บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    ความรู้ทั่วไปทางการเงิน
7.7K
2 นาที
19 มีนาคม 2561
5 วิธีลงทุนใช้เงินต่อเงิน แบบไม่เจ๊ง ไม่เจ็บตัว
 

นักลงทุนผู้มีประสบการณ์กล่าวว่า “การเป็นนักลงทุนนั้นว่ายาก แต่การเป็นนักลงทุนที่ดีนั้นยากกว่า”  คนที่มีเงินไม่ได้หมายความว่าจะต้องประสบความสำเร็จในการลงทุนแบบเงินต่อเงินเสมอไป ตรงกันข้ามหากจะวัดความสำเร็จว่าใครเก่งกว่าควรให้เริ่มจากวงเงินน้อยๆที่เท่ากันในระยะเวลาเท่ากันใครทำเงินได้มากกว่านั้นคือนักลงทุนที่ดี
 
แน่นอนว่าปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนแบบเงินต่อเงินมีอยู่มาก ประสบการณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ และแน่นอนเช่นกันว่าทุกการลงทุนก็ไม่มีใครอยากเสี่ยง อยากเจ็บตัว หรือเจ๊งกับการเอาเงินต่อเงิน

www.ThaiFranchiseCenter.com เองก็ไม่อยากเห็นภาพการลงทุนที่พาตัวเองไปเจ๊งไม่เป็นท่า ยิ่งบางคนมีทุนน้อยหากพลาดพลั้งคราวเดียวอาจหมายถึงหายนะทั้งชีวิตด้วยเหตุนี้ลองมาดู 5 วิธีป้องกันการลงทุนแบบใช้เงินต่อเงินที่ไม่ให้เจ๊ง ไม่ให้เจ็บตัว มีอะไรกันบ้าง
 
1.เปิดกระเป๋าดูก่อนว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่
 

เช็คตัวเองก่อนเลยหากคิดจะเป็นนักลงทุนแบบเอาเงินต่อเงิน แนะนำว่าหากเปิดกระเป๋า เปิดบัญชีทุกใบทุกธนาคารดูแล้ว พบว่ายอดเงินรวมทั้งหมด นั้นน้อยเหลือเกินเช่นมีไม่เกิน 20,000 สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่หาว่าจะลงทุนกับกองทุนไหนดี

แต่ควรจะมองว่าหาอะไรมาเพิ่มรายได้ของตัวเองให้มีเงินสะสมเพิ่มมากขึ้นก่อน อย่าคิดไปเสี่ยงเอาดาบหน้าเพราะการลงทุนเงินต่อเงินมีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวแล้วการลงทุนในจำนวนน้อยผลตอบแทนก็ไม่มากตามไป เราต้องคิดเรื่องนี้ให้ดีและต้องคิดถึงคนรอบข้างไปพร้อมกันด้วย
 
2.แบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนให้ได้
 

วิธีการบริหารการเงินที่ดีจะนำเราไปสู่การเป็นนักลงทุนที่ดีได้ สัดส่วนของเงินที่เราควรแบ่งไว้หลักๆควรมี 3 ส่วนคือ เงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน , เงินสำหรับการลงทุน  , เงินฉุกเฉินในกรณีที่จำเป็น  อย่าลงทุนเอาเงินต่อเงินถ้าตัวเราเองยังไม่พร้อมเพราะนอกจากจะไม่ได้ผลยังเหมือนเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ทางที่ดีต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบก่อนถึงคิดลงทุนต่อไปได้
 
3.มีเงินเย็นที่ไม่ได้ไปกู้ใครมา
 

เงินเย็นในที่นี้หมายถึงเงินของเราเองที่เกิดจากอะไรก็ได้แต่ต้องไม่ใช่เงินที่ไปกู้คนอื่นมาและต้องมานั่งแบกภาระเสียดอกเบี้ยรายเดือน รายปี การลงทุนที่ดีคือต้องมีสภาพคล่องทางการเงินที่สมบูรณ์

อย่าเชื่อกับคำชวนของโบรคเกอร์หรือใครก็ตามที่พูดว่าลงทุนมาเถอะ มีเงินนิดเดียวก็ลงทุนได้ ซึ่งสารพัดตัวอย่างที่เอามากล่าวอ้าง นั้นไม่ใช่เหตุผลที่เราควรเชื่อเพราะหากผิดพลาดพลั้งมา เงินลงทุนก็ไม่ได้คืนแถมยังต้องมากลุ้มกับดอกเบี้ยที่เสียให้กับเจ้าหนี้อีกด้วย
 
4.ศึกษาวิธีลงทุนให้ชำนาญ
 

ในระหว่างที่ยังไม่พร้อมก็ใช่ว่าจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์เราสามารถหาข้อมูลการลงทุน วิธีการลงทุน แนวทางการลงทุน ศึกษาเทคนิคเหล่านี้ให้ชำนาญจนเกิดความเข้าใจว่ากองทุนไหนคือดีที่สุดสำหรับเรา หรือถ้าต้องการเล่นหุ้น ต้องเริ่มจากไหน อย่างไร และมีเทคนิคในการเทรดด์หุ้นอย่างไร และควรจิ้มเลือกหุ้นตัวไหนถึงจะดี ศึกษาเอาไว้ล่วงหน้าพอถึงเวลาที่เราพร้อมก็จะได้ลงมือเอาเงินต่อเงินได้อย่างมั่นใจ
 
5.อย่าโลภ
 

สั้นๆง่ายๆเทคนิคการลงทุนเงินต่อเงินคือ “อย่าโลภ” อย่าเชื่อในคำพูดคนอื่นมากเกินไป เราต้องแน่ใจในข้อมูลการลงทุนที่เราได้ศึกษามาเอง โดยเอาความคิดคนอื่นเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ เราต้องมีข้อมูลที่มากพอเพื่อให้เชื่อได้ว่าการลงทุนแบบไหนที่จะทำให้เราเสี่ยงน้อยที่สุด และในฐานะนักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากเงินลงทุนน้อยๆ ศึกษาเทคนิคควบคู่กันไป จนมั่นใจว่าโอเคแล้วก็สามารถลงทุนเพิ่มได้
 
คำว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง ผลงานที่ดีในอดีตไม่ได้ยืนยันถึงผลงานที่ดีในอนาคต คำกล่าวนี้เรามักจะได้ยินตอนท้ายของโฆษณาการลงทุนต่างๆ ซึ่งเขาก็ต้องการเตือนใจให้เราคิดหน้าคิดหลังให้ดีเพราะทุกวันนี้เงินหายาก ถ้าพลาดพลั้งไปสักครั้งอาจฟื้นสถานะกลับมาได้ลำบาก ดังนั้นเราจึงควรมีแผนสำรองเตรียมพร้อมไว้ในทุกกรณีด้วย
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด