บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
263
2 นาที
4 ธันวาคม 2568
“Paradox Mindset” ตัวแปรที่ทำให้ยอดขายธุรกิจ “ดิ่งเหว”
 

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้อาจไม่สู้ดีนัก ยอดขายของหลายธุรกิจมีแต่ทรงกับทรุด ร้านค้าร้านอาหารหลายแห่งทยอยปิดกิจการอันเป็นผลมาจากยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้า สวนทางกับต้นทุนทุกอย่างที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “กำลังซื้อ” ของคนตอนนี้ที่ลดลงมาก ถ้าดูข้อมูลต่างๆจะยิ่งเห็นภาพชัดเจน
  • 50% ของร้านอาหารที่เปิดใหม่ ปิดตัวภายในปีแรก
  • 48% ของผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าสถานะทางการเงินของตนเอง "แย่ลง"
  • 84% ของคนไทยมีความต้องการหารายได้เสริมเพิ่มจากงานประจำ
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึง งบประมาณที่ตึงตัว มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ก่อให้เกิดความกังวลด้านการจับจ่าย 
 
แต่สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายทางธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วในทางจิตวิทยาทุกคนอยากซื้อ อยากจ่าย ต้องการความสุขความสบาย เพียงแต่ “ความไม่พร้อม” คือตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก 
 
Paradox Mindset วิธีที่ธุรกิจต้องเอาชนะความคิดผู้บริโภค
 

ภาพจาก https://app.envato.com

หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า “อยากซื้อ” แต่ก็มีเหตุผลในหัวเยอะแยะมากมาย บางทีเหมือนเป็นความคิด 2 ขั้วที่อยู่ในหัวตัวเอง ซึ่งในทางธุรกิจหากเราทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่า “ทำไมต้องซื้อ” อาจเป็นตัวเพิ่มยอดขายได้ดี และสิ่งนี้ในทางการตลาดเรียกว่า Paradox Mindset โดยมีตัวอย่างของความคิดย้อนแย้งในหลายรูปแบบ ได้แก่
  • อยากซื้อ แต่ ไม่มีเงิน
  • ความต้องการสินค้า กับ ความจำเป็นที่แท้จริง
  • ต้องการสินค้าตามกระแส กับ ประโยชน์ที่แท้จริงของสินค้านั้น
ซึ่งความคิดที่ย้อนแย้งกันนี้อาจเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจมียอดขายลดลงเพราะสุดท้ายผู้บริโภคตัดสินใจเลือกที่จะไม่ซื้อเพราะมีเหตุผลอื่นที่ขัดแย้งมาเกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของธุรกิจที่ต้องสร้างความเชื่อมั่น ให้ลูกค้ามั่นใจ กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกว่าอยากซื้อ เอาชนะเสียงในหัวลูกค้าให้ได้ ก็จะมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นด้วย
 
ยกตัวอย่างที่เข้าใจง่ายๆ เช่น ร้านอาหารที่อาจจะมีตัวเลือกมากเกินไปทำให้เกิด "decision paralysis" หรืออาการตัดสินใจไม่ได้เนื่องจากกลัวเลือกผิด ส่งผลให้ลูกค้าลังเลหรือเลิกซื้อ ยอดขายมีโอกาสลดลง 20-30% วิธีแก้ปัญหาก็ง่ายๆอย่างเช่น McDonald's ที่ลดเมนูให้เหมาะสมกับความต้องการทำให้ยอดขายเพิ่มเพราะลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น


ภาพจาก https://app.envato.com
 
หรืออีกหนึ่งความคิดย้อนแย้งที่สำคัญของลูกค้าคือ อยากได้เร็ว แต่ก็อยากได้ของดี ถ้าร้านค้าจับเอา Mindset นี้มาใช้ได้มีโอกาสเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน เพราะมีข้อมูลที่ระบุว่าการที่ลูกค้าต้องรอคิวนานลดโอกาสในการสร้างยอดขายถึง 60%
 
ตัวอย่างของธุรกิจที่แก้ปัญหา Mindset นี้ได้อย่างดีเยี่ยมคือ After You ที่หันมาใช้การจองคิวออนไลน์ ทำให้ลดเวลาในการรอคอยของลูกค้าได้มากถึง 40% แถมยังรักษาคุณภาพสินค้าไว้ได้ ส่งผลให้ลูกค้าเอง กล้าตัดสินใจที่จะใช้บริการเพิ่มมากขึ้น 
 
หรือการที่ลูกค้าเองมีความรู้สึกย้อนแย้งว่า อยากซื้อของมากขึ้น แต่ไม่อยากให้ราคารวมออกมาแพงเกินไป ในบางธุรกิจก็แก้ปัญหา Mindset นี้ด้วยการจัด “ชุดคอมโบ” ได้สินค้าเพิ่มขึ้น ในราคาที่ไม่แพง กระตุ้นให้มียอดขายต่อบิลได้สูงกว่า 30% เป็นต้น
 
อย่างไรก็ดีในมุมของ Paradox Mindset ได้แยกย่อยการใช้จ่ายตาม Gen ต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจได้แก่
  • Baby Boomer เป็นกลุ่มที่ลดการใช้จ่ายมากที่สุด โดยจะใช้จ่ายเฉพาะเรื่องที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
  • Gen X เริ่มเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยมีแนวโน้มลดการใช้จ่ายมากขึ้น
  • Gen Y  มีรูปแบบการใช้จ่ายที่คล้ายกับ Gen Z แต่มีการเพิ่มความสนใจในเรื่องอื่น ๆ เข้ามาด้วย
  • Gen Z  เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้ม "อยากจ่ายมากที่สุด" และลดการใช้จ่ายน้อยมาก เนื่องจากยังอยู่ในวัยที่อยากสำรวจและทดลอง คนกลุ่มนี้ยอมจ่ายเพื่อสิ่งที่เป็นส่วนตัว เช่น การดูแลตัวเอง, สัตว์เลี้ยง, ความงาม และการวางแผนทางการเงิน

ภาพจาก https://app.envato.com

การที่แต่ละธุรกิจจะนำเอา Paradox Mindset มาใช้เพิ่มยอดขายก็ต้องศึกษาแนวทางและความต้องการของลูกค้าที่เข้าใจความต้องการได้อย่างแท้จริงโดยมีหลายวิธีการที่นำมาใช้ร่วมกันได้เช่น
  • Personalization การนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล
  • Experiential Marketing การมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ ทั้งในรูปแบบ Physical และ Digital เพื่อกระตุ้นกลุ่มคนสูงอายุที่มีกำลังซื้อให้ตัดสินใจเร็วขึ้น
  • Phygital Approach การผสมผสานโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ  
ดังนั้นหากเข้าใจ Paradox Mindset ได้อย่างลึกซึ้งจะทราบดีว่านี่ไม่ใช่แค่การยอมรับความขัดแย้งในใจของผู้บริโภค แต่เป็นโอกาสในการกระตุ้นยอดขาย 
 
ซึ่งต้องใช้ไอเดียด้านการตลาดเข้ามาประยุกต์เพื่อเชื่อมต่อให้ถึงความรู้สึกลูกค้า เพราะมนุษย์ทุกคนมีความอยากซื้อ อยากได้ อยากเป็นเจ้าของ เพียงแต่มีความคิดขัดแย้งที่มากำหนดให้พฤติกรรมการซื้อต้องถูกจำกัด 
 
หากธุรกิจรู้จักการทลายกำแพงความคิดเหล่านั้นลงได้ แม้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ก็มีโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
544
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
468
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
414
ปี 2025 ธุรกิจยิ่งทำยิ่งจม! Preemptive Adaptatio..
361
เพิ่มวิวไลฟ์สด ให้ยอดขายพุ่ง! ดันแฟรนไชส์ของคุณใ..
359
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
356
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด