ต้องยอมรับว่า ทำเลที่ตั้งสำหรับการเปิดร้านหรือทำธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จ และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์ เพราะหากเจ้าของแฟรนไชส์เลือกทำเลไม่ดี ไม่มีศักยภาพ ในเปิดร้านต้นแบบสำหรับขายแฟรนไชส์ รวมถึงผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดร้านในทำเลที่ไม่ดี ก็มีสิทธิ์เจ๊งได้เช่นกัน
 

แล้วทำเลที่ตั้งแบบไหน เหมาะสำหรับทำธุรกิจแฟรนไชส์ วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีเทคนิคการเลือกมาฝาก   
 

1.เลือกประเภทแฟรนไชส์
 

การเลือกทำเลที่เหมาะสม บางครั้งผู้ประกอบการต้องมองว่า ประเภทของธุรกิจแฟรนไชส์ที่คุณทำเป็นแบบใด และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่คือใคร เช่น หากแฟรนไชส์ของคุณเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม สถานประกอบการควรอยู่ในย่านชุมชน เข้าถึงง่ายและหาซื้อกินได้ง่าย เพราะลูกค้าจะสามารถเข้าร้านมารับประทานได้ทั้งวัน
 

หรือหากเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทค้าปลีก และการบริการ ทำเลที่ตั้งที่ดี ควรมีการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากที่สุด ดังนั้น เรื่องของการคมนาคม ลานจอดรถ และการอยู่ในย่านชุมชนที่เข้าถึงได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
 

 

ยิ่งที่ทำเลดี มีคนผ่านเยอะ อยู่ในย่านชุมชน หรือจะเป็นศูนย์การค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล ค่าเช่าก็มักจะยิ่งสูง หากว่าคุณมีทุนทรัพย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สามารถซื้อ–เช่า ได้อย่างไม่มีปัญหา
 

แต่ทำเลที่คนเยอะหรือแพงที่สุด อาจไม่ใช่ทำเลที่ดีที่สุด และอาจไม่ได้ทำกำไรเยอะก็ได้ เพราะบางครั้งที่ทำเลปานกลาง ค่าเช่าพออยู่ได้ แต่เหมาะกับสินค้าและบริการของธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา ก็อาจทำให้เงินเหลือเยอะกว่าจนกายมาเป็นกำไรแทนได้
 

3.กฎหมายและกฎระเบียบสถานที่
 

ปัจจุบันมีกฎหมายบางอย่างที่บังคับพื้นที่หรือการโซนนิ่ง ในการประกอบธุรกิจบางประเภท โดยเฉพาะธุรกิจการผลิต และการบริการ ยกตัวอย่าง เช่น ร้านอาหารบางประเภทห้ามเปิดในบางพื้นที่

นอกจากนั้น ยังมีเรื่องภาษีป้ายประชาสัมพันธ์ของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องเสียภาษีด้วย ซึ่งเรื่องนี้หลายคนมักลืมให้ความสำคัญ รู้ตัวอีกทีก็มีเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรมาเรียกเก็บภาษีแบบทั้งต้น ทั้งดอก จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ต้องศึกษาในเรื่องของกฎหมายและภาษีอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคต
 

 

สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น แฟรนไชส์ร้านขนมปัง ที่ตั้งทำเลที่ดีควรอยู่ในบริเวณที่มีค่าขนส่งวัตถุดิบ และสินค้าไม่สูงเกินไป แต่สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าปลีกและบริการ จะต้องเน้นความสะดวกสบายในการสัญจรของลูกค้าและผู้บริโภค ซึ่งในบางครั้งยิ่งอยู่ติดถนนขนาดใหญ่ ยิ่งค้าขายไม่ดี 
 

เพราะเส้นทางในถนนใหญ่ จะมีรถสัญจรวิ่งผ่านค่อนข้างมาก ทำให้ไม่สะดวกต่อการแวะจอด แต่หากเป็นถนนเส้นเล็ก หรือย่านชุมชน ผู้คนสัญจรผ่านอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเห็นว่าสะดวกก็อาจเข้ามาใช้บริการเป็นประจำ คือ ต้องมีที่จอดรถ เข้าร้านสะดวก
 

แน่นอนว่าการเลือกทำเลนั้น ไม่มีหลักตายตัว โดยเฉพาะความชอบส่วนตัวของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ ก็อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจได้ โดยผู้ประกอบการบางราย อาจมีความชอบทำเลใดเป็นพิเศษ อาทิ เป็นที่ทำเลที่เป็นถิ่นกำเนิด เป็นทำเลที่มีเพื่อนฝูง และญาติมิตรคอยช่วยอุดหนุน
 

หรือบางคนอาจชอบทำธุรกิจในย่านชุมชน บางรายอาจชอบที่ทำเลเมืองเล็กๆ เพื่อหลบหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ๆ แม้ว่าอาจจะฟังดูขัดกับหลักการทำธุรกิจอยู่บ้าง แต่ในทางปฏิบัติ การเลือกทำเลที่ตัวเองคุ้นเคย และรู้พฤติกรรมลูกค้า ก็อาจทำให้ขายดีกว่าทำเลที่ไม่คุ้นเคย เพราะคุณอาจจะรู้จักกลุ่มลูกค้า รู้จักนิสัยใจคอของคนส่วนใหญ่ในบริเวณนั้นดีกว่าที่อื่นๆ
 

ทั้งหมดเป็น 5 เทคนิคในการเลือกทำเลที่ตั้งสำหรับทำธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการพิจารณาก่อนทำแฟรนไชส์ได้ เพราะถ้าหากเลือกทำเลดี จะมีชัยไปกว่าครึ่ง 
 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)