บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การเริ่มต้นค้าขาย    ไอเดียการค้าขาย
6.6K
4 นาที
16 ตุลาคม 2563
รวม 10 ธุรกิจขายของกินเล่น! กำไรไม่เล่น รวยจริง!


ถ้าพูดถึงของทานเล่นเราจะนึกถึงอะไร คำตอบที่ได้คงหลากหลาย แต่เชื่อหรือไม่ว่าของทานเล่นเหล่านี้ที่ดูเหมือนจะขายเล่นๆ แต่ความจริงคือสินค้าแบบน้ำซึมบ่อทรายที่คนกินบางทีก็ซื้อกินเป็นประจำแบบไม่รู้ตัว ด้วยราคาสินค้าที่ไม่ได้แพงเว่อร์ เป็นราคาแบบบ้านๆ 5 บาท 10 บาทก็ซื้อกินได้ คนขายอาหารทานเล่นก็ขายได้เรื่อยๆ มีลูกค้าหมุนเวียนตลอดทั้งวัน ยิ่งมีทำเลการขายดีๆ

www.ThaiFranchiseCenter.com บอกได้เลยว่าของกินเล่นเหล่านี้ กำไรไม่ได้เล่นๆ ทำถูกวิธี บริหารจัดการดี ทำให้ร่ำรวยได้เลยทีเดียว มีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดู
 
1.เฉาก๊วย
 
ภาพจาก  bit.ly/37bfHP7

อากาศร้อนๆของเมืองไทยคงไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่า “เฉาก๊วยเย็นๆ” สักแก้ว อันที่จริงถ้าไม่อยากยุ่งยากก็ลองมองหาแฟรนไชส์เฉาก๊วยที่มีอยู่หลายแบรนด์ แต่หากอยากลองลงมือทำเอง ขายเอง อาชีพนี้ก็เริ่มไม่ยาก งบในการลงทุนเบื้องต้นเป็นค่าวัตถุดิบและอุปกรณ์

เช่น เฉาก๊วยในน้ำเชื่อมสำเร็จรูป ราคาเฉลี่ย 89 – 120 บาท (แพค 10 ถุง) , น้ำตาลทรายแดง ราคาเฉลี่ย 20 – 30 บาท , น้ำแข็งหลอดเล็ก , แก้วน้ำขนาด 20 ออนซ์ + ฝา ราคาเฉลี่ย 120 – 150 บาท (แพค100ใบ) , โต๊ะขนาดกลาง ราคาเฉลี่ย 400 – 500 บาท , เงินหมุนเวียนในร้าน 500 – 1,000 เป็นต้น

กลยุทธ์ในการขายก็ควรตั้งราคาที่เหมาะสมเช่น 20-25 บาท หรือสินค้าสำหรับเด็กอาจใช้แก้ว 16 ออนซ์ราคาขายก็ 10-15 บาท หากยึดทำเลขายที่ดีเช่นหน้าโรงเรียน โรงงาน ตลาดนัดที่คนพลุกพล่าน รายได้ต่อวันถือว่าไม่ธรรมดา ส่วนจะขายได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตลาดเป็นสำคัญด้วย
 
2.น้ำเต้าหู้
 
ภาพจาก bit.ly/31dRqEb

น้ำเต้าหู้เป็นอีกเมนูยอดฮิตที่หลายคนเรียกว่าเป็นเมนูสุขภาพด้วย เราจะเห็นร้านน้ำเต้าหู้มีอยู่แทบทุกแห่ง ซึ่งต้นทุนของน้ำเต้าหู้ เน้นไปที่วัตถุดิบได้แก่ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม ต้นทุนอยู่ที่ 40 บาท น้ำตาลทราย 350 กรัม ต้นทุนประมาณ 8 บาท และเกลือป่น 1 ช้อนชา ต้นทุนประมาณ 1 บาท ค่าแก๊สประมาณ 9 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 58 บาท โดยถั่วเหลือง 1 กิโลกรัมสามารถทำน้ำเต้าหู้ได้ประมาณ 30-35 ถุง

สร้างรายได้ประมาณ 240- 280 บาท (ขายถุงละ 8 บาท) หักต้นทุนเหลือกำไรประมาณ 182- 222 บาท ทั้งนี้หากมีทำเลการขายที่เหมาะสมเช่น ย่านชุมชน หน้าโรงเรียน ตลาดนัด หน้าโรงงาน อาจจะขายได้ทั้งช่วงเช้าและเย็น รายได้ก็ขึ้นอยู่กับทำเลและความขยัน
 
3.ปาท่องโก๋
 
ภาพจาก www.facebook.com/khopaka/

สินค้าที่ยอดฮิตในตอนเช้าต้องมีชื่อของ “ปาท่องโก๋” ความจริงชื่อปาท่องโก๋ที่เราเรียกจนติดปากเพี้ยนมาจาก แปะทึ่งกอ หรือ แปะถึ่งโก้ ที่พ่อค้าชาวจีนสมัยก่อนใช้เรียกสินค้านี้ การลงทุนขายปาท่องโก๋จำเป็นต้องอาศัยฝีมือในการทำ ดังนั้นควรฝึกฝนทำให้ชำนาญก่อนเปิดร้าน ซึ่งมีเงินแค่ 300 บาทก็เริ่มเปิดร้านได้เพราะขายปาท่องโก๋ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมายนัก

โดยปกติ ปาท่องโก๋จะขายกันที่ราคาตัวละ 2 บาท ซึ่งในการทำแป้งปาท่องโก๋ของแต่ละครั้ง ว่าจะสามารถตัดได้เยอะน้อยมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการกะปริมาณขนาดของการตัดแป้งเอาเอง ถ้าอย่างมือใหม่ ก็อาจจะตัดแป้งออกมาทอดแล้วขายได้เงินประมาณ 700 บาท แต่หากชำนาญขึ้นและตัดดีๆ ก็จะสามารถทำเงินได้ถึง 1,000 บาท
 
4.ไอศกรีม
 
ภาพจาก www.facebook.com/phatarinfoods

การขายไอศกรีมก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้เราเลือกลงทุนได้ง่ายขึ้น อย่าง #แฟรนไชส์ ภัทรินทร์ฟู้ด ศูนย์รวมแฟรนไชส์ไอศกรีม ที่มีแบรนด์ไอศกรีมให้เลือกถึง 6 แบบ ทั้งไอติมเผา ,โมจิไอศกรีม , ไอติมทอด , ไอศกรีมกะทิสด , ไอศกรีมผลไม้แบบแท่ง สามารถทำเป็นอาชีพหลักหรือทำเป็นอาชีพเสริม หรือใครที่มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่แล้วเลือกลงทุนเพิ่มเพื่อใช้เพิ่มรายได้ให้กับตัวเองก็ได้เช่นกัน หรือใครที่มองว่าอยากลองขายแบบไอศกรีมกะทิถัง โดยเร่ขายไปตามหมู่บ้าน เหมือนที่เราเคยเห็น ซึ่งในตลาดก็มีให้เลือกอยู่หลายแบรนด์เช่นกัน

ต้นทุนเฉลี่ยไอศครีมกะทิถังจะอยู่ที่ 1,800 – 2,000 บาทแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ รวมทั้งมีทอปปิ้งสำเร็จขายพร้อมโคนและถ้วย อุปกรณ์เหล่านี้ใช้เงินลงทุนหมุนเวียนต่อวันประมาณไม่เกิน 1,000 บาท โดยราคาขายถ้าเป็นไอศครีมโคน ตัก 1 -2 สกู๊ปตามด้วยทอปปิ้งจะขายที่โคนละ 10 บาท ส่วนถ้าเป็นใส่ถ้วยจะตั้งขายที่ราคาถ้วยละ 25 บาทขึ้นไป กำไรที่ได้รับประมาณ 50%
 
5.น้ำแข็งไส
 
ภาพจาก bit.ly/3dxZXXy

นอกจากเครื่องดื่มและไอศกรีม ก็มีน้ำแข็งไสที่ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูสุดฮิตที่เราจะเห็นว่าตามศูนย์อาหารก็มีเมนูเหล่านี้ให้เลือก หรือร้านค้าริมทางทั่วไปก็มีน้ำแข็งไสให้เลือกรับประทาน สีสันที่สดใส ความหวาน เย็น ทำให้สินค้านี้ขายดี

ข้อดีของร้านน้ำแข็งไสคือ เริ่มต้นได้ง่าย อุปกรณ์ไม่มาก ถ้ายังไม่มีทำเลที่ไหน ถ้ามีหน้าบ้านในแหล่งชุมชนก็เริ่มต้นได้เลยต้นทุนโดยเฉลี่ยของร้านน้ำแข็งไสขนาดเล็กประมาณ 3,020 บาท เป็นค่าอุปกรณ์ที่สำคัญและวัตถุดิบต่างๆ เช่น น้ำหวานเฮลบลูบอย ราคาประมาณขวดละ 43 บาท , น้ำหวาน / น้ำเชื่อม / นม , ช้อนพลาสติก , หลอดสั้น , น้ำแข็ง , ถ้วยโฟม ,เครื่องบดน้ำแข็ง ราคาประมาณ 1,390 บาท เป็นต้น

โดยปกติร้านน้ำแข็งไสจะให้เลือกเครื่องได้ 2 อย่าง 10 บาท หรือถ้าเลือก 3 อย่างราคา 15 บาท ราคาที่กล่าวนี้ก็ไม่ได้กำหนดตายตัวเพียงแต่เป็นตัวเลขประมาณการ ซึ่งบางร้านอาจจะตั้งราคาขายมากกว่านี้ ซึ่งโดยปกติ การคิดราคาขายก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณเครื่องที่ใส่ ซึ่งเจ้าของร้านก็ต้องมีวิธีบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบเหล่านี้เพราะจะว่ากันตามตรง กำไรหรือไม่กำไรก็มาจาก “เครื่องท็อปปิ้ง” ที่ใส่เป็นสำคัญ
 
6.หมูสะเต๊ะ
 
ภาพจาก bit.ly/31esRqJ

อาหารทานเล่นอย่างหมูสะเต๊ะก็น่าสนใจมาก สีสันหน้าตาถือว่าถูกใจคนไทยและสังเกตว่าจะมีขายแทบทุกพื้นที่การลงทุนหลักๆ คือเตาปิ้งย่างตัวละประมาณ 300-400 บาท เนื้อหมู กิโลกรัมละประมาณ 150 บาท กะทิ ผงกระหรี่ แตงกวา พริก ถั่วลิสง รวมต้นทุนและอุปกรณ์เบื้องต้นประมาณ 1,000 บาทอาจเกินบ้างเล็กน้อย ราคาขายของหมูสะเต๊ะมักขายเป็นชุดชุดละ 30-35 บาท กำไรโดยเฉลี่ยประมาณ 50% จากยอดขาย ขึ้นอยู่กับทำเลและความอร่อยเป็นสำคัญ
 
7.ขนมปังสังขยา
 

เมนูอย่างขนมปังสังขยาก็ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจ ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ให้เราเลือกลงทุนได้ง่ายๆ อย่าง #แฟรนไชส์ เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด ที่ให้ผลตอบแทนในสินค้าเครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง สังขยา ไม่ต่ำกว่า 50% ของยอดขาย หรือ #แฟรนไชส์ เอ็มมิลค์นมสดแท้ 100% ก็มีเมนูขนมปังสังขยาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า มีกำไรไม่ต่ำกว่า 50% จากยอดขายเช่นกัน
 

ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนและขายง่ายกำไรดี ในแต่ละเดือนหากมีทำเลที่ดี กลยุทธ์การขายที่ดี การตลาดที่ดี บริหารจัดการดี รายได้ดีกว่าทำงานประจำ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคนสนใจเปิดร้านจำนวนมาก ดูจากการขยายสาขาของ 2 แฟรนไชส์ที่เรายกตัวอย่างในเบื้องต้น
 
8.ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
 
ภาพจาก bit.ly/37cTVKI

อุปกรณ์ในการขายหมูปิ้งหลักๆคือ เตาย่าง , โต๊ะวางหรือรถเข็น จุดเด่นของการขายหมูปิ้งคือใช้พื้นที่น้อยโต๊ะตัวเดียวก็เพียงพอเปิดร้านได้ ทำเลก็ทั่วไปทั้งหน้าบ้านตัวเอง ตลาดนัด ป้ายรถเมล์  ริมถนนต่างๆ ต้นทุนอุปกรณ์เบื้องต้นเช่น หม้อนึ่งราคาประมาณ 120-200 บาท หวดนึ่งข้าวเหนียวราคาประมาณ 20-100บาท แล้วแต่ขนาดและรุ่น กระติกเก็บข้าวเหนียว ใช้เป็นกระติกน้ำแข็งทั่วไปครับ ราคาประมาณ 400-700บาท ถุงใส่ข้าวเหนียวและหมูปิ้ง

ถ้าเป็นถุงใส่ข้าวเหนียวโดยทั่วไป จะนิยมกันอยู่ 2 ขนาด คือ ขนาด 4×6 หรือ 4×7 ส่วนถุงที่ใส่หมูปิ้งขนาดประมาณ 4×8 นิ้ว และต้องมีถุงหิ้วขนาด 6×14 นิ้ว การขายหมูปิ้งถือเป็นอาชีพยอดฮิตที่เรามองไปทางไหนก็เจอ ส่วนจะขายดี มีกำไรแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ “เทคนิคการตลาด” คุณภาพสินค้า เป็นสำคัญ ซึ่งหลายคนที่รวยจากการขายหมูปิ้งก็มีให้เห็นอยู่มาก
 
9.ลูกชิ้นทอด/ลูกชิ้นปิ้ง
 

ง่ายที่สุดสำหรับคนไม่รู้จะเริ่มขายอะไรดี แนะนำว่าลูกชิ้นทอด ลูกชิ้นปิ้ง ขายดีแน่นอน ที่สำคัญไม่ต้องลงทุนเยอะใช้งบเบื้องต้นประมาณ 1,000 -3,000 บาท เครื่องปรุงทำน้ำจิ้ม 500 บาท ถุงใส่ลูกชิ้น 200 บาท อาจมีผักสดสัก 200 บาท

รวมค่าใช้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 3,000 บาท ถ้าขายไม้ละ 10 บาท X 250 ไม้ = 2,500 บาท ขายสองรอบเช้าและเย็นเท่ากับได้เงิน 5,000 บาท แต่ถ้าขายไม่ได้ถึงวันละ 250 -500 ไม้ แต่ขายได้วันละ 100 -200 ไม้ ก็จะมีรายได้ต่อวัน 1,000 – 2,000 บาท

หรือถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นแบบไหนอย่างไร แนะนำว่าให้เลือกลงทุนกับแฟรนไชส์อย่าง #แฟรนไชส์ อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช , #แฟรนไชส์ ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดเถิดเทิง , #แฟรนไชส์ ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด 1 บาท ซึ่งแต่ละแฟรนไชส์มีแพคเกจลงทุนให้เลือกตามต้องการ สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ทันที
 
10.เครป / ขนมโตเกียว /วาฟเฟิล
 

สินค้าทานเล่นขายดียุคนี้ต้องมีชื่อของ เครป ขนมโตเกียว และวาฟเฟิลรวมอยู่ด้วย ส่วนจะขายดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับไอเดียในการพัฒนาสินค้ายิ่งแปลกก็ยิ่งน่าสนใจ และหากจะเลือกลงทุนยกตัวอย่างเปิดร้านเครป เงินทุนเบื้องต้นคือค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบ โดยเฉพาะเตาเครป รวมๆแล้วใช้เงินทุนเบื้องต้นประมาณ 20,000 -30,000 บาทสำหรับร้านขนาดกลาง แต่หากเป็นร้านขนาดเล็กทั่วไปอาจใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 บาท

ยกตัวอย่างการขายที่เครปอีกเช่นกันถ้าขายได้เฉลี่ยต่อวัน 50-80 แผ่น รายได้ประมาณ1500-2000 บาท/วัน หากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็ยังเหลือกำไรเกินครึ่ง แต่หากไม่อยากยุ่งยากอยากเปิดร้านได้ทันที


ยุคนี้มีแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนได้เลยอย่าง #แฟรนไชส์ เครปอะเดย์ ที่ทุกแพคเกจมีอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมสอนวิธีทำและสอนวิธีเปิดร้าน เช่นเดียวกับ #แฟรนไชส์ มารุวาฟเฟิลที่เป็นสินค้าวาฟเฟิลกลิ่นหอมๆ ยั่วยวนใจ มีแพคเกจลงทุนที่มาพร้อมอุปกรณ์ +วัตถุดิบ และสอนเทคนิคการทำทุกอย่างให้เปิดร้านได้ทันที
 
เมนูขนมทานเล่นเหล่านี้มีจุดเด่นและความน่าสนใจในตัวเอง หากรู้จักใส่ไอเดียในการขาย พัฒนาการตลาดให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น คนที่ไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์มาลงทุนแต่เลือกทำแบรนด์ของตัวเอง อาจจะประสบความสำเร็จด้วยการขายแฟรนไชส์สามารถสร้างรายได้ที่ดีมากขึ้นด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด
ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด (ลูกชิ้นในถุง 1 กิโลกรัม ของซูโม่ มีลูกชิ้น 130 ลูก 1 เดียว ในประเทศไทย หาไม่ได้แล้วครับจากที่อื่นๆ)&n...
ค่าแฟรนไชส์ 2,490 บาท
 ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
แฟรนไชส์ ลูกชิ้นปลาระเบิด อันดับ 1 ในเมืองไทย การันตีคุณภาพ จากรางวัล Thailand Franchise Award 2020 & 2021 by DBDNo.1 Fra...
ค่าแฟรนไชส์ 3,000 บาท
 อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช
แฟรนไชส์ ลูกชิ้นปลาเยาวราช X ร่วมมือกับ    ภัตตาคาร (สูตรแท้จากเยาวราช) ลูกชิ้นปลา อู้ฟู่ มีความสามารถพ...
ค่าแฟรนไชส์ 2,990 บาท
 เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด
www.hjfreshmilk.com แฟรนไชส์นมสด คุณภาพ จากร้านดังทีประสบความสำเร็จมากว่า 4 ทศวรรษ จนได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชน จวบจนปัจจุบั...
ค่าแฟรนไชส์ 18,900 บาท
 มารุ วาฟเฟิล
แฟรนไชส์ Waffle ยอดฮิต! ร้าน Maru Waffle แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกงสูตรกรอบ หอม อร่อย มีหลายแพ็คเกจให้เลือก ปัจจุบันมีมากกว่า 200 สาขาท...
ค่าแฟรนไชส์ 43,000 บาท
บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ทีมไหน! หา"ทำเล"ก่อนทำธุรกิจ vs เลือก "ธุรกิจ" ก..
407
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด