เสน่ห์ของอาหารไทยคือรสชาติที่จัดจ้านชนิดที่ไม่มีอาหารชาติไหนเสมอเหมือน

อีกทั้งความหลากหลายของเครื่องเคียงต่างๆที่เป็นตัวเสริมให้รสชาติของอาหารแต่ละมื้อมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะกับบรรดาน้ำพริกสูตรสูตรต่างๆที่มีมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมและมีการต่อยอดให้น้ำพริกไทยเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปได้ง่ายขึ้นด้วยรูปแบบแพคเกจใหม่ๆที่ใช้การบรรจุในกระปุกวางจำหน่ายเป็นสินค้าของฝากที่สำคัญอีกประการหนึ่ง

 

www.ThaiFranchiseCenter.com เห็นว่าธุรกิจนี้มาเงียบๆแต่มีพลังกับการลงทุนที่ไม่ต้องสูงมากขอเพียงมีกลเม็ดเคล็ดลับในการทำที่อร่อยยิ่งมีสูตรเฉพาะจากรุ่นปู่ย่าตายายก็สามารถสร้างแบรนด์น้ำพริกของตัวเองให้โดดเด่นและมีรสชาติที่แตกต่างนำมาในเรื่องของรายได้ที่ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

 

ถ้าเราไม่นับในส่วนของกระปุกที่ขึ้นอยู่กับดีไซน์ของแต่ละคนเฉพาะในส่วนของการทำน้ำพริกนั้นมีต้นทุนไม่สูงมากวัตถุดิบส่วนใหญ่หาได้ทั่วไปเช่นพริก กระเทียม หัวหอม ข่า ตะไคร้

สำหรับอุปกรณ์ก็ไม่น่าจะลงทุนอะไรเพิ่มเติมมากนักใช้ที่มีอยู่เป็นหลักได้เช่นครก เครื่องปั่น กระทะ  กะละมัง ทัพพี เป็นต้น ดังนั้นงบเบื้องต้นอยู่ที่ 1,000-3,000 บาททั้งนี้วิธีประหยัดต้นทุนอีกทางคือการเลือกตลาดที่จำหน่ายวัตถุดิบในราคาที่ถูกกว่าก็จะช่วยลดต้นทุนได้พอสมควรทีเดียว

 

ส่วนผสม กุ้งแห้งอย่างดี , หัวหอมเจียว ,กระเทียมเจียว , น้ำตาลทราย , เกลือ, ผงปรุงรส,พริกแห้งป่น
 

วิธีทำ เริ่มจากการเจียวกระเทียมและหอมแดงให้สุกพอเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน และทำการปั่นกุ้งแห้งให้ละเอียด นำมาพักไว้ ปั่นหอมเจียวและกระเทียมเจียวพอแหลก จากนั้นนำกุ้งแห้งละเอียดลงไปผัดน้ำมันด้วยไฟอ่อน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล พริก เมื่อเข้ากันดีจึงนำหอมเจียวและกระเทียมเจียวใส่ตามลงไปผัดเรื่อยๆอีกประมาณ 20-25 นาทีจนส่วนผสมแห้งและคลุกเคล้าเข้ากันเป็นที่เรียบร้อย

 

2. น้ำพริกเผากุ้งสด
 

ส่วนผสม กระเทียมเจียว, หอมเจียว ,พริกแห้งเม็ดใหญ่, น้ำตาลปีบ ,เกลือป่น , กุ้งสด , น้ำมะขามเปียก
 

วิธีการทำ เริ่มจากการตั้งกระทะคั่วกระเทียม พริกแห้ง และข่าให้กรอบ จากนั้นโขลกให้ละเอียดนำมาพักไว้ เช่นเดียวกับเนื้อกุ้ง กุ้งแห้ง และถั่วลิสงที่ต้องทอดและคั่วให้สุกนำมาพักไว้ก่อนเช่นกัน จากนั้นก็นำทั้งสองส่วนที่ว่านี้มาผัดรวมกันปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก จนดูว่าเหนียวข้นได้ที่ก็ตักมาพักไว้ให้เย็นแล้วบรรจุกระปุกจำหน่ายต่อไป

 

 

ส่วนผสม กากหมู, หอมแดง,กระเทียม,พริกขี้หนูแห้ง,น้ำมะนาว , น้ำปลา  ,น้ำตาลปี๊บ , เกลือป่น
 

วิธีการทำ เริ่มจากการเอาพริกขี้หนูแห้ง หอมแดง และกระเทียมคั่วในกะทะให้หอม จากนั้นเอาทั้งหมดลงครกจัดการโขลกให้ละเอียด ใส่กากหมูลงไป โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา และเกลือป่น โขลกให้ส่วนผสมเข้ากัน ติดเตาตั้งกะทะใช้ไฟอ่อน ผัดน้ำพริกให้หอมจนพอใจแล้วนำมาพักไว้ให้เย็นรอการบรรจุกระปุกต่อไป

 

กำไรที่ได้จากการขายน้ำพริกกระปุก
 

โดยทั่วไปถ้าทำในปริมาณที่มากๆมีวัตถุดิบอย่างกระเทียม หอมแดง หรือพริกประมาณ 5 กิโลกรัมขึ้นไปก็จะทำน้ำพริกได้ปริมาณที่มากแปลงเป็นกำไรไม่ต่ำกว่า 300 บาท/กก.(ทั้งนี้ต้นทุนผันแปรก็ขึ้นอยู่กับแพคเกจด้วย) โดยเฉลี่ยจึงมีกำไรสุทธิประมาณ 40-50 % จากต้นทุน

ซึ่งการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ การจะขายน้ำพริกกระปุกให้ได้ดีต้องมีแหล่งวางสินค้าที่เหมาะสมหรืออาจจะเข้าไปติดต่อหาลูกค้าประจำในบริษัท โรงงาน หน่วยงานราชการเพื่อให้มีออร์เดอร์ต่อเนื่อง หรือปัจจุบันจะเพิ่มช่องทางในโซเชี่ยลก็ดูน่าสนใจแต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพว่าสามารถสู้กับคู่แข่งได้ในระดับทัดเทียมหรือว่าดีกว่าด้วย

 

และสำหรับใครสนใจอยากเข้าคอร์สเรียนสร้างอาชีพอื่นๆ น่าสนใจ มีให้เลือกหลากหลาย ดูรายละเอียดการอบรมเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/a4wTAi หรือ Add LINE id : @thaiseminar