เป้าหมายของคนทำงานคือ มีเงินจับจ่ายใช้สอยแบบไม่ขาดแคลน ยิ่งเหลือเก็บได้ก็ยิ่งดี ความคิดของคนส่วนใหญ่จึงมุ่งที่จะเรียนในสายวิชาที่จบออกมาแล้วได้เงินดี โดยในปีการศึกษา 2560-2561 นี้คาดการณ์ว่าจะมีผู้สำเร็จการศึกษาเฉพาะปริญญาตรีกว่า 377,000 คน แต่คนที่เรียนเก่ง จบจากสายที่ตลาดต้องการก็ไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะเริ่มต้นได้สุขสบายหรือรวยเร็วกว่าคืนอื่นได้

ภาพจาก goo.gl/images/xqJJ2D

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่ามีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นคำถามว่าดังนั้นแล้วเราจะเริ่มต้นชีวิตการทำงานแบบไหน อย่างไร เพื่อให้ชีวิตสุขสบายได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด

 

1.ความรู้อย่างเดียวไม่พอต้องมีประสบการณ์ด้วย
 

ถ้าอยากทำงานแล้วรวยเร็ว ได้เงินเดือนดีกว่าคนอื่น จะมาเริ่มต้นเอาตอนทำงานอย่างเดียวไม่ได้ ใครที่คิดว่าเรียนสบายๆ จบมาเดี๋ยวก็ได้งานดีๆ ขอให้กลับไปคิดใหม่ ยุคนี้ความรู้ไม่สำคัญเท่าประสบการณ์ คนที่จบตามหลักสูตรในแต่ละปีมีจำนวนมากแต่คนที่มีประสบการณ์ในการทำงานนั้นหาได้ยาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องการ ดังนั้นระหว่างเรียนสิ่งที่เราควรทำคือฝึกฝนการใช้ทักษะในด้านต่างๆ ทั้งจากการทำงานให้กับมหาวิทยาลัย การส่งงานเข้าประกวดต่างๆ เพื่อฝึกความสามารถในหลายๆ ด้านและเพื่อฝึกให้ตัวเองรู้จักการทำงานที่แท้จริงซึ่งจะมีผลมากต่อการเริ่มต้นทำงานหลังเรียนจบ

 

2.รู้จักควบคุมรายรับรายจ่าย
 

ทำงานใหม่ๆ เงินเดือนได้มาส่วนใหญ่มักหมดไปกับการเฮฮากับเพื่อนที่ทำงาน บางคนก็ซื้อของจิปาถะที่ไม่จำเป็น รวมถึงบางคนเลือกซื้อห้องเช่าคอนโดแบบแพงๆ ทั้งที่เงินเดือนตัวเองก็ยังไม่แน่นอน การหลงระเริงไปกับรายได้ในช่วงแรกแบบไม่รู้จักควบคุมตัวเองนี้มักมีผลในระยะยาวที่ทำให้ชีวิตมีอุปสรรคแทนที่จะเดินหน้าได้ส่วนใหญ่ก็มักจะทรงกับทรุดอยู่กับที่

ภาพจาก goo.gl/images/DU36TZ

3.ดูดความรู้จากที่ทำงานให้ได้มากที่สุด
 

คนเราไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง ในที่ทำงานจึงมีหลายแผนก มีคนมากมายในหลายหน้าที่ เราเองที่มีความรู้ในระดับหนึ่งจึงควรใช้โอกาสในการทำงานนี้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานในความรู้ที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน เช่นการซ่อมคอมพิวเตอร์ การทำกราฟฟิค การเจรจาการขาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ควรมีความรู้สะสมไว้กับตัวเองเพื่อประโยชน์ที่ดีในวันข้างหน้า

 

4.สร้างมิตรดีกว่ามีศัตรู
 

การที่จะทำงานให้เจริญก้าวหน้าควรเป็นไม้อ่อนที่ไหลไปตามกระแสแต่ก็ควรมีจุดยืนของตัวเองที่มั่นคง หมายความว่าเราเป็นมิตรได้กับทุกคน เรามีความเคารพนอบน้อม สัมมาคารวะ รู้จักเด็กผู้ใหญ่ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานทุกคน รับฟังความคิดของรุ่นน้องรุ่นพี่ ซึ่งการมีมิตรในที่ทำงานจะช่วยให้เราทำงานอย่างสบายใจ หรือในอนาคตที่เราลาออกจากที่ทำงานเดิมเราก็ยังมีพาร์ทเนอร์ที่ดีจากเพื่อนๆในที่ทำงานเก่าด้วย

ภาพจาก goo.gl/images/hZSMDo

5.อย่าหยุดที่จะเรียนรู้

นอกจากการเรียนรู้ในที่ทำงานเกี่ยวกับวิชาการใหม่ๆที่เราไม่เคยรู้ ทางที่ดีเราควรต่อยอดตัวเองด้วยความรู้ใหม่ ๆ อย่าขี้เกียจว่าทำงานเหนื่อยแล้ว เสาร์อาทิตย์ก็อยากหยุดพัก ซึ่งการหาที่เรียนในระหว่างทำงานนี้ในช่วงแรกอาจดูอึดอัดและไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน แต่อย่างน้อยก็มีผลในระยะยาวที่จะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกับการเรียนภาษาที่จะเหมือนการติดปีกให้เราเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก goo.gl/images/VSBPQy

6.สะสมเงินดีกว่าสะสมสิ่งของ
 

เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองในอนาคตด้วยการวางแผนการเงินระยะยาว ซึ่งบางคนไม่คิดเรื่องนี้ เงินเดือนที่ได้หมดไปกับของไร้สาระไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า  ดื่ม กิน เที่ยว สุดท้ายไม่มีเงินเก็บสะสมหรือไม่มีการซื้อสมบัติไว้เป็นของตัวเอง ถือเป็นผลเสียหายในระยะยาวและในอนาคตเราก็จะก้าวหน้าไม่ได้อีกด้วย

 

7.หารายได้เพิ่มสำคัญกว่าการเก็บออม
 

บางคนที่เงินเดือนแพงๆ อาจจะมองว่าการหารายได้เพิ่มไม่จำเป็นแต่ที่จริงนั้นก็ยังจำเป็นเพราะคนรวยส่วนใหญ่มักเข้าใจจุดนี้และเอาเงินที่ได้ไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมดีกว่าเก็บเอาไว้กินดอกเบี้ยที่ได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งการลงทุนนั้นก็มีหลายแบบให้เราเลือกได้ตามความเหมาะสม ซึ่งการรู้จักหารายได้มาเพิ่มเติมจะทำให้เรามีการเติบโตในอนาคตที่ดีด้วย

ภาพจาก goo.gl/images/Sav9ij

คนเราควรมีบันไดแห่งความฝัน และควรก้าวไปตามฝันนั้นทีละขั้นๆ เมื่อมาถึงขั้นแรกก็ให้มองก้าวที่ 2 ซึ่งอยู่สูงกว่า และหาหนทางที่จะก้าวไปถึงจุดสูงสุดในสักวัน การทำงานแบบมีเป้าหมาย มีแรงบันดาลใจจะทำให้เรากระตือรือร้นที่จะเดินหน้าดีกว่าทำงานไปวันๆ รอเงินเดือนไปทีละเดือน สุดท้ายเราก็เป็นได้แค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาที่ไม่มีวันรวยได้สักที

 

9.สร้างพันธมิตรจากลูกค้าที่รู้จัก
 

ในระหว่างการทำงานเราย่อมที่จะมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกค้ามากมาย ซึ่งลูกค้าแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นช่องทางให้เราได้ในอนาคต เริ่มตั้งแต่การมองหาโอกาสว่าเราจะทำธุรกิจอะไรได้บ้าง หรือในยามที่เราเริ่มลงมือก็จะมีลูกค้าที่รู้จักช่วยเหลือเราได้เช่นเป็นแหล่งวัตถุดิบราคาถูก การช่วยเหลือในเรื่องระบบบริหารจัดการ รวมถึงการมีพาร์ทเนอร์ที่ดีก็หมายถึงว่าหากเราทำธุรกิจในอนาคตเราก็มีเครือข่ายที่ทำให้ธุรกิจแข็งแรงได้รวดเร็วอีกด้วย

ภาพจาก goo.gl/images/7562wf

ด้วยปัจจัยมากมายทั้ง 9 ข้อนี้คือส่วนที่จะทำให้เราทำงานแล้วก้าวหน้าได้เร็วขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะมีความพยายามและอดทนที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนแต่ละวิธีการนั้นค่อนข้างจะต้องใช้เวลาแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวหากได้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง

 

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)