อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่กับทฤษฏีการทำโฆษณาให้ถูกใจผู้บริโภค หากว่ากันตามจริงแล้ววิชาโฆษณาจะสอนให้คนที่เป็นครีเอทีฟจับเอาประเด็นของสินค้ามาสร้างเป็นธีมหรือเรียกว่าเป็นสิ่งที่เจ้าของสินค้าต้องการให้ผู้เป็นครีเอทีฟนำเสนออาจจะเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ สรรพคุณการใช้ หรือบางครั้งก็แค่การตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในความทรงจำของผู้บริโภค

www.ThaiFranchiseCenter.com  มองว่าที่ผ่านมาโฆษณาในเมืองไทยนั้นมีหลายตัวที่ทำออกมาได้ดีกลายเป็นกระแสให้คนพูดถึงแต่ปัญหาก็คือถามไปอีกทีว่าเป็นโฆษณาอะไรคนส่วนใหญ่ตอบไม่ได้รู้แต่ว่าสนุกดี ฮาดี 

 

 

โฆษณาตัวนี้มีความยาวประมาณ 2 นาที เราได้เห็นกันเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปลายปีที่ผ่านมา จุดเด่นถ้าเรามาวิเคราะห์โฆษณาตัวนี้จะพบว่า ทางทีมผู้สร้างชี้ประเด็นชัดเจนว่านี่คือธุรกิจเงินกู้ที่คุณได้เงินเราได้ดอก

แต่สิ่งที่ทำให้เหนือกว่าและดูจะเป็นประโยชน์สำหรับคนทั่วไปคือการสอนวิธีการใช้เงินใช้ชีวิตเพื่อทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จหลังการกู้เงิน คือหลังจากได้เงินเราต้องรู้ว่าอยากทำธุรกิจอะไร หลังจากนั้นให้เดินหน้าศึกษา และปฏิบัติฝึกฝนทำซ้ำ ทำทุกวัน จนกว่าจะเห็นผล

สุดท้ายของโฆษณาตัวนี้คือการปล่อยวลีเด็ดออกมา “เราไม่ต้องการให้คุณกลับมาหาเราอีก” นั้นเป็นการสื่อให้คนเห็นถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจว่าเห็นใจสังคมมากกว่าจะเห็นแค่เรื่องผลประโยชน์ตัวเองแต่ธุรกิจก็คือธุรกิจจำเป็นต้องมีวิธีการหาเงินซึ่งก็ถือเป็นบทเรียนที่สอนสังคมได้อย่างหนึ่งว่าการได้เงินที่มาจากการกู้ก็ควรพิจารณาการใช้ให้รอบคอบที่สุด

แน่นอนว่าถ้าใครได้ดูโฆษณานี้จะต้องมีความรู้สึกที่ไม่ต่างกันนั้นคือมีแรงใจในการสร้างอาชีพ อยากหาธุรกิจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของโฆษณาตัวนี้

 

 

 

 

อาจจะเป็นหนังสั้นที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 58 แต่จุดที่น่าสนใจที่เอามาพูดถึงในตอนนี้คือการจับเอาอารมณ์ของเรื่องมาสื่อความหมายโดยถ้าเราได้ชมหนังสั้นความยาวกว่า 14 นาทีตัวนี้จะพบว่าทั้งเรื่องไม่ได้มีการพูดถึงผู้สนับสนุนหลักหรือพูดถึงผลิตภัณฑ์เลยแม้แต่น้อยเป็นเรื่องราวของเนตไอดอลที่ชื่อละลินซึ่งเบื้องหน้าจอออนไลน์กับเบื้องหลังที่เป็นชีวิตจริงนั้นช่างแตกต่างเป็นการสะท้อนแง่มุมให้เห็นว่าคนเรามักตัดสินคนกันที่หน้าตา

แต่ในวาระซ่อนเร้นอีกอย่างก็มีข้อคิดดีๆว่าบางครั้งสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่ได้มาอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดแต่สิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามไปให้ถึงสิ่งที่เราฝันด้วยตัวเราเอง บทบาทนี้ถ่ายทอดมาทางเนื้อเรื่องที่ตัวเอกของเรื่องฝ่ายผู้ชายพยายามลบจุดด้อยเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ตัวเองมุ่งหวังในขณะที่ผู้หญิงพยายามปิดบังและไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

ข้อคิดจากหนังสั้นนี้ก็คือการเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเลิกให้ความสำคัญกับโลกที่ไม่มีอยู่จริง แล้วให้เปลี่ยนมุมมองความคิดหันกลับมาใส่ใจกับสิ่งดีๆ ที่มีอยู่รอบตัวในโลกแห่งความเป็นจริงเสียทีถือ เป็นหนังสั้นที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับทุกคนเช่นกัน

 

 

 3. “น้ำตบปลาวาฬ”จากสกินแคร์ “OCEAN SKIN”

 

แต่ไหนแต่ไรโฆษณาผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะปรากฏบนหน้าจอทีวี หรือออนไลน์ มักจะนำเสนอผ่านนักแสดงผู้หญิงสวย ผิวดี พรีเซนต์การใช้สินค้าในอิริยาบถต่างๆ

พร้อมทั้งบอกเล่าสรรพคุณสินค้าอย่างละเอียด เป็นรูปแบบการสื่อสารที่เห็นได้ทั่วไปแต่ แบรนด์สกินแคร์น้องใหม่ “OCEAN SKIN” กล้าปฏิวัติรูปแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อสร้างความแตกต่าง และกระชากความสนใจของผู้บริโภค

ด้วยการพลิกไปทำ “โฆษณาแนวตลกขบขัน” (Humor) แต่เข้าใจง่าย และแฝงด้วย Insight ของผู้หญิง ที่ร้อยทั้งร้อยอยากมีผิวหน้าอ่อนเยาว์ สว่างใส และเนียนนุ่ม จึงยอมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ตัวเองมีผิวหน้าดี เปรียบได้กับตัวละครหลักของโฆษณานี้ ที่เดินเรื่องผ่านผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่อยากมีผิวหน้าดี จึงดั้นด้นล่องทะเลหลายร้อยหลายพันไมล์ไปฝรั่งเศส และให้อาหารวาฬ เพื่อเอา “แพลงก์ตอน” ที่มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิว และบำรุงได้ถึงผิวชั้นในนอกจากเข้าใจ Consumer Insight แล้ว

โฆษณานี้ยังตีโจทย์แตกตรงที่ ชีวิตประจำวันของผู้หญิงทุกวันนี้ต้องเผชิญกับความเร่งรีบ เพราะฉะนั้นจะทำให้การบำรุงผิวเป็นเรื่องยุ่งยากอีกทำไม และจะดีกว่าไหมที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สะดวก ใช้ง่าย ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาผิวในขวดเดียว

 

 

 

 

โฆษณานี้เปิดตัวเมื่อประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมาแต่เรียกว่ามาแรงแซงโค้งมากเพียงแค่วันเดียวที่เปิดตัวก็สร้างยอดแชร์ได้จำนวนไม่มากถึงปัจจุบันก็ไม่กว่า 5 ล้านครั้ง

ไม่ต้องสงสัยในธีมของเรื่องที่ไม่เน้นความเป็นดาราแต่สร้างเนื้อเรื่องที่เรียกว่าเอาฮากันเป็นหลัก การดำเนินเรื่องนั้นก็เข้าใจง่ายและทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานและมองเห็นประสิทธิภาพในการทำงานของผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆกันได้อย่างดี

ถือเป็นอีกหนึ่งโฆษณาที่เน้นเอาความฮามาสร้างให้คนดูได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ดีๆ การทำโฆษณาในลักษณะขำขันฮากระจายนี้สิ่งที่ต้องคำนึงคือจังหวะในการปล่อยมุข และสอดแทรกสาระของผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมก็เป็นเรื่องของฝีมือและการเขียนบทของทีมผู้สร้างที่บอกได้เลยว่าถ้าใครได้ดูต้องสนุกและฮาและรู้ว่าผลิตภัณฑ์นี้ทำงานกับร่างกายเราอย่างไรบ้าง
 

 

 

 

เราจะเห็นได้ว่าโฆษณาในระยะหลังหากเน้นที่การเข้าถึงคนดูแล้วเนื้อเรื่องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะใช้ธีมสายฮา หรือว่าธีมซึ้งเศร้า เข้าถึงอารมณ์แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือบทในเรื่องที่ต้องพยายามสื่อความรู้สึกไปถึงผลิตภัณฑ์แม้จะไม่ได้พูดถึงหรือเปิดตัวให้เห็นในระหว่างโฆษณาเลยก็ตามที

การโฆษณาที่เหมือนไม่โฆษณานี้ถือเป็นกลยุทธ์อีกอย่างที่นำมาใช้อย่างได้ผลในปัจจุบันก็เป็นหน้าที่ของคนทำโฆษณาในการคิดบทเพื่อวางการดำเนินเรื่องใครมีประสบการณ์ที่ดีกว่าก็มักจะได้เปรียบมากกว่ายิ่งคนดูชอบ ก็จะพูดถึงผลิตภัณฑ์นั้นมากก็เป็นความสำเร็จทางการตลาดที่น่าสนใจเช่นกัน

 

พร้อมกันนี้หากใครต้องการโฆษณาแต่มองว่าไม่เน้นที่เนื้อเรื่องแต่อยากลองทำแบบอินโฟกราฟฟิคดูบ้างก็น่าจะเข้าถึงและทำให้คนเข้าใจสินค้าและบริการได้มากขึ้น สามารถเลือกดูแบบอินโฟกราฟฟิคที่เรามีมากมาย