ว่ากันว่า กว่าที่ผู้ประกอบการธุรกิจจะสามารถบริหารธุรกิจจนเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ถ้าธุรกิจไม่มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของระบบแฟรนไชส์ มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก 
 

แต่ธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทไหน ที่มีระบบการบริหารที่เป็นไปตามมาตรฐานแฟรนไชส์ มีผลกำไร ธุรกิจมีโอกาสเติบโต และเป็นธุรกิจที่อยู่ในความต้องการของตลาด ย่อมมีผู้ที่สนใจมาซื้อแฟรนไชส์ไปลงทุนอยู่แล้ว แต่วิธีการที่จะได้ลูกค้าที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ของคุณไป อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะอยู่ดีๆ คุณให้ลูกค้าลองชิม แล้วขายแฟรนไชส์ให้เลย คงไม่ใช่
 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้มีวิธีการหรือช่องทางในการหาลูกค้า ที่สนใจจะมาซื้อแฟรนไชส์ มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ทุกท่าน ที่กำลังเปิดขายระบบแฟรนไชส์ และต้องการหาลูกค้าที่จะมาซื้อแฟรนไชส์

1. Advertising
 

ผู้ประกอบการธุรกิจที่เข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ใหม่ๆ อาจใช้ช่องทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ระบบธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ ให้ลูกค้าทั่วไปได้รู้จัก เพื่อสร้างความคุ้นเคยในแบรนด์ ตัวสินค้าหรือบริการ เวลาที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อโปรโมทแฟรนไชส์ ก็จะเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น  
 

 

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะโฆษณาธุรกิจผ่านสื่อต่างๆ อาทิ อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ โบชัวร์ การส่งอีเมล์ เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค เป็นต้น ซึ่งวิธีการโฆษณาผ่านสื่อ ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ต้องเลือกใช้สื่อให้เป็น เพื่อเข้าถึงและตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง คุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลา 
 

 

ยกตัวอย่าง เว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ศูนย์รวมธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใหญ่สุดในไทย มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ เข้ามาดูแบรนด์แฟรนไชส์ต่างๆ ที่น่าสนใจจำนวนมาก เกือบ 2 ล้านเพจวิวต่อเดือน เพราะมีระบบข้อมูลแฟรนไชส์ในแต่ละประเภท แยกเป็นหมวดหมู่ ให้ผู้สนใจที่เข้าชม เข้าใจง่าย มีการอัพเดทข้อมูลแฟรนไชส์ใหม่ๆ เป็นประจำทุกวัน ซึ่งสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  https://www.thaifranchisecenter.com/home.php

 

 

 

การออกบูธงานแสดงสินค้า ถือเป็นการโปรโมทธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณได้ดีทีเดียว ได้รับความนิยมจากเจ้าของแฟรนไชส์จำนวนมาก เพราะงานแสดงสินค้าแต่ละงานมีทีมประชาสัมพันธ์ที่ช่วยโปรโมทให้คนมาเดินในงานเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว นั่นจึงเป็นข้อดี เมื่อมีคนมาเดินงานแสดงสินค้าจำนวนมากๆ ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณก็จะเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นไปด้วย 
 

 

แต่หัวใจสำคัญในการออกบูธ คุณต้องเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งทีมงาน ข้อมูลแฟรนไชส์ สินค้าหรือบริการ โบชัวร์ พริตตี้ นามบัตร หรืออะไรก็ได้ที่จะต้องเตรียมไป เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก ได้สัมผัสกับธุรกิจแฟรนไชส์คุณ รวมถึงต้องเก็บรายละเอียดข้อมูลของลูกค้าให้ได้มากที่สุด มีการประเมินผล นัดหมายเพิ่มเติมภายหลัง
 

ผู้ประกอบการแฟรนไชส์รายใด สนใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้า งานออกบูธ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/event/index.php

 

การจัดสัมมนาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ จะสามารถหาลูกค้าที่สนใจมาซื้อแฟรนไชส์ได้ เพราะการจัดงานสัมมนาเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งการจัดสัมมนาธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องมีหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด โอกาสของธุรกิจแฟรนไชส์

 

ยิ่งถ้าแบรนด์แฟรนไชส์ของคุณประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้าง คุณอาจได้รับเชิญไปพูดบนเวทีสัมมนาก็เป็นได้ นับเป็นการโปรโมทระบบแฟรนไชส์ของคุณได้เป็นอย่างดี 
 

 

อีกทั้งถ้างานสัมมนาไหน ที่บริษัทของคุณร่วมเป็นสปอนเซอร์ด้วยแล้ว คุณก็สามารถนำสินค้าหรือบริการของคุณ หรือไปจัดร้านต้นแบบ ออกบูธ จัดโชว์ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ได้สัมผัสกับระบบแฟรนไชส์ของคุณ   
 

เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หรือผู้ที่สนใจทั่วไป ที่อยากเข้าร่วมงานอบรม สัมมนา เพื่อสัมผัสบรรยากาศ เป็นอีกช่องทางหาลูกค้า มีงานสัมมนาดีๆ ทั่วไทย ดูเพิ่มได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/seminar/index.php

 

ภาพจาก facebook.com/aromathailand
 

เป็นลักษณะของการจัดกิจกรรม ประชุม พบปะ สังสรรค์ แบบใกล้ชิดกันแบบกลุ่มย่อย จำนวนคนไม่มาก ผู้ที่จะมาร่วมงานต้องเป็นผู้ที่สนใจในธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทนี้จริงๆ เพราะในงานจะมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท รูปแบบการดำเนินธุรกิจ แนวโน้มของธุรกิจ สินค้าหรือบริการ โอกาสของธุรกิจแฟรนไชส์นั้นๆ ขั้นตอนการก้าวสู่ระบบแฟรนไชส์ 
 

นอกจากนี้ในงานรูปแบบของร้าน และการตกแต่งร้านต้นแบบให้กับผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ได้สัมผัสจริงๆ จำลองการขายจริงๆ ตรงนี้จะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากซื้อแฟรนไชส์ เพราะได้มองเห็นโอกาสธุรกิจ    

 

 

ภาพจาก FLAThailand
 

ปัจจุบันวิธีการนี้เริ่มได้รับความนิยมจากธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เห็นภาพ ได้เห็นบรรยากาศ ได้สัมผัส กับระบบธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณ ได้เห็นระบบการบริหารธุรกิจ ระบบปฏิบัติการ บุคลากร โปรแกรมการฝึกอบรม รวมถึงระบบไอทีที่คอยสนับสนุนให้ระบบแฟรนไชส์เติบโต มีมาตรฐานเดียวกัน
 

พูดง่ายๆ คือ การเปิดบ้านให้เยี่ยมชมธุรกิจ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ให้เกิดขึ้นกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย บางครั้งลูกค้าได้ทดลองปฏิบัติ ได้ชิม ได้เห็นระบบที่มีการขยายตัวรวดเร็ว ถ้ามองว่าเป็นโอกาส ก็อาจซื้อแฟรนไชส์จากคุณก็ได้ 
 

ภาพจาก FLAThailand 

ยกตัวอย่าง แฟรนไชส์ N&B แพนเค้ก ถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ที่หันมาใช้วิธีการ Open house ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ N&B ได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท ศึกษาระบบแฟรนไชส์ การฝึกอบรม ระบบไอที รับทราบข้อมูลธุรกกิจแฟรนไชส์ 
 

ทั้งหมดเป็น 5 วิธีการ หรือช่องทางในการหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ทุกท่าน สามารถศึกษารายละเอียด และนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับระบบธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณได้นะครับ