บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ
8.3K
3 นาที
21 ธันวาคม 2559
สุดทึ่ง! 6 ธุรกิจร้อยล้านที่เริ่มต้นจากโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียว



การเป็นนักธุรกิจที่ดีเราอาจจะตีความได้ว่าต้องประกอบด้วยปัจจัยแวดล้อมมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น อาคาร เครื่องจักร พนักงาน  และธุรกิจที่ดีบางคนก็ตีความไปถึงการขยายสาขาจำนวนมาก ประเภทยิ่งมากยิ่งการันตีความสำเร็จ แต่ในโลกยุคใหม่นี้เทคโนโลยีมีบทบาทที่ช่วยย่นย่อปัจจัยเหล่านั้นให้คุณสามารถเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ขอเพียงมีโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียวเท่านั้น
 
รายงานที่อ้างอิงจากสำนักงานด้านประชากรของสหรัฐอเมริการะบุว่าคนอเมริกันกว่า 30, 174 คนมีสถานะเป็นผู้ประกอบการตัวคนเดียวหรือ Solopreneur และที่น่าสนใจคือบุคคลเหล่านี้มีรายได้ระหว่าง 1 ล้าน – 2.5 ล้านเหรียญต่อปี หรือกว่า 80 ล้านบาท

แน่นอนว่านี่คือแรงบันดาลใจชั้นยอดที่เราเองก็คงอยากรู้ว่าเขาทำอะไรแบบไหนถึงประสบความสำเร็จได้เช่นนั้นและ www.ThaiFranchiseCenter.com  ก็นำเรื่องนี้มาฝากกับ 6 ธุรกิจร้อยล้านที่ใช้การทำงานเพียงโน๊ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์หลักเท่านั้น
 
1. Tim Ferriss เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และธุรกิจขายความรู้
 
ภาพจาก bit.ly/3tJ5xyv

Tim Ferriss เรียกได้ว่าเป็นผู้นำแห่ง Passive income หมายถึงเป็นผู้สร้างเครื่องจักรทำเงินอัตโนมัติทำงานแทนเขาเกือบ 100% โดย Tim Ferriss เป็นเจ้าของธุรกิจ Ecommerce ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ Brain Quicken โดยวางระบบต่างๆ ตั้งแต่ Outsource การผลิต การจัดเก็บ และการจัดส่งทั้งหมด

ส่วนภาคการขายและการตลาดใช้ Online marketing ได้แก่ Content marketing, SEO และ Google AdWords โดยจ้างพนักงานไม่ประจำแบบ Virtual assistant คอยดูแลหลังบ้านของเว็บไซต์โดยมีอำนาจในการตัดสินใจรวมไปถึงสั่งซื้อสินค้ามาเติมสต็อกตามเงื่อนไขที่ Tim Ferriss กำหนด ต่อมา Tim Ferriss ได้เขียนหนังสือที่ชื่อ The 4-Hour Work Week

ซึ่งได้กลายเป็นหนังสือขายดีแบบถล่มทลายยอดขายมากกว่าล้านเล่มไม่รวมแบบ Ebook บน Amazon Kindle สร้างรายได้ Passive income จากลิขสิทธิ์หนังสืออีกเป็นหลักร้อยล้านบาทเลยทีเดียว
 
2. Allen Walton เจ้าของธุรกิจขายกล้องสปาย
 
ภาพจาก bit.ly/3ls2MOo

Allen Walton เริ่มทำงานในร้านขายกล้องสปาย (Spy camera) และรับเพียงค่าแรงขั้นต่ำจนกระทั่งมีความรอบรู้ในตัวสินค้าและตลาดกล้องสปาย เขาจึงนำความรู้มาเปิดธุรกิจออนไลน์ขายกล้องสปายในเวลาต่อมาด้วยเงินทุน 1000 เหรียญ(ประมาณ สามหมื่นกว่าบาท) โดยเขาเปิดเว็บไซต์ Ecommerce ของเขาในชื่อ “Spy Guy Security”
 
Allen Walton บอกว่า “ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเองและอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องศึกษาหาอ่านสิ่งที่คุณไม่เคยคิดว่าอยู่ดีๆ คุณจะลุกขึ้นมาอ่านมัน”
 
และจากเด็กหน้าร้านไม่สนใจการตลาดออนไลน์ วันหนึ่งเขาต้องหันมาจับหนังสือสอนทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะเรื่อง Google และ SEO (Search Engine Optimization)

กระทั่งศึกษาเข้าใจเขาก็เริ่มลงทุนกับโฆษณา Google AdWords ไปพร้อมๆกับการเปิดร้าน Ecommerce ปีด้วยวัยเพียง 27 ร้าน Spy Guy Security ของเขามียอดขายกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 30 ล้านบาท และจ้างพนักงานประจำเป็นครั้งแรกเพียงหนึ่งคนเท่านั้น

3. Dan Mezheritsky เจ้าของธุรกิจเทรนเนอร์ออกกำลังกาย

ภาพจาก  https://bit.ly/2XrP31R

Dan Mezheritsky เปิดธุรกิจชื่อ Fitness on the Go  มีสโลแกนว่า ‘We deliver fitness’ โดยจัดส่งเทรนเนอร์ออกกำลังกายไปสอนออกกำลังกายถึงบ้านลูกค้า โดย Dan Mezheritsky เปลี่ยนจากระบบจ้างประจำไปสู่ระบบ Franchise โดยเทรนเนอร์มืออาชีพสมัครซื้อ Franchise ต้องจ่ายเงินให้เขาเป็นรายเดือน เดือนละ 400 เหรียญเพื่อแลกกับสิทธิ์การขายเทรนนิ่งภายใต้แบรนด์ Fitness on the Go

ซึ่งตัวเขามีหน้าที่สนับสนุนเทรนเนอร์ในด้านการตลาด การทำเช่นนี้ส่งผลให้ เทรนเนอร์ รู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของกิจการตัวคนเดียวและทำงานอย่างมืออาชีพเพื่อให้มีงานระยะยาว ส่วนตัว Dan เองก็กลายเป็นเจ้าของตัวคนเดียวสร้างธุรกิจเทรนเนอร์ออกกำลังกายแบบ Franchiseสร้างยอดขายปี 2015 สูงถึง 4 ล้านเหรียญหรือประมาณกว่า 132 ล้านบาท
 
4. Peter Leeds เจ้าของธุรกิจขายความรู้ด้านการลงทุน
 
ภาพจาก https://bit.ly/2Xvj3dc

Peter Leeds เริ่มจากการลงทุนในหุ้นด้วยตนเองในวัย 14 ปี แต่นั่นก็เป็นแค่ความฝันเพราะสุดท้ายเขาหมดตัวไปกับการทำธุรกิจอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ดี Peter Leeds นำเอาประสบการณ์นั้นมาหาการลงทุนใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเองสุดท้ายก็ถูกใจการลงทุนแบบ Penny stock โดยเขาทำการเปิดเว็บไซต์ PeterLeeds.com เพื่อขายเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุน Penny Stock

โดยเฉพาะ และตามมาด้วยการเขียนหนังสือสองเล่ม Invest in Penny Stocks: A Guide to Profitable Trading และ Penny Stocks For Dummies โดยเนื้อหาทั้งหมดพูดเกี่ยวกับหุ้นแนะนำ, คำแนะนำการซื้อขาย, บทวิเคราะห์หุ้น, และข่าวสารต่างๆ ส่งทางอีเมล์ในราคาเดือนละ 19 เหรียญสหรัฐฯ

โดยรับประกันเรื่องความโปร่งใสโดยหุ้นเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทของหุ้นที่เขานำมาวิเคราะห์รายได้ของ PeterLeeds.com ประมาณ 1 ล้านเหรียญขึ้นไปหรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 30 ล้านบาทต่อปีต่อเนื่องสร้างรายได้สะสมไม่น้อยกว่าร้อยล้านบาท
 
5. Lewis Howes เจ้าของ ธรกิจขายความรู้ด้านพัฒนาตัวเอง
 
ภาพจาก https://bit.ly/3A8LdsG

Lewis Howes คืออดีตนักฟุตบอลที่ประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันกล้ามเนื้อข้อมือบาดเจ็บอย่างรุ่นแรงและไม่สามารถลงแข่งได้อีก และแม้จะเสียกำลังใจไปพักใหญ่แต่เขาก็กลับมาได้อีกครั้งโดยนำความหลงใหลในกีฬามาสร้าง Blog ที่ชื่อว่า Sport Networker เพื่อเป็นศูนย์ความรู้และข่าวสารในวงการกีฬา เป้าหมายเพื่อให้ผู้คนอุตสาหกรรมการกีฬาได้ Connect กัน

เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ไปจนถึงโอกาสในการทำงานด้านกีฬา และใช้ LinkedIn เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดโซเชียลมีเดีย และเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างดีมีรายได้จากผู้คนที่เข้าสู่ Online webinars และ Sport events

นอกจากนี้เขายังผลิต Information products ออกขายได้แก่ คอร์ส LinkedIn Influence, หนังสือ Linked-Working เป็นต้น และรายได้รวมจากความเชี่ยวชาญตรงนี้ก็สร้างรายได้มากกว่าร้อยล้านบาทเลยทีเดียว

6. Rachel Charlupski เจ้าของธุรกิจรับเลี้ยงเด็ก
 
ภาพจาก https://bit.ly/3kcJP2J

Rachel เจ้าของ The Baby Sitting Company เริ่มต้นอาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็กในขณะศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Arizona วิธีการคือเข้าไปติดต่อโดยตรงกับทางโรงแรมและที่พักต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์บริการเลี้ยงเด็กให้กับแขกของที่พักเหล่านั้น

โดยเขาเริ่มต้นอาชีพนี้เพราะต้องการรายได้เสริม แต่ความต้องการของตลาดกลับมีมาก ทำให้ต้องเริ่มจ้างพนักงาน และฝึกคนด้วยตัวเองก่อนจะปล่อยให้ไปรับงานจากลูกค้าที่ติดต่อมา

โดยปัจจุบันธุรกิจของรับเลี้ยงเด็กของ Rachelขยายจาก โรงแรม งานแต่ง งานเลี้ยง และงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อรับดูแลเด็กให้กับแขกในงาน มีทีมงานพี่เลี้ยงเด็กกว่า 1500 คนครอบคลุม 13 เมืองในสหรัฐอเมริกา สร้างรายได้ปีละกว่า 1 ล้านเหรียญ

โดยมีพนักงานประจำคือญาติของตัวเธอเองที่มาเป็นพนักงานบัญชีโดย Rachel กล่าวว่า “ตัวเองถนัดอะไรก็ทำสิ่งนั้น และมอบหมายงานอื่นให้คนที่เก่งเฉพาะทางไปดูแลในรูปของ Freelance และ Outsourceต่อไป”
 
เหล่านี้คือตัวอย่างที่น่าสนใจและพวกเราเองก็น่าจะทำได้การทำธุรกิจในรูปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากแต่ต้องรู้จักระบบการวางแผน มีไอเดียที่สร้างสรรค์ หาโจทย์ทางธุรกิจที่น่าสนใจเอามาพัฒนาให้เป็นรูปร่าง บางครั้งธุรกิจดีๆอาจจะอยู่ใกล้ๆแต่เราไม่เคยมองเห็นก็เป็นไปได้
 
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/fETMP0 , goo.gl/NPqrYw 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,820
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,514
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
754
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
672
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
600
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
535
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด