บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
2.4K
3 นาที
23 มิถุนายน 2564
แจกฟรี 20 ไอเดีย ตั้งชื่อบทความ ให้ดังปังเร็ว!
 

ชื่อบทความที่ดีคือหน้าด่านแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจได้ ลองคิดดูว่าถ้าเราตั้งชื่อบทความแบบที่ใครเห็นแล้วก็ไม่อยากอ่าน เช่น การหารายได้แบบเราทำเอง , วิธีทำอาหารทั่วไปใครๆ ก็ทำได้ จะเห็นได้ว่า ชื่อบทความแบบนี้ไม่มีแรงดึงดูดใจมากพอ คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอ่านบทความแบบนี้ก็ได้

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com คิดว่านักเขียนที่ดีต้องมีเทคนิคในการตั้งชื่อบทความเราจึงรวบรวมเป็น 20 ไอเดียน่าสนใจที่เชื่อว่าใครได้ลองทำตาม บทความที่เราเขียนจะดัง ปังเร็ว มากขึ้น
 
1. คิดชื่อบทความเอาไว้หลายๆชื่อ 
 
ภาพจาก freepik.com

ข้อดีของวิธีนี้คือเมื่อเขียนบทความเสร็จค่อยมาคิดเรื่องชื่อว่าควรตั้งแบบไหนให้สัมพันธ์กับเนื้อหาที่เราเขียนได้มากที่สุด อะไรคือ Pain Point สำคัญของเนื้อหา แล้วลองคิดชื่อบทความออกมาหลายๆอัน เลือกชื่อที่ดีและคิดว่เหมาะสมกับบทความเราที่สุด
 
2. ใช้ “ตัวเลข” ประกอบในชื่อบทความ
 

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

จากผลการวิจัยจาก Conductor ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่าผู้อ่านกว่า 36% ชอบชื่อบทความที่มีตัวเลขอยู่ที่สุด ส่วนเรื่องวิธีการแก้ปัญหา, How-to และการถามคำถามเป็นวิธีที่คนอ่านชื่นชอบรองลงมา หากพาดหัวบทความไหนมีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง มักจะทำให้ผู้พบเห็นหยุดอ่านชื่อบทความ เช่น 5 เทคนิคตั้งชื่อบทความอย่างไรให้ปัง!, แจกฟรี 9 เว็บไซต์การตลาด เป็นต้น
 
3. พลังของคำว่า “ฟรี”
 
คำว่า “ฟรี” ปรากฏอยู่ที่ไหน ก็มีคนสนใจหรือจะเป็นคำอื่นที่มีพลังใกล้เคียงกันเช่น สุดเจ๋ง ขั้นเทพ ปัง! ก็มีพลังในการดึงดูดใจได้เช่นกัน สังเกตว่าถ้าเห็นบทความไหนมีคำเหล่านี้เราต้องหยุดอ่านหัวข้อก่อนเสมอ เช่น แจกฟรี! วิธีสร้างรายได้ฉบับรวยเร็ว , การหารายได้ขั้นเทพ! เริ่มต้นได้ทันที เป็นต้น
 
4. ชื่อบทความ “เชิงคำถาม”

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

ใช้ชื่อแบบตั้งคำถามเป็นการกระตุ้นความอยากรู้ของคนอ่านได้มากที่สุด คำเหล่านี้เช่น เช่น รู้หรือไม่!? ทำไม แบบไหน ทำอย่างไร สำคัญคือเนื้อหาข้างในต้องตอบคำถามได้จริงเพื่อคนอ่านจะได้รู้สึกว่าอ่านแล้วได้สาระจริง ๆ เช่น รู้หรือไม่ ทำไมเราต้องนอนหลับ! , ทำอย่างไรจะได้เป็นเศรษฐี 100 ล้าน เป็นต้น
 
5. ชื่อบทความที่เข้าใจความรู้สึกคนอ่าน
 
เราต้องรู้ก่อนว่า ณ ขณะนี้คนส่วนใหญ่ เขาต้องการค้นหาข้อมูลอะไร อาจจะยึดตามเทรนด์ในช่วงนั้นดูด้วยก็ได้ว่า อะไรที่กำลังเป็นกระเเส เเละคนให้ความสนใจเยอะ โดยเราอาจใช้เทคนิคการค้นหาในโซเชี่ยลว่าเรื่องอะไรที่คนสนใจที่สุด แล้วจึงนำมาตั้งเป็นชื่อบทความได้
 
6. เล่นกับความ “ต้องการ” ในใจคน
 
เทคนิคนี้เรียกว่า Scarcity Marketing แปลเป็น ว่าการเล่นกับความกลัว (ที่จะขาดแคลน) เช่นกลัวสินค้าที่เราต้องการจะหมดก่อนเราซื้อ กลัวสินค้าที่เราต้องการจะขึ้นราคา กลัวว่าจะมีคนอื่นมาแย่งของของเราไป ชื่อบทความในลักษณะนี้เช่น 2 วันสุดท้าย! LINE ขอท้าเหล่าโปรแกรมเมอร์ ดีไซเนอร์ มาร่วมสร้าง Service เจ๋งๆ กับ LINE HACK” เป็นต้น
 
7. ชื่อบทความที่ขัดใจคนอ่าน

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

คือลองมองมุมกลับ ปรับมุมมอง ใช้ชื่อที่ดูแล้วคนไม่น่าจะชอบ หรือชื่อที่ดูแล้วคนน่าจะไม่เห็นด้วยมาเป็นหัวข้อบทความ เรื่องนี้อธิบายไปก็อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพ มาดูตัวอย่างจริงกัน เช่น “4 เหตุผลที่คุณไม่ควรออมเงิน” , “รวมวิธีสร้างรายได้จากการเป็นคนขี้เกียจ” เป็นต้น
 
8. ชื่อบทความที่ “แก้ปัญหาให้คนอ่าน”
 
คือการรวมเอาชื่อบทความที่ใช้ปัญหาเป็นหลักในการเขียน สะท้อนให้เห็นว่าเราใส่ใจความรู้สึกของคนอ่าน และหากจะให้ดีในชื่อบทความต้องมีลักษณะของการแก้ปัญหา นั้นได้ แต่ข้อควรระวังคือ อย่าไปตั้งชื่อบทความถ้าเรายังแก้ปัญหาไม่ได้จริงๆเพราะจะกลายเป็นการหลอกลวงคนอ่าน ชื่อบทความในลักษณะนี้เช่น “วิธีเช็คว่าเว็บไซต์ของเรารองรับการดูบนสมาร์ทโฟนหรือไม่ (ภายใน 1 วินาที) เป็นต้น
 
9. เน้นเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
 
เน้นให้ ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อหาในเรื่องมีลักษณะแบบไหน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และการตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ยังทำให้ผู้อ่านสามารถพิจารณาได้ว่าเนื้อหาเรื่องราวนี้เป็นสิ่งที่ต้องการอ่านหรือไม่
 
10. ใช้คำที่ “ดึงดูด” ผู้อ่าน
 
เป็นคำที่ชี้ให้เห็นถึงความพิเศษ และประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับจากการอ่าน ที่มากกว่าความรู้ทั่วไปที่ได้อ่านจากที่อื่นเช่นการใช้คำว่า เทคนิค เคล็ดลับ วิธีการ แนวทาง สูตร หลักการ หรือการใส่คำสั้นๆ อย่าง เจ๋ง เยี่ยม ที่สุด หายาก ไม่มีอีกแล้ว เหล่านี้เป็นต้น
 
11. ใช้คำเชิงปฏิเสธ

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

โดยเลือกใช้คำในเชิงปฏิเสธอย่าง อย่า ห้าม ห้ามพลาด หยุด ไม่ ไม่ต้อง และอีกหลายๆ คำที่มีความหมายในเชิงปฏิเสธ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้บทความดูน่าสนใจมากขึ้น
 
12. ชื่อบทความที่เป็นรีวิวจากผู้ใช้งาน
 
การใช้ สถิติ รีวิว หรือสิ่งที่คนในสังคมให้การยอมรับเชื่อถือ ในการตั้งชื่อหัวข้อนั้นสามารถดึงดูดความสนใจได้ดีและทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าหัวข้อนั้นเชื่อถือได้ ให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งในการตั้งหัวข้อรูปแบบนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเกิดความสนใจอยากจะเข้าไปอ่าน เช่น เปิดความลับที่ช่วยให้ Apple ประสบความสำเร็จ , รถยนต์ไฟฟ้าดีอย่างไร จากผู้ใช้งานจริง เป็นต้น
 
13. ชื่อบทความอ้างอิงจาก “คนดังระดับโลก”
 
การที่ชื่อบทความมีอ้างอิงคนดังระดับโลกจะเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น เช่น วิธีง่ายๆที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์ , การก้าวสู่ความสำเร็จในการทำงานแบบสตีฟจ๊อบส์ เป็นต้น ทั้งนี้เนื้อหาในบทความก็ต้องอ้างอิงและพูดถึงแนวคิดหลักการของคนที่เรานำมาพูดถึงด้วย
 
14. ชื่อบทความใช้คำ “ขัดแย้ง”
 

ภาพจาก blockdit.com/thaifranchisecenter
 
คำขัดแย้งหรือคำตรงข้าม เป็นเสน่ห์ในการตั้งชื่อบทความที่ทำให้คนอ่านสงสัย หลายคนใช้แนวคิดนี้ในการตั้งชื่อบทความ เช่น วิธีลดความอ้วนด้วยการกิน , รวมวิธีสร้างรายได้แบบไม่ต้องลงทุน , การหาเงินแบบง่ายๆ อยู่บ้านก็ทำได้ เป็นต้น
 
15.ตั้งชื่อบทความแบบ “ห้ามทำ”
 
คำว่า “ยิ่งห้ามยิ่งอยากรู้” เป็นเชิงจิตวิทยาแบบหนึ่ง การตั้งชื่อบทความแนวนี้ คือเล่นกับความคิดของคน เช่น อย่าซื้อคอมพิวเตอร์ ถ้ายังไม่ได้อ่านบทความนี้ , ห้ามลงทุน! ถ้ายังไม่รู้จักสุดยอดเทคนิค เป็นต้น
 
16. ใช้คำว่า “ความลับ”
 
อะไรที่เป็นความลับคนเรามักอยากรู้เสมอ การตั้งชื่อบทความก็เช่นกัน หากมีคำว่า สูตรเด็ด , เคล็ดลับ , เรื่องที่คุณไม่รู้ จะทำให้บทความดูน่าสนใจขึ้น เช่น สูตรเด็ดพาคุณรวยด้วยอาหารทะเล , เปิดความลับร้านอาหารชื่อดัง ทำไมถึงฮิต เป็นต้น
 
17. เติมปี xxx ท้ายชื่อบทความ
 

ภาพจาก thaismescenter.com/

การลงท้ายชื่อบทความด้วย ปีนั้นๆ เหมือนกับเป็นการอัพเดทและบอกให้คนอ่านรู้ว่านี่คือข้อมูลล่าสุด และเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและน่าสนใจเช่น รวมฮิตเทรนด์เทคโนโลยีปี 2021 , จัดอันดับอาหารยอดฮิตปี 2021 เป็นต้น
 
18. ชื่อบทความ “ที่สอนการหาเงิน”
 
ในยุคที่คนอยากมีรายได้เพิ่ม บทความที่สอนการหาเงินคือสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นชื่อบทความต้องสอดคล้องกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เช่น 5 วิธีรวยด้วยโทรศัพท์มือถือ , สอนเทคนิคการหาเงิน ด้วยการเล่นเกม เป็นต้น
 
19. เทคนิคการใช้คำว่า “VS”
 
เป็นชื่อบทความเชิงเปรียบเทียบ ที่กระตุ้นให้คนอ่านรู้สึกว่าอยากรู้มากขึ้น เหมือนการประคบคู่หากเป็นมวยถูกคู่ก็ยิ่งน่าสนใจ เช่น แมคโดนัลส์ VS เคเอฟซี ใครรวยกว่ากัน , พิซซ่าฮัท VS พิซซ่า คอมปานี  ร้านไหนถูกไหนคนไทยที่สุด 
 
20. เทคนิคตั้งชื่อบทความด้วย “เวลา” 

ภาพจาก thaismescenter.com/

การนำเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องในชื่อบทความเพิ่มเสน่ห์ให้คนอ่านรู้สึกว่าจะได้รับประโยชน์จากบทความในเวลารวดเร็วและรู้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่กับบทความนี้ หรืออ่านแล้วในกี่นาที เราจะเก่งขึ้น ดีขึ้น เช่น “English ขั้นเทพ! เก่งภาษาอังกฤษได้ใน 1 อาทิตย์” , สอนเทคนิคซ่อมโทรศัพท์อย่างง่าย เปิดร้านได้ภายใน 10 นาที เป็นต้น
 
ทั้งนี้ไม่ว่าจะตั้งชื่อบทความดีแค่ไหน สุดท้ายสิ่งสำคัญสุดก็คือเนื้อหาที่ผู้อ่านต้องรู้สึกว่าคุ้มค่า และไม่ใช่การตั้งชื่อให้น่าสนใจแต่เนื้อหาข้างในไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ หรือมีความรู้ใหม่ๆ สอดแทรก ซึ่งการตั้งชื่อบทความที่โอเว่อร์เกินจริง และไม่สมเหตุสมผลกับเนื้อหา จะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการเขียนบทความ ที่อาจไม่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด