รถพ่วงข้าง! ขายแฟรนไชส์อะไรได้บ้าง | แฟรนไชส์สร้างอาชีพ
 

สำหรับคนที่อยากลงทุนค้าขาย แต่ติดว่าไม่รู้ว่าจะหาทำเลที่ไหน ส่วนใหญ่คิดลงทุนขายของด้วยรถพ่วงข้าง ลักษณะของรถพ่วงข้างก็คือมอเตอร์ไซด์ที่ดัดแปลงต่อเติมโครงสร้างด้านข้างให้มีพื้นที่ในการวางอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อขายของที่ต้องการได้ ข้อดีของการลงทุนในรูปแบบนี้คือ เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ไม่ต้องเสียค่าเช่าในราคาแพง ไม่ต้องจำเจกับทำเลเดิมๆ สามารถเคลื่อนที่เข้าหาลูกค้าได้ทุกพื้นที่

อย่างไรก็ดี www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าการลงทุนด้วยรถพ่วงข้างแม้จะดูน่าสนใจแต่ปัญหาที่หลายคนยังคิดไม่ออกคือ “จะขายอะไรดี” ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ลองรวบรวมบรรดาแฟรนไชส์ที่สามารถใช้รถพ่วงข้างในการขายมาฝากกัน

 

ขายของด้วยรถพ่วงข้าง ต้องลงทุนเท่าไหร่?
 

สิ่งสำคัญที่เราต้องมีก็คือ “มอเตอร์ไซด์” ราคารถป้ายแดงซื้อใหม่ถ้าไม่เจาะจงรุ่นพิเศษ เน้นเอาแบบทั่วไป ราคาประมาณ 40,000 -50,000 บาท แต่ถ้าเรามีมอเตอร์ไซด์อยู่แล้วจะเก่าไปบ้างก็ไม่เป็นไรขอให้เครื่องยนต์ยังดี ก็จะประหยัดต้นทุนในส่วนนี้ โดยราคาในการจ้างช่างเพื่อดัดแปลงมอเตอร์ไซด์ให้กลายเป็นรถพ่วงข้าง ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เราต้องการ โดยส่วนใหญ่ราคาในการดัดแปลงก็ประมาณ 20,000 -30,000 บาท หรืออาจจะถูกกว่านี้อยู่ที่อัตราค่าจ้างของช่างแต่ละคนและแบบแปลนที่เราต้องการด้วย

 

หลายคนที่อาจจะมีความรู้ด้านช่าง หรือเคยเป็นช่างเหล็กมาก่อน อาจจะลองดัดแปลงมอเตอร์ไซด์ตัวเองให้กลายเป็นพ่วงข้างสำหรับใช้งานเอง ก็อาจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงนัก ต้นทุนในส่วนนี้ก็คือค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ แต่อย่างไรก็ดีการดัดแปลงต่อเติมมอเตอร์ไซด์ให้กลายเป็นพ่วงข้างต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และลักษณะของการใช้งาน เพื่อให้ทุกการลงทุนคุ้มค่าสมกับที่เราต้องการมากที่สุด

 

รถพ่วงข้างขายแฟรนไชส์อะไรได้บ้าง?
1.ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
 

แพคเกจลงทุนของไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิดมีให้เลือกหลายแบบ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,990 บาท เหมาะกับคนที่มีอุปกรณ์อยู่แล้ว แต่ถ้าสนใจต้องการลงทุนแบบรถพ่วงข้าง สามารถเลือกแพคเกจนี้ได้ในราคา 24.990 บาท สิ่งที่จะได้รับในแพคเกจนี้คือวัตถุดิบพร้อมขายจำนวนมาก และอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านกว่า 28 รายการ โดยวัตถุดิบ 1 กิโลกรัมจะขายได้ประมาณ 300 บาท มีกำไรสุทธิต่อกิโลกรัมประมาณ 190 บาท ในแต่ละวันถ้าขายได้ประมาณ 10-30 กิโลกรัม จะมีกำไรประมาณ 1,900 –5,700 บาท

2.ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด
 

ภาพจาก ซูโม่ ลูกชิ้นปลาระเบิด

มีแพคเกจลงทุนให้เลือกกว่า 9 รูปแบบหนึ่งในนั้นคือ ชุดบิ๊กพ่วง (มอเตอร์ไซด์พ่วง) ราคา 24,490 บาท สิ่งที่จะได้รับคืออุปกรณ์พร้อมเปิดร้านจำนวนมาก และวัตถุดิบพร้อมขาย พร้อมสอนเทคนิคการขายให้เราเริ่มต้นขายได้ทันที ซึ่งข้อดีของแพคเกจนี้คือการเข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ ไม่ต้องมีทำเลประจำ ยิ่งขยัน ยิ่งมีรายได้มากขึ้น กำไรเฉลี่ยต่อวันประมาณ 1,000 -2,000 บาทขึ้นอยู่กับทำเลในการขาย
 

ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด สนใจลงทุน แฟรนไชส์ คลิก https://bit.ly/2XbxjrA  โทร. 082-4986999, 089-2090088

 

3.ต.เนื้อย่าง
 

เป็นแฟรนไชส์เนื้อโคขุนย่างเสียบไม้ แพคเกจที่ให้เลือกลงทุนไม่ได้มีแบบรถพ่วงข้าง แต่ผู้สนใจสามารถดัดแปลงขายได้เอง ซึ่งการขายเนื้อย่างก็ไม่ต่างจากรถพ่วงข้างที่ขายหมูย่าง ไก่ย่างต่าง ๆ แต่ข้อดีของการขายเนื้อย่างกับแฟรนไชส์ ต.เนื้อย่างคือ ลงทุนน้อย เริ่มต้น 3,000 ก็มีสินค้าพร้อมขายได้ทันที โดยจะได้รับเนื้อโคขุนคละรสชาติจำนวน 500 ไม้ พร้อมป้ายไวนิล ถ้าขายไม้ละ 10 บาท จะมีรายได้ประมาณ 5,000 บาท กำไรทันที 2,000 บาท เฉลี่ยกำไร 40-50% ต่อไม้ ในเบื้องต้นคนสนใจอาจต้องลงทุนดัดแปลงมอเตอร์ไซด์ให้เป็นรถพ่วงข้างเองแต่รับรองว่าสินค้าขายง่าย ขายดี คุ้มค่าแน่นอน
 

แพคเกจลงทุนของอู้ฟู่ลูกชิ้นปลาเยาวราชไม่ได้มีแบบรถพ่วงข้าง แต่เราสามารถดัดแปลงได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในเบื้องต้นอาจมีต้นทุนในการดัดแปลงรถมอเตอร์ไซด์ให้กลายเป็นพ่วงข้าง การลงทุนกับอู้ฟู่ลูกชิ้นปลาเยาวราชแพคเกจที่มีอุปกรณ์ครบคือชุดป้ายพร้อมอุปกรณ์ 4,900 บาท มีโต๊ะ 1 ตัวก็ขายได้ โดยสิ่งที่ได้รับคือวัตถุดิบพร้อมขายและอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านจำนวนมาก

 

5.ขายเครื่องดื่มชา กาแฟ
 

ภาพจาก https://bit.ly/3zpPh8u

ปัจจุบันเราจะเห็นรถพ่วงข้างที่ขายเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนด้วยตัวเองไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์แต่อย่างใด ดังนั้นนอกจากต้นทุนในการดัดแปลงรถเป็นพ่วงข้างแล้วก็ยังมีต้นทุนเรื่องอุปกรณ์ในการเปิดร้านต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ดีมีบางแฟรนไชส์เช่นกันที่มีแพคเกจลงทุนแบบรถพ่วงข้างเช่น แฟรนไชส์“ลุงดำ กาแฟโบราณ” มีราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 39,000 บาท สิ่งที่ได้ เช่น สูตรการทำเครื่องดื่ม เมนู วัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ แต่ยังไม่รวมค่าออกแบบตกแต่งรถพ่วงข้างแบบพร้อมข้างเบ็ดเสร็จงบลงทุนประมาณ 70,000 บาท 

6.ขายลูกชิ้นปิ้ง

 

ภาพจาก https://bit.ly/34nHPiK

บรรดารถพ่วงข้างที่เราเห็นทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสายปิ้งย่าง ทั้งไก่ย่าง หมูปิ้ง หรือแม้แต่รถขายลูกชิ้นปิ้งก็มีจำนวนมากเช่นกัน แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้วยตัวเอง ดัดแปลงรถมาทำเอง ซื้ออุปกรณ์เอง วิ่งขายไปตามจุดต่างๆ ที่ต้องการ อย่างไรก็ดีมีบางแฟรนไชส์เหมือนกันที่มีแพคเกจแบบรถพ่วงข้างอย่างเช่น แฟรนไชส์ลูกชิ้นทิพย์มีแพคเกจที่ยังไม่รวมค่ามอเตอร์ไซค์ และค่าสั่งทำรถพ่วงข้าง

เริ่มต้นแพคเกจตั้งแต่ ราคา 2,690 – 31,900 บาท แล้วแต่กำลังของแต่ละคน โดยจะมีของให้ครบ ตั้งแต่ลูกชิ้น ผ้ากันเปื้อน ป้ายร้าน ถุง น้ำจิ้ม ตู้กระจก ไปจนถึงเตา ประหยัดเวลาของผู้ลงทุนไม่ต้องหาอุปกรณ์ในการขายด้วยตัวเอง สามารถเริ่มขายได้เลย

7.ขายขนมจีบ ซาลาเปา 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3zoObtC

สินค้ายอดฮิตที่เห็นจากรถพ่วงข้างต้องยกให้ขนมจีบ ซาลาเปา ที่มีจุดเด่นคือสามารถวิ่งเข้าหาลูกค้าได้ทุกพื้นที่ อย่างไรก็ดีการลงทุนขายขนมจีบซาลาเปาหากลงทุนเองต้องเสียเวลาในการคิดสูตรขนมจีบ ซาลาเปา ซึ่งมีบางแฟรนไชส์ที่คิดแพคเกจลงทุนด้วยรถพ่วงข้างให้กับคนสนใจ ยกตัวอย่างแฟรนไชส์ตี๋เล็ก ขนมจีบ ซาลาเปาที่เปิดรับตัวแทนขายรถ Delivery โดยลงทุนเริ่มต้นแค่ 15,900 บาท ได้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถพ่วงข้าง ตู้เย็น สินค้าและอุปกรณ์พร้อมขายได้เลย รวมถึงมีทีมงานสอนทุกขั้นตอนให้เริ่มต้นสร้างอาชีพได้ง่ายๆ 

 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3qMIz8I

สินค้ายอดฮิตอีกอย่างสำหรับรถพ่วงข้างคือการขายส้มตำ-ไก่ย่าง ที่เราจะเห็นวิ่งเข้าตามตรอกซอกซอยและหน้าโรงงานสถานที่ชุมชนต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์แต่จะลงทุนด้วยตัวเอง แน่นอนว่าต้นทุนสำคัญคือราคาในการดัดแปลงรถให้เป็นพ่วงข้างและค่าอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านต่างๆ รายได้ในแต่ละวันขึ้นอยู่กับทำเลที่ขาย ความขยัน และฝีมือในการทำอาหาร รวมถึงความสะอาดและบริการที่ดีด้วย

9.ขายก๋วยเตี๋ยว

 

ภาพจาก https://bit.ly/3zz64pB

รถพ่วงข้างสามารถดัดแปลงให้ขายก๋วยเตี๋ยวได้ ส่วนใหญ่จะเห็นรถลักษณะนี้ตามหน้าโรงงาน สถานที่ชุมชนต่างๆ จุดเด่นคือไม่ต้องมีโต๊ะสำหรับนั่ง แต่ใส่ถ้วยโฟมให้นั่งรับประทานริมฟุตบาธ หรือลูกค้าบางคนก็ซื้อแบบห่อกลับบ้าน ผู้ลงทุนเลือกได้ว่าอยากขายก๋วยเตี๋ยวแบบไหนเช่น ก๋วยเตี๋ยวเป็ด , ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ , บะหมี่เกี๊ยว เป็นต้น รายได้เฉลี่ยต่อวันถือว่าดีมาก ขึ้นอยู่กับฝีมือในการทำอาหารและทำเลการขายเป็นสำคัญ
 

10.ขายผลไม้
 

ภาพจาก https://bit.ly/3FXbKfD

รถขายผลไม้แบบพ่วงข้างเราเห็นกันจนชินตา ส่วนใหญ่จะลงทุนกันเองไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์ใดๆ ผลไม้ที่ขายก็มีตั้งแต่สับปะรด , แตงโมง , แคนตาลูป , มะม่วง , มะละกอ ฯลฯ แช่ในตู้กระจกใสที่ใส่น้ำแข็งให้ผลไม้สดอยู่ตลอดเวลา ขายถุงละ 10-20 บาท ส่วนใหญ่เน้นทำเลแถวหน้าโรงงาน ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือแหล่งที่คนพลุกพล่าน รายได้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ขายเป็นสำคัญด้วย

 

“รถพ่วงข้าง” เหมาะสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจ แต่ไม่มีพื้นที่และเงินลงทุนจำนวนมาก มีเงินทุนแค่เพียงหลักหมื่นต้นๆ ก็สามารถสร้างธุรกิจได้ เพราะปัจจัยความสำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุนด้านการเงิน แต่ขึ้นอยู่กับต้นทุนด้านการลงแรง ทั้งความขยันและความอดทน รวมถึงการเลือกทำเลที่จะขับรถไปจอดขายสินค้าต้องเป็นที่ที่มีลูกค้าเยอะๆ เช่น บริษัท โรงงาน โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน แน่นอนว่าถ้าทำได้แบบนี้ รับรองรายได้ดี คืนทุนได้ไม่ยาก 

 

ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/

 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3E8XUFR 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)