Coca-Cola เปิดตัวแบรนด์น้ำอัดลม AHA ผสมคาเฟอีนต้นปี 2563
การบริโภคโซดาของสหรัฐอเมริกาลดลง เนื่องจากผู้บริโภคหันไปหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำอัดลมหรือโซดา ซึ่ง PepsiCo คาดว่า แบรนด์น้ำอัดลมที่มีรสชาติ Bubly จะกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์พันล้านดอลลาร์ต่อไป
ล่าสุด Coca-Cola ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มจะเปิดตัวแบรนด์น้ำอัดลม AHA ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 ในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะขยายตลาดไปทั่วโลก การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการบริโภคโซดาของคนอเมริกายังคงลดลง ส่งผลให้โค้กและคู่แข่งของ PepsiCo ต้องลงทุนในด้านการตลาดของแบรนด์โซดาดั้งเดิม และเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
น้ำอัดลม Seltzer ได้กลายเป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับผู้บริโภค ในปี 2018 ปริมาณน้ำบรรจุขวดเพิ่มขึ้น 26% เป็น 531 ล้านแกลลอนตามข้อมูลจากการตลาดเครื่องดื่ม ในขณะที่เครื่องดื่มเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด โดยรวมแล้วตลาดน้ำอัดลมกำลังเติบโต คิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้นเพียง 4.2% ในปีที่แล้ว
![](https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5317_p6_20191111115047.jpg)
ภาพจาก bit.ly/2NBxVzd
แบรนด์ LaCroix ซึ่งเป็นเครื่องดื่มของ National Beverage เคยเป็นผู้นำในกลุ่มนี้ แต่ตอนนี้ได้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดเนื่องจากมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น Pepsi คาดว่าแบรนด์ Bubly ที่เปิดตัวในปี 2561 จะกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อไป
![](https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5317_p7_20191111115047.jpg)
ภาพจาก bit.ly/2X0O9F0
ส่วนโค้กพยายามวางตำแหน่งแบรนด์ใหม่ให้แตกต่างจากคู่แข่ง 2 ใน 8 รสชาติของ AHA ได้แก่ Citrus + Green Tea และ Black Cherry + Coffee จะมีคาเฟอีนเพิ่ม แต่ไม่แตกต่างกันเกินไป แบรนด์ AHA จะบรรจุแบบกระป๋องไม่ใช่ขวด
ในปี 2018 ยอดการขายเครื่องดื่มน้ำอัดลมของโค้กในอเมริกาเหนือพุ่งขึ้น 27% จากข้อมูลของ Nielsen แต่รายได้สุทธิของ บริษัท ลดลง 10% เป็น 31.9 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ในอนาคตโค้กวางแผนที่จะเติบโตจากการขายนวัตกรรมใหม่ๆ
![](https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5317_p5_20191111114132.jpg)
ภาพจาก bit.ly/2NALKhq
หุ้น Coca-Cola ซึ่งมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 226.2 พันล้านดอลลาร์ได้รับมากกว่า 11% ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่หุ้นของ Pepsi ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 188 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นเกือบ 22% จากช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหุ้นของ Coca-Cola ได้เพิ่มขึ้น 5.5% มีมูลค่าการซื้อขายที่ 54.07 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นจากเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่มีมูลค่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ
การที่หุ้นของ Coca-Cola เพิ่มขึ้นในครั้งนี้ ยังทำสถิติสูงสุดหลังจากที่ได้ทำยอดขายเป็นไปตามเป้า คาดว่าเป็นการชนะใจลูกค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างเครื่องดื่มผสมกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่น้ำตาลน้อย
![](https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5317_p8_20191111115446.jpg)
ภาพจาก bit.ly/2K8H6op
ประธานบริษัท Coca-Cola ได้บอกว่า นวัตกรรมต่างๆ ของสินค้าเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ Coke ได้ส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับปรุงสูตรใหม่ๆ อย่างเช่น Coca-Cola Plus Coffee หรือโค้กผสมกาแฟ และน้ำผลไม้แคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย รับเทรนด์สุขภาพ ซึ่งตอนนี้มีสัดส่วนรายได้ถึง 25% จากทั้งบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 15% เมื่อ 2 ปีก่อน
![](https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5317_p9_20191111115446.jpg)
ภาพจาก bit.ly/36MjL5T
อีกไฮไลท์สำคัญของปีนี้ก็คือ Coca-Cola Energy เป็นเครื่องดื่มให้พลังงานที่เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในยุโรป และพบว่าประสบความสำเร็จพอสมควร ซึ่งทำให้บริษัทมีแผนที่จะขยายไปอีก 20 ตลาดภายในสิ้นปี 2562
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
อ้างอิงข้อมูล