บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การเริ่มต้นค้าขาย    ความรู้ทั่วไปการค้าขาย
857
2 นาที
25 ตุลาคม 2566
อะไรก็แพง! อาชีพ “พ่อค้าแม่ค้า” ยุคนี้ยังน่าสนใจไหม?
 

ในช่วงหนึ่งที่คนตกงาน มีปัญหาถูกเลิกจ้างอันเนื่องจากโควิด ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกก็มาเป็นพ่อค้าแม่ค้า! ทีนี้พอใครๆก็เลือกมาขายของ ไปเดินตลาดบางทีเจอพ่อค้าแม่ค้ามากกว่าเจอลูกค้าซะอีก ! เหตุผลที่คนตัดสินใจออกมาค้าขายเองมีหลายอย่าง เช่น

  • เบื่องานประจำ
  • อยากมีเวลาที่เป็นอิสระไม่อยากทำงานตามกรอบเวลาเข้าเช้าออกเย็น
  • เงินเดือนไม่พอใช้ทำงานไปก็ไม่มีเงินเก็บ
  • รายได้ไม่พอรายจ่ายได้เงินเดือนละครั้งมันไม่พอกิน
  • อยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง 
  • เห็นคนอื่นขายดีแล้วน่าสนใจอยากลองทำบ้าง
แต่เอาเข้าจริงๆ ปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้ายุคนี้เจอเต็มๆ คือ “วัตถุดิบแพง” ทุกอย่างราคาแพงมาก เมื่อต้นทุนแพงจะมาขายถูกอยู่จะเอากำไรจากที่ไหน แต่ปัญหามันก็ทับซ้อนอีกว่า “ตั้งราคาแพง” คนก็ไม่อยากซื้อ พอ “ตั้งราคาถูก” ตัวเองก็ไม่มีกำไร จึงเป็นสถานการณ์แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดินหน้าก็ไม่ได้ถอยหลังก็ตกเหว 
 
ซ้ำร้ายไปกว่าบางคนตัดสินใจลาออกจากงานทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามาเป็นพ่อค้าแม่ค้าแล้วจะรายได้ดีจริงไหม ถึงขนาดที่บางคนทุ่มเทเงินเก็บก้อนสุดท้ายเอามาเซ้งร้าน เปิดร้าน ทำร้าน ด้วยหวังว่าจะลืมตาอ้าปาก เป็นนายตัวเอง มีรายได้ดีกว่างานประจำแต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้การเป็นพ่อค้าแม่ค้าในยุคนี้ไม่เฟื่องฟูอย่างที่ใจคิดเช่น

  • คู่แข่งเยอะมาก ไม่ว่าจะเลือกขายอะไรก็เจอคู่แข่งเพียบ
  • ต้นทุนแรงงาน วัตถุดิบ ทุกอย่างปรับตัวสูง การกำหนดราคาขายก็ต้องสูงไปด้วย
  • คนไม่ค่อยมีกำลังซื้อเพราะค่าแรงถูก เงินไม่พอใช้ อะไรที่แพงไป คนก็ไม่อยากซื้อ
  • การตลาดออนไลน์ทำให้คนหันไปช็อปปิ้งหรือสั่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องการซื้อสินค้าออนไลน์นี่สร้างการเปลี่ยนแปลงในแวดวงค้าขายไปมาก เดี๋ยวนี้ร้านไหนไม่ปรับตัวเข้าหาออนไลน์อาจพูดได้เลยว่าลำบากแน่ เพราะคุณเชื่อหรือไม่มีข้อมูลน่าสนใจว่าตลาดค้าปลีกออนไลน์ในเมืองไทย มีมูลค่าราว 140,000 ล้านบาท โดยนักช็อปออนไลน์ชาวไทย ทุก ๆ 100 คน
  • 72 คน ซื้อของผ่านเว็บไซต์ หรืออีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee
  • 28 คน ซื้อของบนโซเชียลมีเดีย (Instagram, Twitter , Facebook , TikTok)
และปัจจุบันคนไทยใช้โซเชียลมีเดียกัน มากถึง 52.25 ล้านบัญชี คิดเป็นสัดส่วนถึง 73% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

 
ในขณะที่ คนไทยใช้โซเชียลมีเดียกันเฉลี่ย มากถึง 2 ชั่วโมง 44 นาที ในแต่ละวัน เมื่อช่องทางในการขาย มีทั้งคนเล่นเยอะ ทั้งคนเล่นนาน พอจับมาคูณกัน ก็เท่ากับว่าโอกาสในการขายของจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
 
กลับมาที่คำถามว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้ายุคนี้ยังน่าสนใจไหม? คำตอบคือ “น่าสนใจ” แม้จะมีคู่แข่งเพียบ มีตลาดออนไลน์ที่คนให้ความนิยมสูง แม้วัตถุดิบจะแพง ค่าแรงจะถูก คนไม่อยากจ่ายเงินซื้อของแพง แต่!!!
 
“ถ้าสินค้านั้นคือความต้องการ คือความจำเป็น คือสิ่งที่ต้องใช้ ยังไงคนก็ต้องซื้อ”
 
คำถามอีกเช่นกันว่า “จะหาสินค้าแบบนั้นได้จากที่ไหน” คำตอบคือต้องไปคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ทำแผนการตลาดตัวเองให้ดีก่อนจะเริ่มเป็นพ่อค้าแม่ค้า 

  • ฉันควรขายอะไรที่คนอยากซื้อ เช่น ถ้าเป็นอาหาร ควรเป็นอาหารแบบไหน ถ้าเป็นเครื่องดื่มควรเป็นแบบไหน เป็นต้น
  • ดูทำเลที่จะขายให้มีกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการขาย อย่าคิดว่าจะเปิดแล้วที่ไหนก็ขายได้ขายดี ทำเลเป็นสิ่งสำคัญมาก
  • ค้นหารูปแบบการขายที่สร้างจุดเด่นให้ตัวเอง เพื่อให้คนรู้จัก ให้คนรู้ว่าเราขายอะไร เราทำอะไร
  • การตั้งราคาขายจำเป็นต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการขาย สัมพันธ์กับต้นทุนวัตถุดิบที่ต้องเลือกมาใช้ให้เหมาะสม
  • ตลาดออนไลน์ต้องใช้ต้องมี อย่าคิดว่าสินค้าดีแค่มีหน้าร้านก็จะขายได้ ยุคนี้คิดแบบนั้นไม่พอแล้ว
  • มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ หรือแตกไลน์สินค้าให้เหมาะสมต่อไปในอนาคต
เราเคยเห็นคนทำงานประจำหลายคนที่ผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า มาขายหมูปิ้ง มาขายแซนวิช มาเปิดร้านชานมกาแฟ อะไรเหล่านี้เป็นต้น บางคนรอด บางคนร่วง บางคนบ่นอยากกลับไปทำงานประจำดีกว่า  การจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าหรืออยากมีธุรกิจตัวเอง จะต้องไม่ลืมว่าการทำธุรกิจตัวเองต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เมื่อก่อนทำงานประจำไม่ต้องคิดเยอะไม่ต้องคิดอะไรมาก สั่งอะไรมาก็ทำ งานเลิกก็เลิกกัน รอรับเงินเดือนละครั้ง
 
 
แต่พอมาทำธุรกิจเอง ต้องตื่นตัวตลอดเวลาต้องคิดต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ขายดี ต้องติดต่อต้องพูดคุย ต้องเข้าถึง อะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่มีลูกน้องก็ต้องพ่วงการดูแลพนักงานเข้าไปอีก  ไหนจะการแบกรับปัจจัยเสี่ยงรอบด้านที่จะตามมา แต่ข้อดีที่หากทำได้คือธุรกิจจะสร้างรายได้ที่ดีกว่าทำงานประจำได้แน่ เพียงแค่ไม่ได้มีอะไรง่ายเหมือนที่ใจคิด 
 
หากคิดจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าทุกอย่างต้องเตรียมความพร้อม ต้องมีแผนหลัก แผนสำรอง ดีกว่าการออกมาทำอย่างไร้แบบแผน คิดว่าคนอื่นทำได้ คนอื่นทำแล้วดี แบบนี้ไม่แนะนำ ใครที่ถามว่าพ่อค้าแม่ค้ายุคนี้ยังดีไหม คำตอบก็คือ “ดี” แต่อยู่ที่ว่า “คุณพร้อมแค่ไหน” ต้องสำรวจตัวเองให้ดีถ้ามั่นใจก็เดินหน้าต่อไปได้เลย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สรุปขั้นตอนเปิดร้านในห้าง ใช้เวลาเท่าไหร่
438
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด