มนุษย์เงินเดือนคนไหนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่อย่างคอนโดมิเนียมราคาจับต้องได้หรือบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้าน ซึ่งจุดเริ่มต้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีงบจำกัดนั้น ส่วนใหญ่แล้วต้องเริ่มต้นที่การกู้ยืมจากธนาคาร

และแน่นอนว่าการขอสินเชื่อเพื่อกู้ยืมนั้นคุณจะต้องสำรวจตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าประวัติรายรับ-รายจ่ายของคุณเป็นอย่างไร มีการออมเงินเตรียมตัวเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ของการซื้อบ้านหรือไม่ เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้ธนาคารมีสิทธิ์ที่จะนำไปประกอบการประเมินและตัดสินใจว่าจะปล่อยเงินกู้ให้คุณหรือไม่นั่นเอง

 

และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการสำรวจค่าใช้จ่ายส่วนตัวและภาระหนี้สินอื่นๆ ว่าในขณะที่คุณกำลังจะตัดสินใจขอยื่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านนั้น คุณมีภาระอะไรที่กำลังผ่อนอยู่หรือไม่ มีหนี้บัตรเครดิตหรือเปล่า

เพราะบางครั้งหากคุณไม่สามารถปิดยอดชำระหนี้สินได้ คุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโรแบบไม่รู้ตัว แต่หากคุณไม่ได้ติดเครดิตบูโร ไม่มีประวัติเสียหาย คุณก็มีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารอย่างแน่นอน

 

สำหรับหลักการง่ายๆ หากคุณต้องการรู้ว่าเงินเดือนอย่างคุณจะสามารถกู้บ้านได้กี่เปอร์เซ็นต์ สามารถคิดได้จาก 

 

 

* หมายเหตุ* เงินที่สามารถชำระได้ต่อเดือน = เงินเดือนที่เราได้รับ x DSR ซึ่ง DSR คือ ภาระหนี้ทั้งหมดหารด้วยรายได้สุทธิหรือคิดคร่าวๆ อยู่ที่ประมาณ 40%*

 

 

 

หรือดูได้จากการเปรียบเทียบปริมาณเงินเดือนกับจำนวนเงินที่เราสามารถกู้ได้ โดยคิดที่ DSR 40% มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี และไม่มีภาระทางการเงินอื่นๆ

 

 

ขอขอบคุณที่มา : moneyhub.in.th

 

และหากใครที่เป็นมือใหม่แกะกล่องไม่รู้ว่าหากอยากจะซื้อคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ หรือบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้าน ต้องมีขั้นตอนอะไรบ้างตามมาดูขั้นตอนเหล่านี้กันเลยดีกว่า

 

แน่นอนว่าขั้นตอนแรกคือ การเลือกเฟ้นโครงการบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด โดยอาจจะพิจารณาจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ทำเลที่ตั้งของโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณ การเดินทางที่สะดวกสบาย รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมรอบข้างที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าโครงการบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านโครงการนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยในอนาคตของคุณอย่างแน่นอน

 

การวางเงินจอง
 

หลังจากที่ตกลงปลงใจเลือกบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านที่จะเป็นบ้านหลังใหม่ของคุณในอนาคตได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการวางเงินจองหรือเงินมัดจำเพื่อเป็นหลักประกันว่าบ้านในฝันหลังนั้นๆ จะเป็นของคุณ ซึ่งการวางเงินจองนั้นจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการว่าจะกำหนดมาเท่าไหร่ เพื่อให้คุณได้ทำสัญญาในการจองบ้านต่อไปนั่นเอง

อีกทั้งหากคุณต้องการผ่อนดาวน์คุณก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้คือการทำสัญญาจะซื้อเพื่อจะได้ทะยอยผ่อนชำระเงินดาวน์จนกว่าโครงการนั้นๆ จะสร้างเสร็จ โดยระยะเวลานั้นมักจะใกล้เคียงกับระยะเวลาในการก่อสร้างโครงการ และหากยิ่งวางเงินจองดาวน์มาก คุณก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนและระยะเวลาในการผ่อนที่สั้นลง 

 

คำนวณวงเงินกู้เพื่อขอยื่นกู้เงิน
 

หลังจากวางเงินจองบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านเรียบร้อยแล้วสิ่งต่อมาคือการรอโครงการก่อสร้างให้เสร็จประมาณ 80-90% เพื่อที่จะได้เข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการกู้ยืม ซึ่งคุณจะทำเองหรือให้ทางโครงการทำให้ก็ได้ ซึ่งคุณสามารถขอรับคำปรึกษาได้จากหลากหลายธนาคารแล้วนำผลที่คุณพึงพอใจมาเปรียบเทียบกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมไปถึงการยื่นหลักฐานค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของคุณ เพื่อที่ธนาคารจะได้พิจารณาว่าคุณนั้นมีกำลังมากพอที่จะผ่อนจ่ายค่าบ้านในแต่ละงวดหรือไม่

 

การทำสัญญาซื้อขาย
 

เมื่อถึงขั้นตอนการทำสัญญาซื้อขายบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้าน ควรตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วน ตั้งแต่วันเวลาที่ทำสัญญา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาด ราคา หรือค่าปรับเมื่อเกิดการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันที่จะสามารถช่วยทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายเมื่อเกิดข้อผิดพลาดอีกด้วย

 

การโอนกรรมสิทธิ์ 
 

ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์นั้นถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อบ้าน โดยผู้ซื้อและผู้ขายต้องไปทำเรื่องที่กรมที่ดิน เพื่อให้การโอนสิทธิ์นั้นเป็นของเจ้าของบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านโดยสมบูรณ์แบบและทำการผ่อนชำระหนี้ไปจนกว่าจะหมดจ่ายค่าบ้านหมดจึงจะเป็นเจ้าของบ้านที่สมบูรณ์ หรือบางโครงการอาจจะมีบริการรับดำเนินเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์แทนผู้ซื้อก็สามารถทำได้อยู่ที่ว่าใครสะดวกดำเนินการแบบไหน

 

ถึงแม้ว่าขั้นตอนการดำเนินการซื้อขายบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้าน นั้นอาจจะฟังแล้วเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมที่คุณจะได้ครอบครองบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านที่ใฝ่ฝัน คุณก็ควรจะเรียนรู้ขั้นวิธีการเบื้องต้นเพราะเมื่อถึงเวลาจริงๆ แล้วคุณจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้การซื้อบ้านของคุณนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแบบไม่มีข้อผิดพลาดนั่นเอง