การลงทุนแฟรนไชส์เป็นการซื้อความสำเร็จของธุรกิจนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ สูตร ระบบ การอบรม การสนับสนุน การตลาด และอื่นๆ ที่เจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ทำมาแล้วสำเร็จมาก่อน แต่ใช่ว่าเมื่อซื้อแฟรนไชส์มาแล้วจะประสบความสำเร็จทุกคน เพราะบางครั้งผู้ซื้อแฟรนไชส์รีบร้อนจนเกินไป ไม่พิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะการถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแฟรนไชส์

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอให้ทราบว่าก่อนที่จะซื้อแฟรนไชส์ เราจะต้องถามอะไรบ้างกับแฟรนไชส์ซอร์

• แฟรนไชส์อาหาร คลิก https://bit.ly/38mbBE7
• แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีม คลิก https://bit.ly/2JSEH4z
• แฟรนไชส์เบเกอรี่ คลิก https://bit.ly/3opxO9L
• แฟรนไชส์บริการ คลิก https://bit.ly/38iutDU
• แฟรนไชส์การศึกษา คลิก https://bit.ly/3hSpQDu
• แฟรนไชส์ความงาม คลิก https://bit.ly/3hR623u
• แฟรนไชส์ค้าปลีก คลิก https://bit.ly/3nqM6FQ
• แฟรนไชส์งานพิมพ์ คลิก https://bit.ly/35eMZLh
• แฟรนไชส์โอกาสทางธุรกิจ คลิก https://bit.ly/396MZhL

 

เงินลงทุนทั้งหมดที่จะต้องถามเจ้าของแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นค่าแฟรนไชส์แรกเข้า ค่าสิทธิต่อเนื่องรายเดือน ค่าการตลาด รวมถึงค่าออกแบบตกแต่งร้าน เงินทุนหมุนเวียน ซึ่งแฟรนไชส์แบรนด์ใหญ่ๆ จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เสมอ รวมถึงการจ่ายเงินครั้งแรก การจ่ายเงินมัดจำ หลายๆ แบรนด์แฟรนไชส์ก็จะมีตรงนี้ด้วยเช่นกัน  

 

 

ก่อนซื้อแฟรนไชส์ต้องถามให้แน่ชัดว่า วัตถุดิบต้องซื้อเองตามตลาดทั่วไป หรือเจ้าของแฟรนไชส์จัดส่งมาให้ที่ร้าน และราคาวัตถุดิบเท่าไหร่ สามารถสั่งซื้อและจัดส่งวันไหนบ้าง แต่ถ้าหาซื้อวัตถุดิบเองต้องคุณภาพแบบไหน ต้องถามให้ชัดเจน 

 

หลายๆ แบรนด์แฟรนไชส์จะใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมไม่เท่ากัน บางแบรนด์เป็นเดือน บางแบรนด์ 2-3 วัน หรือจัดส่งแค่ซีดีให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ปฏิบัติตาม รวมถึงถามเกี่ยวกับฝึกอบรมที่ร้านหรือบริษัทแฟรนไชส์ด้วย 

 

 

ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องถามให้รู้ว่า เจ้าของแฟรนไชส์จะให้การสนับสนุนหลังจากซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วอย่างไรบ้าง เช่น เมื่อเกิดปัญหาแฟรนไชส์ซอร์จะช่วยเหลืออย่างไร ติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง ใครเป็นผู้จัดหาทำเลในการเปิดร้าน ผู้ซื้อแฟรนไชส์หรือเจ้าของแฟรนไชส์ รวมไปถึงการทำตลาด การโฆษณา เจ้าของแฟรนไชส์เป็นผู้รับผิดชอบหรือไม่  

 

 

จำนวนสาขาแฟรนไชส์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการซื้อแฟรนไชส์ แบรนด์แฟรนไชส์ไหนมีจำนวนสาขามาก จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าแฟรนไชส์ที่มีสาขาน้อย เช่น 7-Eleven มีมากกว่าหมื่นสาขาทั่วประเทศ จึงทำให้ใครๆ ก็อยากซื้อแฟรนไชส์ แต่ก็อย่าลืมว่าแฟรนไชส์จำนวนสาขาน้อยก็มีโอกาสสำเร็จมากกว่าแฟรนไชส์สาขามากเช่นเดียวกัน ต้องพิจารณาให้ดีๆ 

 

 

ก่อนซื้อแฟรนไชส์เราจะต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นใคร จะง่ายในการนำเสนอสินค้าและบริการ เช่น หากอยากกระตุ้นยอดขายก็จะได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นได้ตรงจุด สินค้าก็จะขายได้ง่าย  

 

 

ถือว่าสำคัญมากในการซื้อแฟรนไชส์ หากแฟรนไชส์ที่เราสนใจอยากลงทุนยอดขายไม่ดี สินค้าและบริการไม่เป็นที่นิยมในตลาด เมื่อเราซื้อไปแล้วก็คงจะขายไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น แฟรนไชส์ที่น่าลงทุนต้องมียอดขายดี สินค้าได้รับความนิยมจากลูกค้า 

 

 

เมื่อเราคิดจะลงทุนแล้ว จะต้องรู้ว่าระยะเวลาในการคืนทุนนานมากน้อยแค่ไหน 1 เดือน หรือ 1 ปี หากสัญญาแฟรนไชส์ 3 ปี แต่ระยะเวลาคืนทุน 2 ปี ก็เหลือเวลาสร้างกำไรแค่ 1 ปี ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งต้องดูงบลงทุน และยอดขายด้วย 

 

 

แฟรนไชส์ที่ใช้ระยะเวลาในการเปิดร้านได้เร็ว หรือสอดคล้องกับขนาดของธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ อาจจะได้รับความนิยมจากนักลงทุน เนื่องจากคนซื้อแฟรนไชส์ก็อยากจะเปิดขายได้เร็วๆ ดังนั้น ก่อนซื้อแฟรนไชส์ต้องถามข้อนี้ด้วย 

 

 

ผู้ซื้อแฟรนไชส์อย่าลืมถามเกี่ยวกับสัญญาแฟรนไชส์อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาสัญญากี่ปี สามารถต่อสัญญาได้อีกหรือไม่ ในสัญญาแฟรนไชส์ให้ทำอะไร หรือห้ามทำอะไรได้บ้าง เป็นต้น 

 

การซื้อแฟรนไชส์แม้ว่าจะเป็นการซื้อความสำเร็จของธุรกิจนั้นๆ แต่ถ้าหากรีบร้อน ไม่ศึกษาพิจารณาถี่ถ้วน รวมถึงสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแฟรนไชส์ที่สนใจ อาจน้ำตาตกในภายหลังได้ครับ 

 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)