สนามบินน้ำเป็นแหล่งธุรกิจใหญ่อีกแห่งของจังหวัดนนทบุรี และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค ซึ่งมี “คุณบงกชรัตน์ ขจรประศาสน์” หรือ คุณออม เป็นเจ้าของโครงการ โดยนั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค จำกัด

ลูกสาวคนโตของ พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ คนนี้ เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปต่อ MBA ที่มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา และด้านเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สรุปแล้วจบปริญญาโทถึง 2 สาขา

วันที่สนทนากันนั้น คุณบงกชรัตน์มานั่งคุยก่อน สักพัก พล.ต. สนั่นก็ตามมาสมทบ โดยนัดพบกันที่ร้านชาละวัน ภายในบริเวณสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค พอดีถึงมื้อกลางวัน พวกเราเลยได้ลองลิ้มชิมรสเนื้อนกกระจอกเทศย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว และเมนูนกกระจอกเทศอีกหลายอย่าง ซึ่งแม้จะได้รับประทานเป็นครั้งแรก แต่ขอบอกเป็นเนื้อที่รับประทานอร่อย นุ่ม และไม่คาว ใครที่ยังไม่เคยรับประทานต้องไปลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง

จุดเด่นของสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค

คุณบงกชรัตน์ เล่าให้ฟังว่า “ตอนนี้ทำธุรกิจเปิดสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค โปรเจ็กต์นี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นตลาดไม่เหมือนใครเพราะมีตลาดอยู่ด้วย ในตลาดของเราประกอบด้วยสินค้าที่เป็นอาหารสดขายส่ง-ปลีก อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้า เครื่องใช้ทั่วๆ ไป พื้นที่รวมทั้งหมด 16 ไร่ เป็นที่ดินที่เช่า อยู่ตรงสามแยกสนามบินน้ำเลี่ยงเมืองนนทบุรี ตัวโครงการเปิดมาเกือบ 1 ปีแล้ว การตอบรับดี มีกลุ่มลูกค้าในละแวกนี้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์”

เป็นตลาดใหม่ที่สะอาดสะอ้านดี มีที่จอดรถสะดวกสบาย ใครอยากจะซื้อของในห้างสมัยใหม่ก็ได้ หรือถ้าชอบแบบตลาดก็มีให้เลือกเช่นกัน เจ้าตัวคาดว่าในระยะเวลา 5 ปี จะสามารถใช้หนี้ธนาคารและมีผลกำไรอยู่บ้าง เพราะอย่างที่บอกเป็นทำเลที่ดี และการคมนาคมสะดวกสบาย

คุณบงกชรัตน์ แจกแจงถึงจุดเด่นของสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค ว่า “จุดเด่นของตรงนี้คือ เรามีตลาดที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีที่จอดรถกว้างขวาง เป็นพื้นที่น่าเดิน สินค้าก็ราคาประหยัด แต่มีคุณภาพสูง ย่านนี้ก็ไม่มีใครเหมือนกับเรา ซึ่งในการจะดึงร้านค้าเข้ามาเปิดเราเน้นเรื่องคุณภาพสินค้าด้วย โดยเลือกสินค้าให้มีความหลากหลาย มีคุณภาพ ปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านค้าประมาณ 30 ร้านค้าที่เป็นดีเทล ส่วนร้านค้าในตลาดมีประมาณ 50-60 แผงที่เป็นอาหารสด และอาหารสำเร็จรูป รวมถึงมีเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และซีพี เฟรชมาร์ท ด้วย”

อยากเปิดร้านยังมีที่ว่าง

สำหรับคนที่สนใจอยากจะเข้ามาค้าขายในสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค แห่งนี้ คุณบงกชรัตน์ บอกว่า “ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ ยังเปิดรับอยู่ สนใจ โทรศัพท์ (02) 526-5634) และอยากได้เป็นธุรกิจโรงเรียนสอนพิเศษ สอนเด็กเล็ก และธุรกิจความงาม ส่วนค่าเช่าที่นี่ราคาไม่สูงถ้าเทียบกับห้างทั่วไป เราจะถูกกว่าประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์

ลูกค้าของที่นี่นอกจากจะเป็นคนที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ดั้งเดิมแล้ว ก็ยังมีผู้อาศัยใหม่ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ กองสลากฯ และ ปปช. ทำให้ได้กลุ่มราชการพอสมควร ซึ่งในอนาคต สนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค อาจจะขยายสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมเพราะมีพื้นที่ว่างอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ ก่อนที่คุณบงกชรัตน์จะมาทำสนามบินน้ำมาร์เก็ต พาร์ค และเปิดร้านอาหาร “ชาละวัน” นั้น เจ้าตัวก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจไวน์อยู่ การเปิดร้านเท่ากับเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนมาชิมไวน์ของบริษัท ชาละวัน ไวน์เนอรี่ จำกัด

“ร้านนี้เป็นร้านแรก ลงทุนไม่สูงมาก เราออกแบบตกแต่งเอง นั่งสบายๆ พบปะเพื่อนฝูงได้ มาเป็นครอบครัว เปิด 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ส่วนผู้ที่สนใจมาจัดงานเลี้ยงตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มีส่วนลดพิเศษให้ และได้ดื่มไวน์ด้วย

เราจะจัดอาหารที่เข้ากับไวน์ที่ทานแล้วส่งเสริมการเพิ่มรสชาติ ไวน์ของเราขณะนี้เป็นที่ยอมรับ  โดยเฉพาะไวน์ของเราปี 2009 เราส่งประกวดที่ประเทศอังกฤษก็ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงมา”

บรรดาเมนูจานเด็ด

ถามถึงเมนูอาหารแนะนำที่ถือว่าโดดเด่นในร้าน คุณบงกชรัตน์ อธิบายว่า “เมนูเด็ดของเราจะเป็น คาปัดโช่ เป็นเนื้อนกกระจอกเทศสไลซ์บางๆ มีน้ำมันคัปเปอร์ออย์ใส่เข้าไป เสิร์ฟเย็น เนื้อไม่มีกลิ่นคาว นุ่ม (เป็นเนื้อค่อนข้างดิบ) รวมกับซอสก็ได้รสชาติอร่อย ลูกค้าชิมก็ติดใจ ราคาอยู่ที่ 220 บาท” ด้วยความที่ร้านชาละวัน ผลิตวัตถุดิบเองโดยเฉพาะเนื้อนกกระจอกเทศ และไวน์ เมนูอาหารส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เนื้อนกกระจอกเทศ แต่ถ้าใครจะสั่งเมนูอื่นๆ ทางร้านก็จัดให้ได้ตามออร์เดอร์

เราใช้เนื้อนกเกรดเอ เป็นนกในฟาร์มที่พิจิตรของเรา เมนูอีกอย่างที่ลูกค้าติดใจก็คือ ซุปครีมใบโหระพา มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมเป็นครีมซุป ราคาถ้วยละ 130 บาท โดยดิฉันร่วมกันคิดกับทางเชฟ ซึ่งเชฟจะเลือกว่าเมนูไหนสร้างจุดเด่นและความแตกต่างให้กับร้าน

นอกจากนี้ ก็มีสปาเกตตี้โอริโอเป็นซอสมะเขือเทศ มีพริกแห้ง น้ำมันมะกอก กระเทียม ฯลฯ ราคา 140 บาท อาหารไทยก็จะเป็นพวก ข้าว มีเนื้อนกกระจอกเทศแดดเดียวทานกับน้ำจิ้มแจ่ว แกงป่าเนื้อนก เนื้อนกกระจอกเทศผัดใบกะเพรา และข้าวแกงกระหรี่ด้วย เมนูที่หลายคนชอบก็คือ ตับห่านทอด”

คุณบงกชรัตน์ แจงว่า ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่จะสั่งหลากหลาย ราคาอาหารต่ำสุดอยู่ที่ 110 บาท สูงสุด 320 บาท คือตับห่าน สาเหตุที่ตั้งราคาดังกล่าวเพราะเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี

ชื่อเสียงของพ่อช่วยธุรกิจลูก

เกือบ 1 ปีที่ทำธุรกิจนี้มา เจ้าตัวยอมรับว่า “อุปสรรคก็มีบ้าง แต่เราเรียนรู้มาเรื่อยๆ ทั้งเนเจอร์ของตัวธุรกิจเองด้วย ต้องมีจังหวะ และอะไรๆ ของมันด้วย อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของคุณพ่อก็มีส่วนช่วยประชาสัมพันธ์ได้เยอะ และที่ผ่านมา ก็มีนักการเมืองมาอุดหนุนบ้าง”

เมนูอาหารที่มีส่วนประกอบของนกกระจอกเทศ โดยเฉพาะเนื้อนกกระจอกเทศย่างจิ้มกับแจ่วนั้น เมื่อยามที่รับประทานแกล้มกับไวน์แล้ว เข้ากันอย่าบอกใคร และถ้าใครติดใจอยากจะซื้อไวน์ชาละวันกลับบ้านเขาก็มีขายด้วย

“ไวน์เราทำมาประมาณ 10 ปี กำลังผลิต 10,000 ขวด/ปี เน้นใช้องุ่นของไร่เราที่จังหวัดพิจิตร เป็นองุ่นปลอดสารพิษ มี 200 ไร่ ซึ่งเพียงพอกับกำลังการผลิต แต่เราก็เร่งเพิ่มผลผลิตของไร่ด้วย ซึ่งปลูกองุ่นหลากหลายพันธุ์

เรามองตลาดไวน์ในบ้านเราคือ คนอาจจะนิยมไวน์นอกมากกว่า อีกทั้งเข้ามาขายในราคาที่ต่ำกว่าไวน์ในบ้านเรา ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1,200 บาท/ขวด เป็นไวน์ชาละวัน 2009 ถูกสุดเป็นชาละวัน 2007 ส่วนไวน์นอกต่ำสุดที่ 400-500 บาท แต่ของเราเน้นคุณภาพราคาพันกว่าบาทก็เทียบเท่ากับไวน์นอกในราคาเกือบ 2,000 บาทแล้ว ที่ผ่านมา เราเน้นตลาดในประเทศ แต่ในอนาคตก็มองตลาดต่างประเทศด้วย แต่เป็นปัญหากำลังการผลิตเรายังน้อยอยู่ ตอนนี้ก็มีส่งไปยังร้านอาหารไทยในต่างประเทศบ้างแล้ว ผลตอบรับก็ดี”

สำหรับหลักในการทำธุรกิจนั้น คุณบงกชรัตน์ ย้ำว่า “เราเน้นเรื่องคุณภาพต้องดีที่สุด ซึ่งคุณพ่อช่วยแนะนำหลายอย่างในส่วนที่พ่อช่วยได้ ส่วนคุณแม่ก็ช่วยอุดหนุน ช่วยชิม พร้อมแนะนำเพื่อน”

ใครที่ไม่เคยลิ้มชิมรสเนื้อนกกระจอกเทศ ไม่เคยชิมไวน์ชาละวันของนักการเมืองรุ่นลายครามอย่าง “พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์” ขอเชิญชวนให้ไปใช้บริการกันดู จะได้ร่วมกันพิสูจน์กันว่าอร่อยและดีจริงอย่างที่เจ้าของบอกกล่าวหรือไม่

อ้างอิงจาก มติชน ออนไลน์
บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ทีมไหน! หา"ทำเล"ก่อนทำธุรกิจ vs เลือก "ธุรกิจ" ก..
406
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด