บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การบริหารจัดการองค์กร    บริหารทีมงาน พนักงาน
3.6K
2 นาที
2 มิถุนายน 2560
9 วิธีคัดเลือกคนเก่ง! สไตล์บริษัทระดับโลก 

 
คำว่าบริษัทชั้นนำไม่ว่าจะของประเทศไทยหรือระดับโลกล้วนแต่เป็นเวทีทำงานที่คนให้ความสนใจมากเนื่องด้วยโอกาสที่ดีในเรื่องค่าตอบแทนและความมั่นคงในระยะยาวทำให้การเปิดสมัครงานแต่ละครั้งของบริษัทเหล่านี้ย่อมมีผู้สมัครจำนวนมาก

สิ่งที่บริษัทเหล่านี้จะคัดสรรคนได้ดีที่สุดก็คือการทำให้เราแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้มากที่สุดซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายและนี่คือ 9 ข้อที่ Sarah Cooper ผู้เขียนหนังสือเรื่อง 100 Tricks to Appear Smart in Meeting ได้รวบรวมวิธีคัดกรองคนเข้าทำงานและ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้นำมาให้อ่านเป็นแนวทางหนึ่งที่ควรศึกษากันไว้สำหรับใครก็ตามที่อยากก้าวเข้าสู่บริษัทชั้นนำระดับโลกหรือระดับประเทศต่อไป
 
1.เลือกโทรสัมภาษณ์แบบไม่ตรงตามเวลานัด

 
ถ้าเป็นบริษัทขนาดเล็กคนสมัครจำนวนน้อยวิธีโทรสัมภาษณ์ก็ดูจะไม่จำเป็นสักเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่คนสมัครงานมาก จะเรียกผู้สมัครมาสัมภาษณ์ทีละคนก็คงยุ่งยากมากทางที่ดีที่สุดและเป็นการกรองขั้นแรกก็คือการสัมภาษณ์เบื้องต้นทางโทรศัพท์

แต่เพื่อให้ได้คนเก่งที่มีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอบริษัทใหญ่ๆทั้งหลายเลือกที่จะโทรมาก่อนหรือหลังเวลานัดอย่างน้อยๆก็บวกลบประมาณ 15 นาที เหตุผลก็คือหากโทรตามเวลาผู้สมัครงานก็รู้และเตรียมตัวไว้แล้วแต่ก่อนโทรก่อนหรือหลังจะช่วยเช็คสมาธิ วิธีตอบคำถาม ซึ่งเป็นนการกดดันขั้นแรกที่มาจากความกระวนกระวายใจ หากตอบคำถามได้ดีก็แสดงว่าคนนั้นพร้อมปฏิบัติงานอยู่เสมอนั่นเอง

2.ไม่ต้องสัมภาษณ์ตามแบบฟอร์ม วกวนได้ยิ่งดี
 
ผู้สมัครงานจำนวนไม่น้อยมักจะหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการสอบสัมภาษณ์มาล่วงหน้า โดยเฉพาะการสอบถามจากคนที่เคยเข้าสัมภาษณ์ในบริษัทนั้นๆมาแล้ว ทีนี้ตัวเองก็จะมั่นใจว่าเขาจะถามอะไร และควรตอบอย่างไรให้ถูกใจมากที่สุด

เทคนิคหนึ่งที่บริษัทใหญ่ๆนิยมทำคือไม่สัมภาษณ์ตามแบบฟอร์มที่ว่านั้นและดูเหมือนจะตั้งคำถามแบบงง ที่ชวนให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่ามันเกี่ยวกันตรงไหน เหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้คนถูกสัมภาษณ์เอาเรื่องนี้ไปอธิบายต่อได้ง่ายๆ อีกส่วนหนึ่งคือดูปฏิกิริยาในการตอบคำถามที่ส่วนใหญ่มักเป็นคำถามดูไหวพริบมากกว่า
 
3.อุปกรณ์พรีเซนเสียบ้าง ทำงานไม่ดีบ้าง

 
 
แน่นอนว่าในการสัมภาษณ์งานหากมีตำแหน่งที่ต้องใช้ความสามารถเข้ามาเกี่ยวข้องงานนี้ก็ต้องขอดูผลงานและวิธีการทำเบื้องต้นกันสักหน่อย ซึ่งผู้สมัครส่วนใหญ่ก็มักจะเตรียมพร้อมเรื่องนี้มาด้วย แต่ถ้ามาเจอกับปัญหาในการสัมภาษณ์ที่ว่าคอมพิวเตอร์ไม่ติด โปรเจคเตอร์ไม่ทำงาน คราวนี้ก็ต้องตัดสินใจให้ดีว่าจะพรีเซนงานอย่างไร

หากเลือกผัดผ่อนขอไปแสดงต่อโอกาสหน้าก็เท่ากับเสียโอกาสทันที แต่ถ้าเดินหน้าต่อหรือเตรียมอุปกรณ์มาเองบ้าง แม้จะไม่ดีเท่าอุปกรณ์ที่บริษัทมีแต่ก็ทำให้ดูว่าเรามีความกระตือรือร้นและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
 
4.สร้างคำถามจุกจิกกวนใจประเมินอารมณ์ผู้สมัคร
 
ในใบสมัครงานเราย่อมเขียนข้อมูลที่จำเป็นไว้ทั้งหมดตั้งแต่ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัตการทำงาน และความสามารถต่างๆ แต่เพื่อการทดสอบให้ได้คนที่นอกจากเก่งแล้วต้องมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีร่วมด้วย

สิ่งที่จะได้เห็นคือการถามในลักษณะก่อกวนเช่น แกล้งจำผิดว่าเราเคยทำงานในอีกที่หนึ่ง หรือทักเราว่าเคยจบมาจากอีกที่หนึ่ง การก่อกวนเช่นนี้เพื่อหยั่งอารมณ์ว่าเราจะโมโหหรือหงุดหงิดไปกับคำถามเหล่านี้หรือไม่และเราจะมีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างไร
 
5.สร้างเหตุการณ์ให้แก้ปัญหาของบริษัท



ยิ่งการเป็นบริษัทใหญ่ปัญหาย่อมมีหลากหลาย ซึ่งบางปัญหาแม้แต่ผู้บริหารเองก็ยังแก้ไม่ได้หรือยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ในการสัมภาษณ์นั้นหากมีการเพิ่มเติมเหตุการณ์เหล่านี้ลงไปในคำถามและให้ผู้สมัครได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาซึ่งถ้าทำได้ดีกว่าที่เคยแก้มาหรือเป็นวิธีที่เป็นทางออกของบริษัทได้อย่างแท้จริงก็จะทำให้เรามีโอกาสได้งานนั้นมากขึ้นด้วย
 
6.คอยสร้างความกดดันให้ผู้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ
 
แทบทุกบริษัทต้องการพนักงานที่สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในการสอบสัมภาษณ์ก็มีวิธีการสร้างแรงกดดันเบื้องต้นเพื่อทดสอบผู้สัมภาษณ์ได้เช่นการย้ายห้องสัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ ห้องสัมภาษณ์อยู่ห้องหนึ่ง สอบข้อเขียนไปอีกห้องหนึ่ง ห้องสอบสัมภาษณ์ครั้งที่สองอยู่อีกห้องหนึ่งเป็นต้น

ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกตื่นเต้นกระวนกระวายไปเรื่อยๆและอาจเกิดความประหม่ามากขึ้นแต่ถ้าหากรับมือและผ่านไปได้ก็แสดงว่าเขารับแรงกดดันได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว
 
7.ย้ำคิดย้ำทำถามซ้ำๆเพื่อดูคำตอบ

 
ผู้สมัครทุกคนมีการเตรียมตัวในประเด็นการสัมภาษณ์มาอย่างดี บางคนแทบจะท่องจำในคำถามสำคัญเพื่อให้คำตอบนั้นถูกใจและสวยหรูดีดีที่สุด ซึ่งผู้สัมภาษณ์เองก็รู้ดีในเรื่องนี้และเพื่อให้ได้คำตอบที่เกิดจากความรู้สึกนึกคิดจริงๆ ก็ควรถามซ้ำในคำถามเดิมแต่อาจเปลี่ยนประโยคคำถามนิดหน่อยเพื่อดูว่าคำตอบที่ได้จะเหมือนกับครั้งแรกหรือไม่เช่น คำถามที่ว่า คุณคิดว่าบริษัทนี้มีความมั่นคงมากขนาดไหน กับคำถามเดียวกันที่ถามว่าคุณคาดว่าจะได้รับอะไรบ้างจากการทำงานที่นี่

8.สัมภาษณ์พร้อมกันทีเดียว 2 คน

เรียกว่าเป็นไม้เด็ดของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายทีเดียวกับการสอบสัมภาษณ์แบบพร้อมกันอย่างน้อย 2-3คน ซึ่งแน่นอนว่าความเครียดนั้นเพิ่มขึ้นแน่กั้บการตอบคำถามที่ต้องกลัวว่าจะด้อยไปกว่าคู่แข่ง

หรือคำตอบที่กลัวผิดพลาดและคู่แข่งตอบได้ดีกว่า สารพัดความเครียดที่ประดังเข้ามานี้จะอยู่ในสายตาของผู้สัมภาษณ์ที่คอยจับจ้องดูกิริยาเราตลอด นอกจากนี้ยังอาจมีคำถามในเชิงให้เราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบของคู่แข่งเพื่อดูทัศนคติของเรากับผู้ร่วมงานได้อีกด้วย

9.รบกวนสมาธิผู้สัมภาษณ์ด้วยเสียงดัง


 
ถ้าเราเคยดูหนังที่เกี่ยวกับการทำงานมาบ้างจะเห็นว่าในบางฉากบางตอนที่พระเอก นางเอกหรือใครก็ตามเข้าไปสมัครงาน ผู้สัมภาษณ์มักจะแกล้งทำงานด้วยการพิมพ์คอมพิวเตอร์ไปด้วย

นอกจากทำงานไปด้วย ก็สัมภาษณ์เราไปด้วย เหมือนไม่สนใจในคำถามที่พูดออกไปรวมกับเสียงกดแป้นพิมพ์ที่ดังตลอดเวลาจนผู้สมัครไม่แน่ใจว่าคำตอบที่ตอบไปนั้นเขาได้ยินหรือไม่หรือเขาสนใจในคำตอบนั้นหรือเปล่า เหตุผลสำคัญคือเขากำลังทดสอบว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดีแค่ไหน เพราะทุกคำตอบที่เราตอบมาเขาได้ยินและตั้งใจฟังอย่างดีทีเดียว
 
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องตลกที่เราเอามาเล่าให้สนุกเท่านั้นแต่ในการสัมภาษณ์ของบริษัทขนาดใหญ่ที่การแข่งขันสูงสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเราอาจจะไม่คุ้นเคยนักแต่ถ้าลองไปสัมภาษณ์กับบริษัทต่างชาติที่เข้มงวดในการรับคนเข้าทำงานรับรองได้ว่าหากไม่มีแนวทางเหล่านี้รู้ไว้ก่อนการเตรียมตัวที่แม้จะดีแสนดีก็ไม่มีทางจะรับมือได้ง่ายๆแน่นนอน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/movhNS
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,811
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,441
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
743
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
655
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
577
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
515
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด