บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การตลาดออนไลน์ SEO
4.4K
3 นาที
27 มิถุนายน 2560
7 อันดับสินค้าขายดีบน Facebook และ Instragram

 
ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA พบว่าในปีที่ผ่านมามีผู้ค้าออนไลน์ในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 527,324 ราย และมีมูลค่ารวมกว่า 2.52 ล้านล้านบาท สาเหตุที่ธุรกิจ 
 
E-Commerceได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความก้าวหน้าของอินเตอร์เน็ต และระบบโทรศัพท์ไร้สาย ทำให้มีจำนวนผู้เข้าถึงระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce มีการแข่งขันกันสูงเพื่อแย่งชิงผู้บริโภคที่สามารถสั่งซื้อสินค้าหรือบริการได้ทุกที่ และทุกเวลา

นอกจากนี้ผู้ประกอบการในประเทศไทยเริ่มมีการให้บริการซื้อสินค้าก่อน แล้วค่อยเก็บเงินเมื่อสินค้าส่งถึงผู้บริโภคเรียบร้อยแล้วหรือที่เรียกว่า ระบบการชำระเงินปลายทางทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่ไม่เคยหรือไม่กล้าซื้อของออนไลน์ หันมาจับจ่ายใช้สอยทางออนไลน์จนเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
 
โดยเฉพาะในช่องทางของโซเชี่ยลส่วนตัวอย่าง Facebook และ Instragram ที่ไม่ใช่จะเป็นแค่การโพสต์รูปภาพหรือเรื่องราวในชีวิตประจำวันอย่างเดียว พบว่าแทบจะทุกคนมีช่องทางธุรกิจใน Facebook และ Instragram ร่วมอยู่ด้วยเพราะข้อดีของโซเชี่ยลนี้คือการเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายและมีต้นทุนที่ต่ำทำให้ใครต่อใครหันมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าในโลกออนไลน์แบบนี้มากขึ้น

แต่ทั้งนี้ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อยากเป็นพ่อค้าแม่ค้าบ้างแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นกับการหาสินค้าแบบไหนมาขาย www.ThaiFranchiseCenter.com จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่วางจำหน่ายใน Facebook และ Instragram มาเป็นข้อมูลให้ทุกท่านได้ตัดสินใจว่าหากคิดจะขายของให้ได้กำไรต้องเน้นที่อะไรเป็นอันดับแรก
 
4 อันดับภาพรวมของหมวดหมู่สินค้าใน Facebook และ Instragram

1.สินค้าที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

 
ภาพจาก goo.gl/z948jQ

เชื่อว่าใครๆ ก็ชอบเที่ยว มีรีวิวตามรอยที่เที่ยวออกมาให้ได้เห็นเยอะมาก เพราะฉะนั้นการขายของที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทาง หูฟัง ผ้าปิดตา หมอนรองคอสำหรับผู้ที่เดินทางไกล รวมไปถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้าวของให้ง่ายต่อการท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งเรื่องของธุรกิจท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้การตอบรับที่ดีมาก
 
2.สินค้าไอที
 
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด มีสินค้าที่ทันสมัยและทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น การขายสินค้าทางด้านไอทีจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณนั้นไปได้สวย เพราะเป็นสิ่งของจำเป็นที่ใช้ทั้งในเรื่องของการเรียน และการทำงาน รุ่นไหนตกรุ่นก็ต้องซื้อใหม่ อย่างเช่น กล้อง อุปกรณ์เชื่อมต่อโทรศัพท์ แฟลชไดร์ฟ งานนี้ถ้าคุณสนใจขายสินค้าด้านนี้ก็ต้องศึกษาให้มาก และตามให้ทันเทคโนโลยีให้ไวที่สุด
 
3.สินค้าแฟชั่น

 
น่าจะเป็นเทรนด์สุดฮิตที่คนคิดถึงกันมากที่สุดกับเรื่องแฟชั่นที่เหมารวมได้ทั้งหมดตั้งแต่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ถ้าอยากรู้ว่าสินค้าประเภทนี้มีมากแค่ไหนลองเข้าไปค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เนตจะพบว่าหลังจากเสิร์ชเข้าไปจะมี ทั้ง Facebook และ Instragram ที่ขายสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ มากมายถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่คนนิยมกันมากซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จได้ดีแต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน
 
4.อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
 
บ้านเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นสถานที่ที่จะทำให้สบายใจสุดๆ เพราะฉะนั้นหลายๆ คนก็เลยชอบที่จะซื้อของตกแต่งบ้านใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างความอบอุ่นและความสะดวกสบาย สินค้าบางชิ้นก็ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น หรือถ้าคนไหนที่มีไอเดียเลิศๆ ขายของ DIY ก็อาจจะสร้างฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ออเดอร์เข้าแบบไม่มีหยุดอีกต่างหาก
 
ที่กล่าวมานั้นคืออันดับโดยรวมของสินค้าที่จัดเป็นหมวดหมู่แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเราเอามาแยกย่อยเป็นสินค้าแต่ละชนิดแล้วจะพบว่าทั้งใน Facebook และ Instragram มีสินค้าที่โดดเด่นอยู่ด้วยกันถึง 7 ประเภทคือ
 
1.เสื้อผ้า

 
เกือบร้อยละ 70 ของคนที่เข้ามาในแวดวงการค้าออนไลน์สิ่งแรกที่นึกถึงหนีไม่พ้นเรื่องเสื้อผ้า ในที่นี้เราก็เหมารวมเรื่องรองเท้าเข้าไปด้วย สาเหตุที่ทำให้สินค้าชนิดนี้มีคนสนใจมากที่สุดเพราะแหล่งสินค้าหาได้ง่าย ใครๆก็สามารถไปซื้อสินค้ามาโพสต์ขายได้รูปแบบที่นิยมกันคือหาพาร์ทเนอร์จากร้านเสื้อผ้าไปถ่ายรูปสินค้ามานำเสนอเมื่อมีออร์เดอร์ก็ค่อยบอกให้ทางร้านจัดส่งหรือบางคนก็ตัดสินใจทำเสื้อผ้าที่เป็นแนวแฟชั่นของตัวเองโดยอาจสกรีนลายต่าง ๆที่ต้องการและโพสต์ขายทั้งใน Facebook และ Instragram ก็ถือเป็นช่องทางที่เพิ่มยอดขายได้อย่างดีและเป็นที่นิยมมากทีเดียว
 
2.เครื่องประดับ

 
ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับเสื้อผ้าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่นิยมนำเอาเครื่องประดับชนิดต่างๆ มาโพสต์ขายไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ กำไล ต่างหู ส่วนใหญ่สินค้าลักษณะนี้ใช้วิธีการหลักๆคือติดต่อกับเจ้าของร้านในการถ่ายภาพสินค้ามานำเสนอขายในโซเชี่ยลมีคนสนใจติดต่อก็รายได้ตามตกลงกันหรืออีกหนึ่งรูปแบบคือการที่ผลิตและทำสินค้าเครื่องประดับนั้นขึ้นมาเองแต่ในวิธีหลังนี้ต้องมีประสบการณ์และฝีมือในการทำอยู่พอสมควรส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเปิดร้านคู่กับการโพสต์ขายในโซเชี่ยลร่วมด้วยอีกทาง

3.อาหาร

 
สำหรับใครที่ยังคิดอะไรไม่ออกและไม่สนใจในเรื่องแฟชั่นอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั้นคือสินค้าที่เกี่ยวกับอาหารไม่ว่าจะคาว หวาน เป็นขนมทานเล่น เบเกอรี่ เรารวมอยู่ในคำว่าอาหารทั้งหมด และบางคนที่มีฝีมือในการทำอาหารก็จะใช้ช่องทางของ Facebook และ Instragram ในการทำตลาดด้วยการทำอาหารออกมาเป็นเซต เป็นเมนู แล้วนำเสนอขาย

ซึ่งพอมีลูกค้าสนใจก็ออร์เดอร์สินค้าเข้ามากและก็ลงมือทำและจัดส่งให้ลูกค้าตามลำดับ ปัจจุบันกระแสของอาหารคลีน อาหารสุขภาพกำลังมาแรงก็มีการจัดอาหารเป็นเซต เป็นชุดสุขภาพ โพสต์เป็นรูปภาพให้คนได้เห็นเมื่อเกิดความสนใจก็สามารถออร์เดอร์สินค้าเข้ามาได้ ถือว่าเป็นสินค้ายอดนิยมไม่แพ้อย่างอื่นเช่นกัน
 
4.อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
 
วิธีการขายสินค้าอย่างอุปกรณ์ตกแต่งบ้านนั้นถ้าไม่ติดต่อกับทางร้านค้าเพื่อถ่ายภาพแล้วนำมาโพสต์อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ฝีมือของตัวเองในการผลิตสินค้าที่คล้ายกับงานแฮนเมดแต่เน้นที่เรื่องรีโนเวทเป็นหลักหรือการผสมผสานเอาของที่ไม่ใช้มาปรับปรุงใหม่ให้เกิดมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิม การขายสินค้าในลักษณะนี้อาจทำร่วมกับการโพสต์เป็นคลิปวีดีโอเพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นภาพวิธีการทำก็จะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นนับเป็นอีกช่องทางการขายที่คนนิยมทำกัน
 
5.งานแฮนด์เมด
 
 
แยกออกมาจากเรื่องของอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเพราะงานแฮนเมดนี้จัดรวมเอาทุกอย่างที่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งบ้าน สินค้าแปลกๆ สินค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีวางขายที่ไหน เป็นงาน DIY ที่ทำเองขายเองส่วนใหญ่ สินค้าแฮนด์เมดก็นับว่าเป็นสินค้ายอดฮิตที่คนนิยมนำมาโพสต์ขายใน Facebook และ Instragram

แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นงานที่น่าสนใจและไม่ซ้ำแบบใครช่องทางโซเชี่ยลอาจเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่ไม่ใช่แค่ลูกค้าทั่วไปหากเป็นงานที่มีคุณภาพอาจได้รับการติดต่อจากร้านค้าหรือว่าโรงแรมเพื่อนำสินค้านั้นไปจัดจำหน่ายหรือใช้งานอันจะเป็นการขายในเชิงปริมาณที่ถือว่าพ่อค้าแม่ค้าคนนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทีเดียว
 
6.สินค้าไอที
 
พวกแกดเจทล้ำๆ อุปกรณ์ไอทีแบบแปลกใหม่เหล่านี้ล้วนแต่เป็นกระแสที่คนให้ความสนใจมาก แต่การหาสินค้าเหล่านี้มาขายก็จำเป็นต้องมีช่องทางสินค้าของตัวเองที่ดีพอ ใครที่คิดจะขายสินค้าในแนวนี้อาจต้องติดต่อกับบริษัทที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้เพื่อนำรูปภาพมานำเสนอและยิ่งถ้าเปิดตัวได้เร็วเท่าไหร่โอกาสในการขายก็จะมีมาก สิ่งสำคัญคือต้องเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆเป็นอย่างดีเพื่อให้พูดคุยกับลูกค้าและสามารถตอบคำถามที่ลูกค้าต้องการได้
 
7.แพคเกจต่างๆ
 
โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยวที่ถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นสินค้าน่าสนใจติดอันดับหนึ่งในหมวดหมู่ของสินค้าที่ลูกค้ามีความต้องการ แพคเกจเหล่านี้การจะได้มานั้นเราก็ต้องมีการติดต่อดิวงานกับทางบริษัททัวร์ต่างๆในการช่วยโปรโมทแพคเกจและใครที่ติดต่อเข้ามาผ่านช่องทางของเรารายได้ก็จะตามแต่ที่ตกลงกับทางบริษัท แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือคุณภาพในการบริการที่เราต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่าซื้อแพคเกจจาก Facebook และ Instragram จากเรานั้นจะได้บริการที่ดีจากทางบริษัททัวร์ที่เป็นต้นทางของโปรโมชั่นเหล่านี้ด้วย
 
นอกจากสินค้าที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ก็ยังมีสินค้าและบริการอื่นๆ อีกมากมายในลักษณะของเบ็ดเตล็ดรวมถึงปัจจุบันก็มีหลากหลายแฟรนไชส์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายของบน Facebook และ Instragramซึ่งก็ถือว่าเป็นช่องทางค้าขายสำหรับโลกยุคใหม่ที่ไม่มีต้นทุนในเรื่องราคาแต่มีต้นทุนในการบริหารจัดการที่ต้องรู้จักเทคนิคการทำ เทคนิคการโพสต์ที่ถูกต้องเหมาะสมก็จะช่วยทำให้การขายในโลกออนไลน์ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นด้วย
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
711
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
528
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
446
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด