ในปี 2017 เทคโนโลยี Social-Media มีการพัฒนารูปแบบมากขึ้น ก่อให้เกิดผู้นำที่มาแรงไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Snapchat ที่มีลูกเล่นในตัวเองมากขึ้น สวนทางกับบางค่ายอย่าง Twitter ที่เคยผ่านจุดพีคมาแล้วในปี 2017

จึงไม่หวือหวาและคาดว่าต้องเร่งสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆให้ตัวเองในปี 2018 นี้มากขึ้น ยังไม่รวมเทรนด์เทคโนโลยีอย่าง VR หรือการ Livestream  ที่นับแต่นี้จะมีบทบาทอย่างเห็นได้ชัด

www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวมเอา10โซเชี่ยลมีเดียที่คาดว่าในปี 2018 นี้จะเป็นกระแสสำคัญที่เข้าถึงฐานลูกค้าได้มากที่สุดลองดูกันเป็นตัวอย่างเผื่อว่าใครจะเอาไปใช้ทำการตลาดของตัวเองในปีนี้ได้

1.เทคโนโลยีที่เน้นความเสมือนจริง

ในปีที่ผ่านมา Apple ประกาศเปิด ตัว iPhone 8 และ iPhone X ที่มีชิพตัวใหม่ที่ช่วยให้โทรศัพท์สามารถมอบประสบการณ์ความเป็นจริงแบบพิเศษให้แก่ผู้ใช้ และคาดว่าจะเป็นต้นแบบของการแข่งขันด้านเทคโนโลยีเสมือนจริงในปีนี้ที่ทาง Snapchat หรือ Instagram ก็เริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้ว ทั้งนี้มีเป้าหมายเดียวคือการเข้าถึงกลุ่มคนยุคใหม่ได้มากขึ้น

2.กระแสของ Instagram Stories

Instagram มีการรุกตลาดในปีที่ผ่านมาด้วย Instagram Stories ที่ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพและแชร์วีดีโอสั้นๆพร้อมกับใส่สติ๊กเกอร์และข้อความประดับให้สวยงามแบบเต็มจอโชว์ให้คนอื่นๆเห็นและยังสามารถเช็คได้ด้วยว่ามีใครมาชมภาพหรือวีดีโอของเราบ้าง นั้นหมายความว่าคู่แข่งอย่าง Snapchat ก็ต้องรีบพัฒนาตัวเองก้าวตามเทรนด์นี้ให้ทันเพราะเทคโนโลยีนี้ของ Instagram มีคนใช้งานกว่า 200 ล้านคน ซึ่งตัวเลขสูงกว่า Snapchat ที่มีแค่ 50 ล้านคนเท่านั้น

3. influencer marketing

การลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการตลาดที่มีอิทธิพลในระยะหลังคือการใช้ influencer นักการตลาดกว่า 90 % ของบริษัทต่างๆเช่น North Face, Hubspot และ Rolex ต่างก็เลือกใช้วิธี influencer นี้ ในปี 2018 ก็เช่นกันที่แนวโน้มว่าแบรนด์สินค้าอื่นๆ จะเชื่อมต่อกับผู้ชมด้วย influencer มากขึ้น

4. Generation Z คือกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่

การศึกษาล่าสุดโดย Goldman Sachs ได้ข้อสรุปว่า Generation Z (คนที่เกิดหลังปี 1998) มีคุณค่าทางธุรกิจมากกว่า millennials (คนที่เกิดระหว่าง  1980 -1998) โดยGen Z อายุจะเริ่มต้นที่ประมาณ 22 ปี กำลังเริ่มเข้าสู่กำลังแรงงานและจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ของโลกยุคใหม่ที่มีความต้องการด้านสื่อออนไลน์ที่มากขึ้น ธุรกิจที่ขยับเพื่อดึงส่วนแบ่งการตลาดนี้เช่น Snapchat และ Instagram ที่ออกลูกเล่นในระบบใหม่ๆเป็นต้น

5.พัฒนาแพลตฟอร์มรับส่งข้อความ

ปัจจุบันแพลตฟอร์มการรับส่งข้อความมีผู้ใช้งานรวมกันกว่า 2.5 พันล้านคนในปี 2018 แบรนด์ต่างๆจะต้องทุ่มเวลาและเงินในการพัฒนาระบบนี้ให้ดีขึ้นเพื่อเชื่อมต่อผู้บริโภคได้ทันยุคสมัย หนึ่งในเทคโนโลยีที่จะนำมาผนวกกันเช่นการใช้  chatbots ผสมผสานบนแพลตฟอร์มอย่าง Messenger, WhatsApp และ Kik ที่จะช่วยเพิ่มสีสันการติดต่อได้มากขึ้น

6.สตรีมมิ่งแบบสดจะมาแรง

ปี 2018 เราจะเริ่มเห็นแบรนด์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กเริ่มใช้สตรีมสดเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ติดตามมากขึ้น โดย GORUCK แบรนด์ผู้ผลิตกระเป๋าเป้สะพายหลังและผู้จัดงานอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการใช้เทคโนลีสตรีมมิ่งอย่างได้ผลโดยปีที่ผ่านมาบน Facebook ของ GORUCKมีผู้ติดตามนับพันคน ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่มคนในอีกรูปแบบที่น่าสนใจ 

7.การพัฒนาธุรกิจของTwitter 

ต้องยอมรับกันว่าปีที่ผ่านมาไม่ใช่เวลาที่ดีนักของ Twitter การเพิ่มขึ้นของยอดผู้ใช้งาน Twitter นั้นน้อยลงเมื่อเทียบกับ LinkedIn, Facebook และ Instagram ในปี 2018 Twitter เองที่รู้ถึงปัญหาใหญ่นี้กำลังจะแก้ปัญหาตัวเองด้วยการขายบริษัท ให้แก่นักลงทุนเอกชนการเปลี่ยนแพลตฟอร์มเพื่อรวมองค์ประกอบการสมัครสมาชิกและ / หรือการปรับเปลี่ยนตัวเลือกการโฆษณาบน Twitter เพื่อให้ธุรกิจเติบโตตามคู่แข่งได้มากขึ้น

8.อย่ามองข้าม Digital hangouts

Houseparty คือแพลตฟอร์มแฮงเอาท์วิดีโอที่ใช้โดยผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่ม Gen Z ที่มีรูปแบบคือการออกไปเที่ยวกับเพื่อนแบบดิจิทัล แพลตฟอร์มดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมากที่ Facebook และในปี 2018  Facebook จะประกาศ ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน กับ Houseparty ขึ้นมาเพื่อเป็นการแข่งขันกับ Instagram Stories อย่างเต็มรูปแบบ

9.Facebook Spaces 

Facebook ไม่ได้สนใจที่จะพัฒนาแค่การสตรีมวิดีโอสด ในปีที่ผ่านมายังมี Spaces ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถเชื่อมต่อกับ VR ได้ซึ่ง Facebook ได้เป็นเจ้าของ Oculus ซึ่งเป็นบริษัท ฮาร์ดแวร์เสมือนจริงและ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่นี้ให้มากที่สุด

10.นโยบายควบคุมจริยธรรมของสื่อออนไลน์

เมื่อกระแสออนไลน์นั้นยิ่งพูดถึงมากก็เริ่มที่จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มข้น ในปี 2018 การทำตลาดด้วยสื่อออนไลน์ต้องมีความรัดกุมและให้สอดคล้องกับจริยธรรมมากขึ้น ดังเช่น Facebook เองที่เริ่มใช้ระบบ AI เข้ามาติดตามการโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

หากมองให้ดีปี 2017 เป็นเหมือนจุดเริ่มเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปการตลาดยุคไอทีจะยิ่งมีความเข้มข้นและมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นชนิดที่ต้องตามติดให้ทันใครตกเทรนด์เรื่องสำคัญนี้จะมีผลเสียทางธุรกิจตัวเองไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S  

 

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/aHYprt