จะเปลี่ยนตัวเองเป็นเถ้าแก่ได้อย่างไร ?

ที่สำคัญที่สุดก่อนเริ่มธุรกิจผู้ที่จะเป็นเถ้าแก่จะต้องเลือกธุรกิจให้ได้ก่อนเสมอ มีความแน่ใจว่าตนนั้นมีคุณลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมด  รวมทั้งทราบว่าธุรกิจที่ตนจะทำนั้นมีปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ และจะต้องศึกษาขนาดตลาดว่ากว้างพอที่จะทำกำไรได้มากหรือน้อยเพียงใด

มีเงินทุนพอเพียง มีพนักงานที่มีทักษะ และมีสารสนเทศที่น่าเชื่อถือและทันสมัยตรงกับความต้องการเพียงใด โดยจะต้องพิจารณาในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1.1  ขนาดตลาด (Market Size) มีนักการตลาดให้ความหมายไว้หลากหลายแต่สรุปว่าคือความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ต้องการซื้อสินค้าที่เราจะขายมากเพียงใด คุณภาพ และปริมาณเท่าใดที่ลูกค้าต้องการ ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างผลกำไรด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการเฉพาะอย่าง

ซึ่งจะสรุปได้ว่าจำนวนลูกค้าที่มีความต้องการสินค้าทั้งหมดในขอบเขตของธุรกิจที่เป็นไปได้จะต้องกว้างพอที่จะช่วยธุรกิจได้เถ้าแก่จะต้องรู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าชอบและไม่ชอบ เพื่อให้บริการมีคุณภาพและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้  และที่สำคัญเราจะขายแข่งกับคู่แข่งได้มากแค่ไหน  ลูกค้าเราจะมีมากหรือน้อยกว่าคู่แข่ง  อ้าว  งงละซิ  มาจะเปรียบเทียบให้ดู  สมมุติว่ามีเทศบาลใจดีเอาเค้กมาแจก 

โดยเอามาวางที่ศาลากลาง  คนไหนชอบกินมาแย่งเอาไป  แย่งได้มากแค่ไหนวิธีใด  แล้วแต่  จะวิ่งมา  ขี่จักรยานมา  เอามีด  ขวาน  ช้อน  เคียวเกี่ยวข้าวได้ทั้งนั้น  เค้กที่ว่านี้คือ  ขนาดตลาด  วิธีการที่มาจะเป็นการวิ่ง  ขี่จักรยาน  คือกลยุทธ์ทางธุรกิจ(Business  Strategy)   ที่จะเข้าถึง  ส่วน  มีดขวาน  ช้อน  เคียวเกี่ยวข้าว  คือกลวิธี(Tactics) ที่จะเป็นเครื่องมือในการให้ได้เค้กมา  แล้วเค้กที่ได้คือส่วนแบ่งการตลาด  หรือที่เรียกทับศัพท์ว่า   Market  Shares   อ่านว่ามาร์เก็ตแชร์   นั่นเอง          

1.2.   ความเพียงพอของเงินลงทุน (Money)  เงินทุนเป็นหัวใจที่สำคัญในการเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจ การเริ่มต้นธุรกิจด้วยการขาดเงินทุนจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสำเร็จเพราะเงินทุนไม่เพียงพอในการเริ่มทำธุรกิจเพราะถ้าไม่มีเงินทุนไหลเวียนเพียงพอก็จะทำให้เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เถ้าแก่ต้องแก้ปัญหาเบื้องต้นทำได้

โดยการกู้จากแหล่งเงินกู้นอกระบบ  ธนาคาร ญาติพี่น้องอาเฮียอาซ้อ  อาปา  อาเจ็ก หรือสถาบันการเงินอื่นๆ การวางแผนการเงิน จะทำให้สามารถประมาณการได้ว่าจะต้องจัดหาปริมาณเงินทุนเท่าใด  ถ้าได้มาแล้วอย่าลืมแยกมันออกจากกระเป๋าสตางค์ส่วนตัวด้วยแล้ว  เรียกมันว่า  เงินทุนของกิจการ

1.3 การสรรหาและคัดเลือกพนักงานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ(Man) การสรรหาและคัดเลือกลูกจ้าง  หรือลูกน้องที่มีความสามารถเอาไว้และมีการสร้างขวัญและกำลังใจให้พวกนี้เพราะลูกน้องแต่ละคนมีนิสัยใจคอต่างกัน(จะกล่าวอย่างละเอียดในบทที่หก)  มีความต้องการอะไร ๆ  จากเถ้าแก่มากมายแน่ละ  เถ้าแก่จะต้องสนองความต้องการอย่างสม่ำเสมอที่แน่ ๆ  พวกเขารอการขึ้นเงินเดือน  ถ้าขึ้นทุกเดือนยิ่งดี  เชื่อไหม 

แต่อย่าตามใจมากและ  ถึงแม้ว่าองค์ความรู้แบบนี้มีสอนและมีหนังสือมากมายที่มีทั้งผู้เขียนสัญชาติไทยและเทศที่รู้จักในนามการจัดการทรัพยากรมนุษย์หรือการบริหารงานบุคคล  ฯลฯแล้วแต่เขาจะเรียก  มีผู้เชี่ยวชาญมากมายเขียนเป็นทฤษฎีมากมายให้นักศึกษาได้เรียนกัน  สอบกันท่องกันเป็นว่าเล่น  แต่จะต้องรู้ด้วยว่าเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น  เพราะเรื่องของคนเข้าใจยาก  คนมีหลายประเภทต่างจิตต่างใจและนิสัยใจคอพวกเขาอาจไม่เหมือนกับทฤษฎีบทต่าง ๆ  ที่ว่าไว้ 1.4 มีเครื่องจักรที่จำเป็น  มีคุณภาพ  พร้อมใช้งาน (Material)  ธุรกิจบางธุรกิจมีความจำเป็นในการใช้เครื่องจักร  ตลอดจนเครื่องมือที่ทันสมัย  มีคุณภาพ  และสามารถใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ อีกทั้งควรมีวัสดุอุปกรณ์ที่พรั่งพร้อม  เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ  เพราะถ้าเมื่อเถ้าแก่ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตด้วยยิ่งต้อง  มีเครื่องจักรที่สามารถช่วยในการผลิตสินค้าให้ทันกับคำสั่งซื้อแบบที่เรียนกันจนติดปากว่าตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ทันเวลาหรือ  Quick  Responses นั่นเอง

1.5. การได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้อง (Information) มีนักวิชาการหรือวิทยากรตามสถาบันฝึกอบรมชอบกล่าวว่า “เถ้าแก่ที่เก่งจะต้องมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจของตนเองก่อนดำเนินการเสมอ  จะต้องรู้ว่าความต้องการของตลาด มีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร ประเภทสินค้าหรือ Product Category 

มีแนวโน้มจะเติบโตได้มากแค่ไหน จะตอบโจทย์ของลูกค้าได้แค่ไหน” อะไรทำนองนี้ผู้ฟังบางคนที่เรียนมาน้อยหรือไม่ได้เรียนมาทางการค้าเรียนช่างไฟฟ้าช่างซ่อมนาฬิกา ช่างตัดผม ไม่ค่อยจะรู้กับเขาหรอก  ที่แท้จริงความหมายเขาพูดคือว่า  ขอให้หมั่นหาข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าว่ามีต้องการอะไรจากตัวสินค้าและอยากรับบริการอะไร  จะหาจากไหน  และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเป็นไง

มีอะไรบ้างที่จะมามีผลกับกิจการการค้าที่เถ้าแก่ทำอยู่  จัดหาข้อมูลที่ต้องการทราบไว้ได้ง่ายถ้าเถ้าแก่ชอบอ่าน  หรือฟังข่าวในตอนเช้าหรือเย็นจะเป็นการดีสำหรับกิจการ ทำให้การได้มาซึ่งข้อมูลหรือสารสนเทศที่เที่ยงตรงและง่ายที่สุด            
นอกจากนี้เถ้าแก่ยังสามารถดำเนินการได้โดยง่าย ตั้งแต่การใช้ห้องสมุดในท้องถิ่นจนถึงการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษา ยิ่งได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากเท่าไหร่ ก็จะสามารถตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น  และจะต้องมีการควบคุม การดำเนินการ  หาแหล่งผลิตหรือหาแหล่งที่ซื้อของสินค้ามาเพื่อขาย การตั้งราคาและจะสื่อสารกับลูกค้าในตลาดได้อย่างไรให้ลูกค้าหมดข้อสงสัย

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจในการดำเนินงานเช่นตัวเลขราคาต้นทุนของสินค้าแต่ละประเภท  ต้นทุนค่าขนส่งรายชื่อบริษัทขนส่ง  รายชื่อ ซับพลายเออร์  (Suppliers) รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับซึ่งถ้ามีการรวบรวม แยกแยะ จัดหมวดหมู่  ประมวลผลจนเป็นสารสนเทศที่มีความน่าเชื่อถือ  เที่ยงตรง  ทันต่อความต้องการ

อ้างอิงจาก  tpa.or.th