บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.5K
2 นาที
24 เมษายน 2561
วิธีทำธุรกิจฟิตเนสให้ปัง!เทคนิคดีจากทั่วโลก
 
จากข้อมูลระบุว่าตลาดฟิตเนสในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่ผู้ใช้บริการหรือจำนวนสมาชิกของยิมต่างๆนี้มีไม่ถึง 1% ของจำนวนประชากรที่มี นั้นหมายถึงโอกาสในการเติบโตของฟิตเนสในเมืองไทยยังมีอีกมาก สิ่งสำคัญคือคนลงทุนในธุรกิจนี้ต้องรู้จักวิธีทำการตลาด รู้จักกลยุทธ์ในการบริหาร ซึ่งในต่างประเทศธุรกิจฟิตเนสเติบโตสูงมาก

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com ได้นำเอาเหตุผลและแนวคิดของการทำธุรกิจฟิตเนสจากต่างประเทศมาเป็นแนวทางสำหรับนักลงทุนเมืองไทยได้ศึกษาว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้เปิดตลาดสุขภาพนี้ได้มากยิ่งขึ้น
 
3 เหตุผลสำคัญทำไมธุรกิจฟิตเนสถึงเติบโตดีในต่างประเทศ
1.คนวัยทำงานห่วงสุขภาพมากขึ้น
 

ข้อมูลจาก Global Wellness Institute ระบุว่าประชากรกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลกเป็นกลุ่มใหญ่ที่เป็นวัยทำงาน และ 76% ของคนทำงานเหล่านั้นมีปัญหาด้านสุขภาพ ขณะที่ 52% น้ำหนักเกินหรืออยู่ในภาวะโรคอ้วน

ซึ่งสาเหตุก็มาจากไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เช่น นั่งทำงานหน้าจอนาน เคลื่อนไหวร่างกายน้อย ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดื่มจัดและสังสรรค์บ่อย เหล่านี้นำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเผชิญ คนจำนวนมากจึงเริ่มหันมาออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหา

2.กระแสของโซเชี่ยล
 

ถ้าย้อนกลับไปยุค 1970 คนที่คลั่งไคล้การออกกำลังกายจะถูกมองว่าแปลก แถมช่วงนั้นแฟชั่นชุดออกกำลังกายไม่มี ไม่เหมือนยุคนี้ที่การไปยิมจะเน้นชุด เน้นอุปกรณ์เสริมที่ทำให้ดูดีเพื่อจะได้ถ่ายรูปโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจที่ดีในกาออกกำลังกาย ธุรกิจฟิตเนสกับธุรกิจผลิตชุดออกกำลังกายชนิดต่าง ๆ จึงเติบโตไปด้วยกัน

3.ค่ารักษาพยาบาลที่แพงมากในยุคนี้

หลายคนเลือกที่จะป้องกันดีกว่าแก้ไข จึงนำมาสู่การออกกำลังกายที่สร้างเสริมสุขภาพให้ตัวเองแข็งแรงอันเป็นวิธีบริหารจัดการรายได้ของตัวเองทางหนึ่งที่พยายามให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งการป่วยแต่ละครั้งในปัจจุบันมีค่าหมอ ค่ารักษาพยาบาลที่สูงมาก การดูแลสุขภาพตัวเองจึงเป็นทางเลือกป้องกันที่ดีทางหนึ่ง

วิธีทำธุรกิจฟิตเนสให้ปังรับกระแสนิยม
1.ปรับขาดให้เป็น “มินิยิม”


เป็นกลยุทธ์การทำฟิตเนสของจีนที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาฟิตเนสในจีนผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้  เสิ่นเจิ้น นำไปสู่การพัฒนาจากยิมขนาดใหญ่กลายเป็น “มินิยิม”

ซึ่งยิมเหล่านี้ตั้งอยู่ตามข้างถนน รูปทรงคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ ขนาดตั้งแต่ 4 ตรม. 8 ตรม. 18 ตรม. ไปจนถึง 28 ตรม. ข้างในติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ทีวี เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องออกกำลังกาย เช่น ลู่วิ่ง จักรยาน อุปกรณ์ยกน้ำหนัก รองรับผู้ใช้บริการคราวละ 1 คน หรือหลายคนแล้วแต่ขนาดของยิมโดยคิดราคาเป็นนาทีหรือชั่วโมงตามแต่ต้องการ เริ่มตั้งแต่ 1 หยวน ถึง 16 หยวน
 
2.ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำธุรกิจและไม่เก็บค่าสมัครรายปี
 

ในจีนลูกค้าฟิตเนสสามารถสั่งจองการใช้งานผ่านแอปพลิชันสมาร์ทโฟน เลือกยิมสาขาที่สะดวก เมื่อชำระค่าบริการผ่านแอปฯ ก็จะได้รับรหัสเพื่อเปิดประตูยิมเข้าไปใช้บริการ รวมถึงฟิตเนสขนาดเล็กในจีนส่วนใหญ่ใช้ระบบแบบใช้งานเมื่อไหร่ก็จ่ายเมื่อนั้นไม่จำเป็นต้องเสียค่าสมาชิกรายปีที่เป็นเงินก้อนใหญ่ จึงทำให้ธุรกิจฟิตเนสเติบโตได้เร็วมาก
 
3.โมเดลยิมราคาประหยัด

ดูเหมือนว่ายิมราคาประหยัดจะได้รับความสนใจจากคนส่วนมากเช่นใน อังกฤษสมาชิกฟิตเนสในอังกฤษเพิ่มจาก 9.2 ล้านคนในปี 2016 มาอยู่ที่ 9.7ล้านคนในปี2017ขณะที่จำนวนยิมมีจำนวนกว่า 6,500 แห่ง

ส่วนหนึ่งเพราะมีต้นแบบจาก udget gym หรือยิมราคาประหยัดที่คิดค่าสมาชิกไม่เกิน 20 ปอนด์ต่อเดือน เทียบกับยิมระดับพรีเมียมบางแห่งที่คิดทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้า 400 ปอนด์และค่าบริการรายเดือนอีก 200 ปอนด์ ถือว่าประหยัดและตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ดีกว่ามาก ทำให้ยิมในลักษณะนี้มีสมาชิกกว่า 800,000 คนจากทั้งหมด 172 สาขา
 
4.สร้างความแปลกใหม่ในการออกกำลังกาย
 

ธุรกิจฟิตเนสในสหรัฐอเมริกาได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2012 มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นราวปีละ 1 ล้านคนซึ่งก็คาดการณ์ต่อไปว่าในปี 2022 อัตราการเติบโตของฟิตเนสจะอยู่ที่ 1.5%ต่อปี

และด้วยความที่ธุรกิจฟิตเนสค่อนข้างอยู่ตัวดีแล้วทำให้ยิมเหล่านี้ต้องสร้างคอร์สออกกำลังที่แตกต่างดึงดูดลูกค้ามากขึ้น เช่น Barry’s Bootcamp & Solidcore เป็นยิมที่เน้นการออกกำลังกายเหมือนการฝึกในค่ายทหาร และการเน้นความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว หรือ cryotherapy หรือสปาเยือกแข็งที่บำบัดความเจ็บปวดและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และกระกระตุ้น biceps กล้ามเนื้อมัดที่อยู่ด้านหน้าต้นแขนด้วยไฟฟ้า เป็นต้น
 
5.ต้องพยายามนำเทรนด์ไปสู่อนาคต
 
การออกกำลังก็เป็นเหมือนสินค้าหนึ่งที่ต้องมีพัฒนาการนอกจากการสร้างความแปลกและแตกต่างก็ยังต้องคิดค้นสิ่งที่นำหน้าไปสู่อนาคตด้วย เช่นในสหรัฐบางยิมเอาใจกลุ่มคนออกกำลังรุ่นใหม่

ด้วยการสร้างคอร์สออกกำลังกายแบบที่ไม่ค่อยมีเช่น พิลาทิส โยคะ TRX และ HIIT ร่วมถึงการใส่ใจในความเป็นสังคมผู้สูงอายุที่ชัดเจนมากขึ้นจึงมีการทำคอร์สออกกำลังแบบ aqua resistance หรือการออกกำลังกายในน้ำได้รับความนิยมอย่างมากในประชากรสูงวัยด้วยเช่นกัน
 
ยุคนับแต่นี้ต่อไปเทรนด์สุขภาพถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่ใช่แค่เรื่องฟิตเนสหรือออกกำลังเท่านั้น แม้แต่เรื่องอาหารและนวัตกรรมใหม่ๆที่ต้องมีโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีและห่างไกลโรคภัยมากขึ้น ตลาดสุขภาพนี้ยังมีมูลค่าอีกมหาศาลขึ้นอยู่กับว่าใครจะค้นหาวิธีการเจอก่อน ซึ่งคนๆนั้นก็คือมหาเศรษฐีคนต่อไปนั่นเอง
 

SMEs Tips
  1. ปรับขาดให้เป็น “มินิยิม”
  2. ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำธุรกิจและไม่เก็บค่าสมัครรายปี
  3. โมเดลยิมราคาประหยัด
  4. สร้างความแปลกใหม่ในการออกกำลังกาย
  5. ต้องพยายามนำเทรนด์ไปสู่อนาคต
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
 
ขอบคุณข้อมูล goo.gl/2XMYSq , goo.gl/LkMYG7
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด