บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
2.3K
2 นาที
4 เมษายน 2559
ส่อง 3 ธุรกิจ SMEs โตสวนกระแส!

ช่วงนี้จะลงทุนอะไรสักอย่างต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ในเมื่อเศรษฐกิจไม่คล่องตัวดังใจคิด กำลังซื้อก็ไม่แน่นอน ถึงขนาดที่หลายคนมองว่าควรจะชะลอเรื่องการลงทุนกันไปก่อนเลยดีกว่า
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่อยู่ในแวดวงของธุรกิจอาชีพกลับมองว่าในวิกฤติก็ยังมีโอกาส ไม่ใช่ทุกอาชีพที่จะต้องชะลอตัวลงไป บางธุรกิจถ้าเริ่มต้นกันได้อนาคตก็มีทิศทางที่สดใสรออยู่
 
และนี่คือ 3 ธุรกิจที่พร้อมจะสวนกระแส แม้บางงานอาจจะต้องใช้เงินลงทุนมากสักหน่อยแต่มองผลดีในระยะยาวแล้วการันตีว่าถ้าบริหารจัดการดีๆคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน
 
1.ธุรกิจการก่อสร้าง

หลายคนอาจจะมองว่านี่คือการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินและความสามารถรวมถึงต้องมีประสบการณ์ในสายงานอย่างโชกโชน แต่ถึงแม้ข้อจำกัดต่างๆจะมีมากแต่เมื่อมองดูภาพรวมของเศรษฐกิจแล้วถือว่า ธุรกิจนี้น่าจะเติบโตอย่างสดใสที่สุด
 
ยิ่งการเปิดประเทศเป็น AEC ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนก่อสร้างในปี 2559 น่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6  และแม้จะต้องสู้กับภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นแต่เมื่อดูรายรับจากงานที่น่าจะมีการก่อสร้างทั้งตึก ถนน ที่พักอาศัย เพิ่มอีกเป็นจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้หักลบกลบนี้แล้วก็น่าจะเป็นกำไรได้ค่อนข้างมาก 
 
อย่างไรก็ดีผู้ที่คิดจะทำธุรกิจนี้ไม่จำเป็นต้องมองที่งานใหญ่เพียงอย่างเดียวกับงานปลูกสร้างแบบทั่วไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเป็นผู้รับเหมารายย่อยแต่ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมารายใหญ่หรือรายย่อยสิ่งที่ควรรู้ไว้หากคิดจะทำธุรกิจประเภทนี้คือ
  1. ต้องรู้จักเลือกเจ้าของงานโดยเช็คจากประวัติการว่าจ้างจากผู้รับเหมารายก่อนๆว่ามีประวัติไม่ดีในเรื่องการเบิกจ่ายหรือไม่
  2. ต้องมีความสามารถในการคำนวณต้นทุนรายรับรายจ่ายเพราะถือเป็นหัวใจของธุรกิจนี้ ที่สำคัญเมื่อรับงานแล้วต้องรักษาคุณภาพเนื้องานต้องตามตกลงโดยที่ผู้รับเหมาได้ประโยชน์ด้วย
  3. นี่คือธุรกิจที่มีการเริ่มต้นสูงและควรมีเงินหมุนเวียนในระบบอีกไม่น้อยกว่า 30% เพื่อเอาไว้ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ
ปัจจัยอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีรายละเอียดอีกพอสมควรแต่หลักใหญ่ใจความคือความรู้และความสามารถเฉพาะตัวรวมถึงไหวพริบที่ดีเพราะงานประเภทนี้ประสบการณ์ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น
 
2.การขายของออนไลน์
 
มีการประเมินเบื้องต้นว่ามูลค่าการค้าผ่านระบบออนไลน์ในปีนี้จะมีอัตราเติบโตถึง 3.65 %  อันเนื่องมาจากวิวัฒนาการด้านการสื่อสารที่เปลี่ยนรูปแบบทันสมัยมากขึ้น

ผู้คนเองก็เริ่มหันมาสนใจการค้าออนไลน์ตามแบบอย่างชาติตะวันตกมากขึ้นทุกที ส่งผลให้ผู้ประกอบการขายของออนไลน์เพิ่มขึ้นจำนวนมากในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
 
และถ้าคิดจะทำธุรกิจนี้ก็ต้องรู้จักจับกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้องเพื่อเลือกสินค้าได้อย่างเหมาะสม โดยสินค้าที่ครองยอดขายอันดับ 1 คือสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที อันดับ 2 คือเครื่องสำอาง แฟชั่น และความงาม  อันดับ 3 คือกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน       
      
ทั้งนี้เรื่องเทคนิคก็เป็นสิ่งสำคัญเรื่องที่ควรรู้หลายประการเพื่อให้การเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ผลดีที่สุดคือ
  1. ต้องรู้จักการใช้ระบบเครือข่ายและคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  2. สร้างเอกลักษณ์และการจดจำให้เร็วที่สุด
  3. การจัดส่งสินค้าและบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลเรื่องรายได้พบว่าผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยการวางแผนอย่างเป็นระบบและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนเกินกว่า 5,000 บาท/เดือน ถือเป็นธุรกิจสวนกระแสที่ต้นทุนน้อยแต่มีกำไรแน่ๆขอแค่แนวทางในการบริหารจัดการที่ดีๆเท่านั้นเอง

3.ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

นี่อาจจะเป็นเทรนด์อาชีพมาใหม่ที่น่าสนใจมาก ด้วยแนวโน้มของประชากรผู้สูงวัยที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยมีคนอายุเกินกว่า 65 ปีเพียง 840,000 คนคิดเป็นแค่ 9 % ของประชากรทั้งประเทศ ในปีที่ผ่านมากลับมียอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเกินกว่า 5,000,000 คนและยังมีแนวโน้มว่าจะสูงได้ถึง 27  ล้านคนในอีกเกือบ 10 ปีข้างหน้า 
 
เมื่อเป็นเช่นนี้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลผู้สูงอายุจึงเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกันจากการศึกษาเรื่องสถานดูแลผู้สูงอายุระยะยาวโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ระบุว่า พบว่าในเขต กทม. มีจำนวนสถานบริการสูงสุดจำนวน 68 แห่ง ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการที่จะมากขึ้นในอนาคต                      
 
และคนที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ต้องเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง เช่นการดูแลและบริการรวมถึงการช่วยเหลือผู้สูงอายุในลักษณะต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการอบรมและมีใบอนุญาตสำหรับผู้ที่อยากเปิดกิจการประเภทนี้

นอกจากนี้การลงทุนในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือที่จำเป็นต่างๆ ก็มีความสำคัญมากดังนั้นต้นทุนในการเริ่มธุรกิจจึงค่อนข้างสูงมากแต่มองดูรายได้แล้วระยะยาวก็มีความสดใสไม่น้อยทีเดียว
 
การคิดค่าบริการในธุรกิจประเภทนี้จะเริ่มตั้งแต่ 12,000 – 20,000  บาท/เดือน/คน ยิ่งถ้าเป็นสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือมากคนที่ใช้บริการก็จะยิ่งมาก อาจจะได้ทั้งแบบรายวันและรายเดือน เฉลี่ยต่อเดือนก็มีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 500,000-600,000 บาท ขึ้นอยู่กับการประชาสัมพันธ์และคุณภาพในการบริการเป็นสำคัญ
 
เรียบเรียงโดย ThaiFranchiseCenter.com
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
712
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
528
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
446
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด