บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    ความรู้ทั่วไปทางการเงิน
2.7K
2 นาที
19 กรกฎาคม 2561
ทำอย่างไรเมื่อเงินขาดมือ
 

รายได้ของประชากรถือเป็นปัญหาระดับชาติ แม้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2561 จะดีขึ้นแต่จากผลการสำรวจกลับพบว่าหนี้สินในภาคครัวเรือนก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งหนี้สินโดยรวมภาคครัวเรือนในปี 2560 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 11.97 ล้านบาท เหตุผลที่ทำให้คนไทยมีเงินไม่พอจับจ่ายชักหน้าไม่ถึงหลังนั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งจำนวนคนว่างงาน อัตราค่าครองชีพที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน
 
อย่างไรก็ดีในเมื่อเกิดปัญหามาแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไปครั้นจะหวังไปพึ่งพารัฐบาลให้มาช่วยเหลือผ่านสวัสดิการต่างๆ ก็คงไม่ทันการณ์ www.ThaiFranchiseCenter.com มี 7 วิธีในการช่วยตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยในภาวะเงินขาดมือ ซึ่งวิธีการเหล่านี้อาจไม่ได้ช่วยให้มีเงินใช้จ่ายมากขึ้นแต่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา รูรั่วทางการเงินไม่ใหญ่ไปกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีวินัยทางการเงินที่เข้มแข็งมาก
 
1.ลดรายจ่ายให้เหลือเท่าที่จำเป็น
 

หากเกิดปัญหาเงินขาดมือสิ่งแรกที่ต้องทำทันทีคือ “รัดเข็มขัดให้แน่น” หมายถึงเราต้องจัดสรรระเบียบการจับจ่ายใช้สอยใหม่ทั้งหมด อะไรที่เคยจ่ายโดยไม่จำเป็น จ่ายเพราะความเคยชิน จ่ายเพราะความชอบ ต้องหยุดทั้งหมด รายจ่ายที่จะออกจากกระเป๋าต่อจากนี้ต้องมีความจำเป็นเท่านั้น

ซึ่งถ้าจะให้มองเห็นภาพก็กำหนดเงินที่ควรใช้ในแต่ละวันของตัวเองว่าเท่าไหร่เช่นใช้วันละ 100 ซึ่งก็ต้องมาคำนวณดูก่อนว่าเรามีค่าใช้จ่ายหลักๆอย่างไรบ้างเช่น ค่ารถ ค่ากิน ทั้งนี้อย่าลืมจัดทำเรื่องบัญชีซึ่งอาจจะทำให้เราพบรูรั่วทางการเงินที่ชัดเจนมากขึ้นก็ได้
 
2.ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
 

ปัญหาสำคัญเมื่อเงินขาดมือส่วนใหญ่เรามักจะเลือกไปหากู้ยืมจากแหล่งการเงินโดยเฉพาะพวกบัตรกดเงินสดทั้งหลาย ที่มักจะมีการเพิ่มวงเงินให้เราในยามจำเป็น ซึ่งมันก็เป็นผลดีในช่วงแรกๆ

แต่ในระยะยาวกลับกลายเป็นหนี้สินแบบดินพอกหางหมู เพราะเป็นเรื่องยากที่เราจะหาเงินมาจ่ายชำระได้ทัน ยิ่งการจ่ายอัตราขั้นต่ำใช่ว่าจะตัดยอดเงินกู้ให้เหลือน้อยได้ดีไม่ดีจะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น จากภาระเดิมที่เงินขาดมือก็จะยิ่งมีปัญหาการเงินเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวทีเดียว
 
3.หารายได้เสริม

เมื่อไม่แนะนำให้ไปกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือหารายได้เข้ามาเสริมเป็นการด่วน เงินขาดมือจะมานั่งงอมืองอเท้าเสี่ยงโชคลุ้นดวงอยู่กับบ้านไม่ได้ ต้องหาอะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นงานพิเศษ งานพาร์ทไทม์ งานฟรีแลนด์ต่าง ๆหรือแม้แต่การเลือกลงทุนขายของแบบที่ไม่ต้องใช้เงินทุนมากแต่หากมองเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะทำให้มีรายได้หมุนเวียนได้บ้างก็ควรลงมือทำอย่าได้ชักช้า
 
4.รีไฟแนนซ์
 

สาเหตุสำคัญของการเป็นหนี้ เงินชักหน้าไม่ถึงหลังส่วนหนึ่งเกิดจากภาระทางสินทรัพย์ที่เราต้องผ่อนไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถยนต์ ซึ่งรายจ่ายในส่วนนี้หากใครเคยมีประสบการณ์พบว่าแต่ละเดือนมีรายจ่ายไม่ต่ำกว่าหลัก 10,000

ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงเอาเรื่องแต่เราก็มีวิธีการรีไฟแนนซ์ที่จะช่วยลดดอกเบี้ยเหล่านี้ให้น้อยลง เราสามารถชำระได้ในวงเงินที่ถูกลง ซึ่งการรีไฟแนนซ์ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน แต่ทุกที่มีข้อกำหนดนี้เอาไว้ซึ่งเราก็ควรใช้ช่องทางนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
 
5.เปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นเงิน


 
ถ้าการหารายได้เสริมยังไม่ทันการณ์หรือภาวะชักหน้าไม่ถึงหลังของเรามันรุนแรงมากวิธีการที่จะหาเงินสดมาเสริมสภาพคล่องได้ดีที่สุดก็คือเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นเงิน ซึ่งยุคนี้ไม่ว่าจะรถยนต์ บ้าน ที่ดิน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทั้งสิ้นเพียงแต่หลังจากได้เงินสดเหล่านี้มาก็เท่ากับเรามีปัญหาหนี้สินตามมาด้วยเช่นกัน
 

หรือเราอาจจะเลือกการจำนำทอง หรือสินทรัพย์ที่เราไม่ต้องการไถ่คืนเช่น โทรทัศน์ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ภายในบ้านที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน ก็อาจเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์เหล่านี้มาเป็นเงินสดประทังชีวิตในยุคเงินขาดมือไปพลางๆ ก่อนได้
 
6.หาเงินจากคนใกล้ตัว (ไม่มีดอกเบี้ย)
 
เราไม่แนะนำให้หาเงินทุนจากแหล่งที่มีดอกเบี้ย เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้ตัวเองมีปัญหามากขึ้น แต่หากเรามีคนรู้จัก ญาติสนิท เพื่อน พ่อแม่ พี่น้องที่พอจะให้ความช่วยเหลือเราได้ในเรื่องเงินทุน ก็อาจจำเป็นที่ต้องไปขอความช่วยเหลือ

ซึ่งข้อดีของการยืมเงินจากบุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่มักไม่มีดอกเบี้ยแต่อย่างไรก็ตามต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าเงินที่ยืมคนอื่นมาจะต้องหามาใช้ทุกบาททุกสตางค์และห้ามเบี้ยวหนี้เป็นอันขาด เนื่องจากวันหนึ่งในอนาคตหากเกิดปัญหาเงินขาดมือจะได้มีที่พึ่งพิงยามยากได้
 
7.บริหารการเงินให้เป็นระบบ
 

และเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเงินขาดมือกลับมาหาเราได้อีกเราควรมีระบบการบริหารการเงินที่ชัดเจน มีการจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายที่มีคุณภาพ มีการแบ่งเงินออกเป็นหมวดหมู่ทั้งเงินที่ควรเก็บออม เงินใช้ในยามฉุกเฉิน เงินที่ใช้สำหรับลงทุน เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แม้จะดูเป็นเรื่องละเอียดที่ยุ่งยาก แต่การมีวินัยทางการเงินและจัดระเบียบการเงินได้ดีจะทำให้เรารู้เส้นทางการเงินที่เรามีอยู่ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเงินขาดมือในระยะยาวได้
 
ทั้งนี้ด้วยภาะค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สูงขึ้น หากเงินเดือนที่เราได้ยังไม่มากพอ ก็ควรมองหาช่องทางลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย อย่าชะล่าใจว่าเงินเดือนเราเยอะ เงินโบนัสเรามาก เพราะหากวันหนึ่งวันใด เรามีอันต้องออกจากงานหรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดฝันเราจะได้มีช่องทางสำรองในการหารายได้ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะได้ไม่มีปัญหาการเงินเข้ามาในอนาคต
 

SMEs Tips 
  1. ลดรายจ่ายให้เหลือเท่าที่จำเป็น
  2. ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
  3. หารายได้เสริม
  4. รีไฟแนนซ์
  5. เปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นเงิน
  6. หาเงินจากคนใกล้ตัว (ไม่มีดอกเบี้ย)
  7. บริหารการเงินให้เป็นระบบ
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
607
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
501
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
408
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด