บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    Startups    การพัฒนาและการออกแบบ
2.0K
2 นาที
12 ตุลาคม 2559
3 สิ่งที่ต้องคิด เมื่อเห็นธุรกิจเขาดัง และอยากทำตาม


 
ปัจจุบันกระแสของธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่โด่งดังในระดับโลกโดยเฉพาะในแวดวงของ IT

ที่บางคนมองว่าการลงทุนไม่สูงมากอาศัยความรู้ทางเทคนิค ประกอบกับมีช่องทางการตลาดที่ดี น่าจะเป็นธุรกิจที่ทำตามได้ง่ายจนถึงขนาดบวกลบคูณหารจากธุรกิจของ IT Startup ที่คิดตรรกะแบบง่ายๆคือ “ลองทำได้สัก1 ใน 1000 ของเขา เราก็รวยแล้ว” 
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งผู้รู้ในแวดวงของธุรกิจย้ำไว้ชัดเจนว่า “เห็นเขาทำแล้วได้ดี แต่อย่าคิดเลียนแบบเป็นอันขาด” แน่นอนว่าเมื่อถูกเบรกความคิดจนตัวโก่งขนาดนี้หลายคนต้องมีคำถามในใจก็คือ ทำไม? และ ทำไม?
 
Stefano Bernardi กูรูแห่งวงการกองทุนก่อตั้งธุรกิจใหม่ ยกตัวอย่างให้เห็นว่าธุรกิจไอทีระดับโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างเช่น Google Search, Facebook, Instagram หรือแม้กระทั่ง Line ลองสังเกตให้ดีว่าธุรกิจเหล่านี้มักจะมี “ผู้ชนะเพียงรายเดียว”

นั้นคือการรวบตลาดเอาไว้เกือบทั้งหมด บิ๊กเนมเหล่านี้มักไม่แบ่งก้อนเค้กให้คนที่อยาก “ก็อปปี้”  นี่คือตลาดที่ Stefano Bernardi ฟันธงเลยว่า “รายใหม่ไม่ควรอาจหาญวัดรอยเท้าเด็ดขาด!”
 
และต่อไปนี้ก็คือสาเหตุว่าทำไมเราถึงไม่ควรคิดทาบรัศมีของธุรกิจไอทีระดับโลกเหล่านี้เด็ดขาด
 
1.เว็บและแอพฯ เหล่านี้เขามีฐานข้อมูลผู้ใช้ที่ใหญ่มากอยู่แล้ว และมันก็เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเขา ที่จะเพิ่มฐานผู้ใช้ใหม่ๆ โดยเปลี่ยนภาษาไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ นั้น กว่าจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สร้างการยอมรับจากผู้ใช้ สร้างนิสัยการใช้งาน สะสมจำนวนผู้ใช้ให้มากพอ ฯลฯ ก็ต้องลงทุนกันสูงมากๆ ทั้งเงินทั้งเวลา แถมยังไม่มีอะไรการันตีด้วยว่าจะทำสำเร็จรึเปล่า
 
2.ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกว่าบริการของเจ้าตลาดเดิมก็ดีอยู่แล้ว คุณคิดว่าพวกเขาจะมาลองใช้ ‘ของใหม่ที่เหมือนกัน’ ไปเพื่ออะไร? ยกตัวอย่างเช่น บริการของ Google Plus ที่แม้ว่าจะลงทุนไปมหาศาล ถึงตอนนี้ก็ยังเงียบเหงาเศร้าสร้อย และถูกเจ้าตลาดอย่าง Facebook ทิ้งห่างชนิดไม่เห็นฝุ่นอยู่ดี
 
3.ธุรกิจเหล่านี้มักจะไม่สนใจในการซื้อกิจการของบริษัทเล็กๆแต่กลับดิ้นรนไปขอซื้อกิจการที่ทำในสิ่งที่ต่างออกไป  ทั้งนี้ก็เพื่อจะมาเสริมกำลัง เสริมทัพ หรือเพื่อขจัดคู่แข่งในอนาคต ดังเช่นในกรณีที่ Facebook เข้าซื้อธุรกิจของ Instagram ตั้งแต่ในช่วงตั้งไข่ เป็นต้น
 
แต่ทั้งนี้ใครที่บอกว่างานนี้อยากจะทำธุรกิจแบบนี้จริงๆ ก็ยังพอมีทางออกเล็กๆ อยู่ 3 ทางคือ
 
1.ทำเว็บหรือแอพฯ ที่มีข้อจำกัดทางกฏหมายหรือมีการควบคุมเฉพาะในแต่ละท้องถิ่น 

อาทิเช่น Stripe หรือ iZettle ที่ต้องอิงกับระบบการเงินการธนาคาร หรืออย่าง Uber ที่ต้องอิงกับกฏหมายท้องถิ่นและระบบราชการที่ไม่เหมือนกัน ในกรณีเช่นนี้การที่เราจะสร้างเว็บหรือแอพฯ อันใหม่ขึ้นในประเทศของเรา ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
 
2.ทำเว็บหรือแอพฯ ที่ต้องทำข้อตกลงกับผู้ประกอบการท้องถิ่นจำนวนมาก

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเห็น Opentable หรือ TaskRabbit ประสบความสำเร็จในเมืองนอก แล้วเราอยากจะทำตามบ้าง ในกรณีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ เพราะโมเดลของธุรกิจนี้จำต้องติดต่อกับคนท้องถิ่นจำนวนมาก ซึ่งการเป็น ‘คนใน’ ก็ย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้วที่สำคัญหากเราทำได้ดีก็มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทข้ามชาติจะมาขอซื้อกิจการต่อจากเราเพราะยังไงมันก็ง่ายกว่าการที่บริษัทเหล่านั้นจะมาลงทุนเองยกตัวอย่างเช่นกรณีของ LivingSocial ที่เข้าซื้อธุรกิจ Ensogo เป็นต้น
 
3.ทำเว็บหรือแอพฯ ในตลาดแบบ B2B (Business to Business)  

โดยธรรมชาติแล้วตลาดองค์กรจะไม่มีลักษณะแบบ ‘Single Winner Market’ (มีผู้ชนะเพียงรายเดียวที่กวาดส่วนแบ่งไปเกือบทั้งตลาด) ฉะนั้น Online B2B จึงเป็นตลาดที่ค่อนข้างเปิดกว้าง สำหรับคนที่คิดจะทำ ‘ของเหมือนๆ กัน’ ออกมาแข่งกันเอง ทั้งนี้เพราะหัวใจของธุรกิจ B2B ก็คือผู้ประกอบการจะต้องเผชิญกับรายละเอียดปลีกย่อยด้านการค้าที่เยอะมาก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าประมูล การนำเสนอขาย การบริการหลังการขาย การปรับแต่งสินค้าให้เข้ากับองค์กรลูกค้า ฯลฯ  ซึ่งเรื่องพวกนี้จะทำให้บริษัทอินเตอร์ฯ สูญเสียความได้เปรียบลงไปมาก ถ้าหากพวกเขาไม่มีหุ้นส่วนอยู่ในท้องถิ่นนั้น
 
ทั้งนี้ก็คือมุมมองของการทำธุรกิจที่สะกิดใจให้คนรู้ว่าเห็นใครทำแล้วดีก็ใช่ว่าจะทำตามได้ทุกอย่าง เพราะทุกธุรกิจก็ต้องมีการป้องกันตัวเองที่ไม่ให้มีคู่แข่งเกิดตามมาได้ง่ายๆ ทางที่ดีเพื่อการเป็นผู้นำก็สร้างตลาดใหม่ๆให้แตกต่างแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ถ้าทำได้ธุรกิจใหญ่ๆก็อาจจะต้องมาง้อขอซื้อรูปแบบกิจการของเราก็เป็นไปได้
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด