เปิดแฟรนไชส์ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฯ ใช้เงินเท่าไหร่
 

นักลงทุนท่านใดที่สนใจแฟรนไชส์ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฯ ไม่ว่าจะเป็น The Pizza Company, Swensen's และ Dairy Queen แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมเงินลงทุนไว้มากน้อยแค่ไหน และแต่ละแบรนด์มีความน่าสนใจอย่างไร วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์ร้านอาหารทั้ง 3 แบรนด์มานำเสนอให้ทราบครับ

 

The Pizza Company 
 

The Pizza Company แฟรนไชส์พิซซ่าอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทย เป็นธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในเครือไมเนอร์ ฟู้ด เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 โดยได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจด้วยการเป็นแบรนด์พิซซ่าระดับโลกจากประเทศไทย ที่ลูกค้ารักและไว้วางใจจากประสบการณ์ที่ประทับใจ 
 

ปัจจุบัน The Pizza Company มีสาขารวมกว่า 480 สาขาทั่วประเทศ และมีเป้าหมายเปิดเพิ่มอีก 40 สาขาในปี 2566 ทั้งสาขาแฟรนไชส์และบริษัท จุดเด่นของ The Pizza Company อยู่ที่การมีสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค เน้นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการการพิซซ่าเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง มีการออกโปรดักส์ใหม่ๆ 1-2 เมนูต่อเดือนจากทีมงานที่แข็งแกร่งด้านการตลาด, R&D และเทรนนิ่งในประเทศไทย
 

รูปแบบและงบการลงทุน The Pizza Company
 

ภาพจาก https://www.facebook.com/thepizzacompany/

1.Full Service Restaurant (200 ตารางเมตร) 

Swensen's 
 

สเวนเซ่นส์ (Swensen's) เป็นแฟรนไชส์ประเภทร้านไอศกรีมและเค้ก มีสาขาทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นโดยมิสเตอร์เอิร์ล สเวนเซ่นเริ่มเปิดตัวร้านไอศกรีมที่ซานฟรานซิสโกในปี ค.ศ. 1948 ยึดหลักการ 3 ประการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือ คุณภาพ ปริมาณ และคุณค่าที่คุ้มค่าเงิน โดยในประเทศไทย บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เป็นบริษัทผู้ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2529 ที่เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว มีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร โดยมีพนักงานเพียง 14 คน
 

นอกจากประเทศไทยแล้ว เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ดำเนินการอีก 32 ประเทศทั้งในเอเชีย และตะวันออกกลาง ปัจจุบันแฟรนไชส์สเวนเซ่นส์มีจำนวนสาขาในประเทศไทย 370 สาขา และมีจำนวนสาขามากกว่า 500 สาขาทั่วโลก
 

 

การฝึกอบรม
 

ในส่วนจำนวนพนักงานในร้านและระยะเวลาการฝึกอบรมแฟรนไชส์ร้านสเวนเซ่นส์ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ 1 คน (8 อาทิตย์), ผู้จัดการร้าน 1 คน (8 อาทิตย์), ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน 2 คน (5 อาทิตย์), พนักงาน 5 คน และพาร์ทไทม์ 20 คน (4 อาทิตย์) 
 

#ระยะเวลาออกแบบตกแต่งร้าน ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง รวมระยะเวลาเซ็นสัญญาด้วยประมาณ 3 เดือน

 

 

Dairy Queen เปิดตัวร้านแรกในปี 1940 ที่เมืองโจเล็ท มลรัฐอิลินอย โดย เจ เอฟ แมคคูลูจ เขาพบว่าไอศกรีมจะมีรสชาติอร่อยขึ้น ถ้าทำให้นุ่ม โดยการผลิตใหม่สดจากเครื่อง ซึ่งทำให้แดรี่ควีนเป็นสูตรที่มีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร จนได้รับการขนามนามว่า “ราชินีของธุรกิจผลิตภัณฑ์นม” แดรี่ควีน เติบโตในเวลาอันรวดเร็ว ปัจจุบันมีกว่า 6,800 สาขาในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ไอศกรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 

บริษัทไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ผู้นำด้านฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทยได้ซื้อลิขสิทธิ์แดรี่ควีน และเปิดร้านแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าวในปี 1996 โดยมุ่งมั่นนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เพื่อให้แดรี่ควีนเป็น “ผู้ให้บริการหน้าเคาน์เตอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย”
 

หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ 4 ปี ในปี 1999 แดรี่ควีนสามารถขยายสาขาร้านได้ถึง 100 สาขา และเริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ในปี 2011 ปัจจุบันร้านแดรี่ควีนในประเทศไทยมีจำนวน 488 สาขาทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นร้านที่บริษัทดูแลเองจำนวน 220 สาขา ส่วนร้านแฟรนไชส์จำนวน 250 สาขา และร้านแดรี่ควีนในสนามบินอีกประมาณ 14 สาขา 
 

นั่นคือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับการลงทุนเปิดร้านไอศกรีมแดรี่ ควีน โดยเปิดร้าน 1 สาขา ใช้เงินประมาณ 3 ล้านบาท แต่ต้องเปิดร้านอย่างน้อย 2-3 สาขา ในจังหวัดที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทแม่แฟรนไชส์
 

 

อ้างอิงข้อมูล
 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)