บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
279
2 นาที
4 มิถุนายน 2568
ชาจีนเซินเจิ้น Molly Tea ชานมมะลิ 900 สาขาทั่วโลก
 

Molly Tea (โม่ลี่หน่ายป๋าย) แบรนด์ชานมมะลิพรีเมียมเปิดสาขาแรกในเซินเจิ้น ประเทศจีน ปี 2021 โดยมี Zhang Bochung เป็นผู้ก่อตั้ง สามารถขยายสาขาไปแล้วกว่า 900 แห่งทั่วโลกภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี แม้จะเปิดตัวในช่วงการระบาดโควิด-19 แต่ Molly Tea ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกลยุทธ์ที่ผสมผสานความดั้งเดิมและความทันสมัยอย่างลงตัว
 
เอกลักษณ์ของ Molly Tea เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น ใบชาจากภูเขา ดอกมะลิสด และนมโคสดแท้จากฟาร์ม ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมและหอมหวาน มีเมนูเด่น ได้แก่ Premium Jasmine Milk Tea, Snowy Jasmine (ชานมมะลิปั่น) และ Premium Jasmine Oat Milk Tea 
 

ภาพจาก https://www.mollytea.com
 
แบรนด์นำเสนอ "New Chinese Style" เป็นการผสมผสานชาดอกไม้แบบดั้งเดิมของจีนกับนมสดและนมโอ๊ต เพื่อให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการประสบการณ์การดื่มชาที่ทันสมัยและมีสไตล์แบบจีนสมัยใหม่ 
 
จุดเด่นของ Molly Tea ใช้โลโก้และแก้วสีชมพู ขาว ดำ ทำให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่าย มีออกแบบการตกแต่งร้านที่หรูหรา และมีการจัดวางมาสคอตน้อง Molly ไซส์ยักษ์ในร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับแบรนด์
 

ภาพจาก https://www.mollytea.com
 
Molly Tea เริ่มขายแฟรนไชส์ในปี 2023 และสามารถขยายสาขาไปยังเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีน รวมถึงขยายสาขาไปต่างประเทศแห่งแรกที่ฟลัชชิ่ง นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนชาวจีนหนาแน่น โดยปัจจุบันสาขาในนิวยอร์กสามารถทำรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 480,000 ดอลลาร์ ราคาขายอยู่ที่ 6.39-7.80 ดอลลาร์ต่อแก้ว 
 
ช่วงเดือน ต.ค. 2024 แฟรนไชส์ Molly Tea เปิดสาขาแห่งที่ 2 ในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก สามารถทำยอดขายได้กว่า 28,000 ดอลลาร์ในวันแรก และมีรายได้รวมกว่า 82,000 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 3 วัน นับว่าเป็นสถิติยอดขายใหม่สำหรับแบรนด์ชานมจากจีนที่ขยายตลาดในต่างประเทศ 
 

ภาพจาก https://www.mollytea.com
 
สาเหตุที่แฟรนไชส์ Molly Tea บุกเบิกตลาดในตลาดต่างประเทศ โดยเลือกสหรัฐอเมริกา แทนที่จะเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหมือนแฟรนไชส์ไอศกรีมและชา Mixue 
 
เพราะคุณจาง (Zhang) ผู้ก่อตั้งมองว่าสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง และมีการแข่งขันค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับตลาดชาในประเทศอาเซียนที่มีการแข่งขันกันสูง 
 
ปัจจุบันนอกจากแฟรนไชส์ Molly Tea จะขยายสาขาในสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังขยายสาขาไปในแคนาดา ไทย ออสเตรเลีย และอังกฤษ 
 
ในสหรัฐอเมริกาสาขาที่ 2 เปิดตัวเมื่อ 2 ต.ค. 2024 ในซานฟรานซิสโก ทำยอดขายวันแรกได้กว่า 28,000 ดอลลาร์ และมีรายได้รวม 82,000 ดอลลาร์ภายใน 3 วัน นับว่าเป็นการสร้างสถิติยอดขายใหม่สำหรับแบรนด์ชาจากจีนที่ขยายตลาดในต่างประเทศ  
 

ภาพจาก https://www.mollytea.com
 
กลยุทธ์ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ของ Molly Tea จะให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมคุณภาพมาตรฐานและรายได้ของแฟรนไชส์ซี พูดง่ายๆ ว่าแฟรนไชส์ซีต้องมีรายได้และอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ทางแบรนด์จึงต้องระมัดระวังในการขยายสาขา มีความสมเหตุสมลผล ไม่ขายสาขารวดเร็วเกินไป ขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป 
 
โดยในแต่ละปีจะมีผู้สมัครแฟรนไชส์ Molly Tea มากกว่า 10,000 ใบสมัคร แต่ทางแบรนด์คัดเลือกและอนุมัติเพียงแค่ 100 ราย เพื่อต้องการให้เครือข่ายแฟรนไชส์มีคุณภาพมาตรฐาน ถ้าเป็นในประเทศไทยก็เปรียบได้กับแฟรนไชส์กาแฟ "คาเฟ่ อเมซอน" แต่ละเดือนมีคนสมัครแฟรนไชส์กว่า 500 สมัคร แต่ OR อนุมัติเพียงแค่ 500 รายต่อปี 
 

ภาพจาก https://www.mollytea.com
 
ที่สำคัญก็คือ Molly Tea มีการปรับโมเดลร้านให้มีขนาดเล็กลงจากพื้นที่ปกติทั่วไปประมาณ 60 ตารางเมตร เหลือเพียง 35 ตารางเมตร เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและสร้างผลกำไรให้กับสาขาแฟรนไชส์
 
สำหรับในนประเทศไทย แฟรนไชส์ Molly Tea ได้เปิดสาขาแรกที่เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ 3 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 โดยมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมการแสดงสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากศิลปินไทยชื่อดัง เช่น "ปอร์เช่ ธนธรณ์" และ "ชาช่า กนกรักษ์" สาขาที่ 2 เปิดอยู่ที่ One Bangkok และสาขาที่ 3 ชั้น 1 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ขายเมนูราคาเริ่มต้น 110-160 บาท 


ภาพจาก FB : Molly Tea Thailand 
 
สรุป การเข้ามาเปิดตลาดในไทยของ Molly Tea แน่นอนว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชารูปใหม่จากจีนในไทย เพราะที่ผ่านมาแบรนด์แฟรนไชส์ชาจากจีนเข้ามาขยายสาขาในไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น CHAGEE, MIXUE, ChaPanda บางแบรนด์เริ่มขยายเกินศักยภาพ มีร้านห่างกันเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
 
ที่สำคัญพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย ส่วนใหญ่นิยมลองของใหม่ตามกระแส แต่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ความถี่ในการบริโภคชาพรีเมียมลดลงเมื่อเทียบกับแบรนด์ mass ทั่วไป รวมถึงต้องเจอปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยหรือรายได้ครัวเรือนตึงตัว ความพร้อมในการจ่ายของผู้บริโภคเกี่ยวกับ “เครื่องดื่มพรีเมียม” จะลดลงก่อน

แหล่งข้อมูล
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
4 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤษภาคม 2568
1,459
ถอดสูตรบริหารแฟรนไชส์ by The Pizza Company
468
แฟรนไชส์จะไม่ปัง ถ้ายังไม่รู้ 5 เทคนิคปั้นเพจให้..
462
แฟรนไชส์ไก่ทอด Zhengxin Chicken Steak ถึงบุกช้า ..
449
รวม 5 โปรโมชั่นจัดหนัก! แฟรนไชส์ ขายดี ทั้งลดทั้..
402
สมรภูมิไก่ทอดเดือด! แฟรนไชส์จีน-เกาหลี-ไต้หวัน บ..
390
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด