ศึกแสตมป์ เซเว่น Vs โลตัส
 

กลายเป็นแคมเปญคู่บุญสำหรับห้างค้าปลีกร้านสะดวกซื้อไปแล้วสำหรับ “แสตมป์” ที่กลายเป็นหมัดเด็ดในช่วงโลซีซั่นในช่วงนี้ จากในตอนแรกผู้นำตลาดอย่างเซเว่นเป็นผู้ทำแคมเปญอยู่รายเดียว แต่ภายหลังได้เพิ่มการแข่งขันมากขึ้นเมื่อมีผู้เล่นรายอื่นลงมาทั้งเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และแฟมิลี่มาร์ท

 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าแคมเปญ “แสตมป์”นี้จะเป็นการกระตุ้นยอดขายที่ดีเป็นอย่างมากซึ่งทางเซเว่นเองก็มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นแทบจะทุกปีส่วนหนึ่งก็เพราะเทคนิคการตลาดที่เข้ามาสร้างสีสันให้คนจดจำได้อย่างต่อเนื่อง การแจกแสตมป์ถ้านับรวมระยะเวลานี่ถือเป็นปีที่ 15 ที่แคมเปญนี้เริ่มมีอิทธิพลต่อคนซื้อจากเซเว่น ตามมาด้วยโลตัส และร้านสะดวกซื้ออื่นๆที่เข้ามาบ้างในบางปี

 

ลองมาดูการจัดหนัก จัดแจกโปรโมชั่นปีนี้ว่า 2 ค่ายร้านสะดวกซื้อที่งัดกลยุทธ์นี้มาใช้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

ในปีนี้การแจกแสตมป์จากฝั่งของเซเว่นดูจะจัดหนักกว่าที่ผ่านมา ที่เห็นเด่นชัดคือการดึงเอา ณเดชน์และญาญ่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในคราวนี้เพื่อจุดกระแสโปรโมทจากที่เคยโด่งดังให้ดังเป็นพลุแตกยิ่งขึ้น ในส่วนของแสตมป์เองจากที่เคยใช้มาหลายเวอร์ชั่นในปีนี้เลือกใช้คาแรคเตอร์ของ “ไลน์เฟรนด์” จากแชตแอปพลิเคชั่นไลน์ นำทัพโดยบราวน์ โคนี่ แซลลี่ มูน เจมส์ เป็นต้น
 

 

 

ช่วงระยะเวลาแคมเปญของเซเว่น มีการแจกแสตมป์ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 25 พฤศจิกายน และแลกของพรีเมียมได้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 เป็นระยะเวลามาตรฐานของเซเว่นเป็นประจำทุกปี
 

 

แต่ใครใช้แอพ 7- eleven เวอร์ชั่นใหม่ ผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS ก็จะรู้อยู่ดีแล้วว่า เอกลักษณ์ที่ทำให้แสตมป์เซเว่นนั้นแรงกว่าทุกค่ายคือการแจกที่ได้ทั้งจากการซื้อของและอยู่ในระบบของ M-stamp ซึ่งวิธีการได้แสตมป์นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่ซื้อสินค้าให้ครบ 50 บาทจะได้รับแสตมป์มูลค่า 1 บาท 1 ดวง
 

 

แต่หากต้องการรับเป็น M-stamp จะต้องยื่นบาร์โค้ดให้พนักงานสแกนก่อนชำระสินค้า นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าร่วมรายการที่ทำให้มีโอกาสได้รับแสตมป์เพิ่ม ซึ่งของรางวัลว่ากันตามจริงปีนี้มีแบ่งเป็น 2 รอบซึ่งรอบแรกหมดเขตในวันที่ 25 กันยายน ส่วนเซตที่ 2 นั้นเริ่มตั้งแต่ 26 กันยายนไปจนถึง 15 ธันวาคมกันเลยทีเดียว
 

 

 

แน่นอนว่ากระแสปีนี้ถือว่าแรงไม่แพ้ทุกปีเพราะนี่คือโปรโมชั่นที่ลูกค้าหลายคนเฝ้าตารอคอยกันอย่างใจจดจ่อถามว่าการแลกสินค้าพรีเมี่ยมจากการสะสมแสตมป์นั้นคุ้มค่าแค่ไหน ในเชิงการค้าบอกว่าเก็บเงินซื้อเอาเองยังดีกว่าแต่ถ้าคิดในแง่ของคนที่ต้องซื้อสินค้าเซเว่นเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนการสมนาคุณที่บางครั้งก็ดึงดูดใจให้คนสนใจในแบรนด์ของเซเว่นได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายทีเดียว

 

 

 

ส่วนทางด้านของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีการบุกตลาดด้วยแคมเปญแสตมป์ตลอดทั้งปี เรียกว่าจบแคมเปญหนึ่งต่อด้วยแคมเปญหนึ่งทันทีเลยทีเดียว และมีการใช้คาแร็กเตอร์ที่หลากหลายทั้งบีดั๊ก, มิกกี้เมาส์, ซูเปอร์ฮีโร่ และสนูปปี้
 

 
 

แต่ที่เป็นคาแร็กเตอร์คู่บุญกับเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสมากที่สุด เห็นจะเป็น “โดราเอมอน” ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่แคมเปญ เทสโก้จะต้องนำกลับมาคัมแบ็กเป็นประจำทุกปี โดยที่มีของพรีเมียมที่แตกต่างกันออกไป

ในปีนี้เทสโก้ก็นำโดราเอมอนมาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพราะด้วยความที่เป็นคาแร็กเตอร์ที่แมสมากที่สุด เข้าถึงได้คนทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย จึงกลายเป็นคาแร็กเตอร์อันดับหนึ่งของเทสโก้
 

 

 

แคมเปญแสตมป์ของเทสโก้ในปีนี้จะวางช่วงระยะเวลาที่แตกต่างจากของเซเว่น โดยการเริ่มก่อนสักระยะหนึ่ง แต่มีระยะเวลาที่สั้นกว่า มีระยะเวลาสะสมแสตมป์ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม – 12 ตุลาคม และแลกของพรีเมียมตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม – 19 ตุลาคม 2559

 

ในส่วนของกระแสนั้นมีหลายคนพูดว่าเทคนิคการทำตลาดเช่นการแจกหนักแสตมป์กับสินค้าที่ร่วมรายการบางทียังไม่สัมพันธ์กันเช่น สินค้าติดป้ายแจกแสตมป์ 5 ดวง แต่ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าต้องซื้อกี่ชิ้น กี่บาท บางครั้งจึงทำให้ผู้บริโภคที่มีความตั้งใจจะได้แสตมป์นั้นกลับไม่เป็นอย่างที่คิดและอีกหนึ่งอย่างคือจำนวนแสตมป์ที่ใช้แลกของพรีเมี่ยมแม้จะปรับลดลงมาให้ใช้จำนวนน้อยลงแต่ก็ยังมากในความรู้สึกของบางคน

แต่สิ่งที่ดูจะเหนือกว่าและน่าสนใจคือสินค้าพรีเมี่ยมที่ปีนี้เป็นของน่าสนใจหลายรายการไม่ว่าจะเป็นกล่องเหล็กเอนกประสงค์ที่แข็งแรงทนทาน หรือที่นอนรูปโดราเอมอนซึ่งก็น่าสะสมแสตมป์เอาไปแลกเป็นอย่างมาก
 

 

 

นอกเหนือจาก 2 ค่ายร้านสะดวกซื้อแล้วที่เห็นจะมีแคมเปญสะสมแสตมป์ก็คือด้านซุปเปอร์สโตร์ชั้นนำอย่าง บิ๊ก C ที่เริ่มการสะสมแสตมป์ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมและสามารถแลกสินค้าพรีเมี่ยมได้ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยกำหนดกติกาคือซื้อครบทุก 300 บาทได้รับแสตมป์ 1 ดวง เป็นการปรับลดจากเดิมที่ต้องซื้อสินค้าถึง 500 บาทจึงจะมีสิทธิ์ได้รับแสตมป์

และแน่นอนว่าสินค้าพรีเมี่ยมของบิ๊ก C ยังคงเป็นชุดเครื่องครัวคุณภาพสูงจากเยอรมันนี ส่วนกระแสความคุ้มค่านั้นถ้ามองในแง่ผู้ซื้อรายย่อยอาจมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ของพรีเมี่ยมนี้แต่ในส่วนผู้ประกอบการ ร้านค้าอาจเป็นโอกาสดีที่การซื้อของจะมีโอกาสได้รับของรางวัลจากการสะสมแสตมป์มากขึ้นด้วย
 

 

 

และเชื่อได้อีกเช่นกันว่าแคมเปญการแจกแสตมป์แลกของพรีเมี่ยมนี้จะกลายเป็นโปรโมชั่นหลักสำหรับการกระตุ้นยอดขายที่ต้องมีมาเป็นประจำทุกปี การแข่งขันต่อจากนี้คือระบบการแจก ของรางวัลที่ดึงดูดใจ ร่วมถึงการโปรโมทในช่องทางต่างๆ เหมือนเป็นผลพลอยได้ที่การแข่งขันยิ่งสูงผู้บริโภคยิ่งได้ประโยชน์แต่ถ้าคิดในอีกแง่

บางครั้งการหลงใหลไปกับแคมเปญเหล่านี้อาจทำให้เราเสียเงินซื้อสินค้ามากเกินความจำเป็น ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณให้ดี แคมเปญต่างๆ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่เราควรรู้จักการใช้เพื่อให้ได้รับประโยชน์เต็มที่และดีที่สุดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย